Follow us      
  
  

ไทยโพสต์ [ วันที่ 26/02/2556 ]
'สมาธิสั้นในเด็ก'โรคที่ต้องการความใส่ใจ

 "ภาวะสมาธิสั้น" หรือ "โรคสมาธิสั้น" เป็นภาวะผิดปกติที่มีมานานแล้ว แต่เพิ่งมาเป็นที่รู้จักในสังคมไทยเมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นภาวะที่เกิดจากสมองส่วนหน้าซึ่งทำหน้าที่ควบคุมสมาธิและพฤติกรรมยังมีการพัฒนาไม่เต็มที่ ซึ่งในอดีตคนส่วนใหญ่มองกว่าเป็นอาการเด็กซน ไม่ใช่โรคที่ต้องดูแลรักษา
          สำหรับประเทศไทยสำรวจพบว่า มีเด็กถึง 8% ที่ประสบภาวะสมาธิสั้น โดยจะพบบ่อยในเด็กชายมากกว่าเด็กผู้หญิงถึง 3 เท่า อาการหลักของสมาธิสั้นมี 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.พฤติ กรรมซุกซนไม่อยู่นิ่ง เคลื่อนไหวตลอดเวลา 2.มี พฤติกรรมขาดสมาธิ จดจ่ออะไรนานๆ ไม่ได้ ขี้ลืม เบื่อง่าย และ 3.มีพฤติกรรมขาดความยับยั้งชั่งใจตน เอง หุนหันพลันแล่น และอดทนรอคอยนานไม่ได้
          ถึงแม้ว่าภาวะสมาธิสั้นไม่ได้มีผลต่อการพัฒนาทางด้านร่างกาย เด็กที่มีภาวะนี้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสม อาจจะส่งผลต่อการพัฒนาการทางด้านจิตใจและสังคมในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อด้านการเรียน ความสัมพันธ์ในครอบครัวและเพื่อน นอกจากนี้ยังพบว่า หากเด็กกลุ่มนี้ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม เมื่อก้าวสู่วัยรุ่นจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการกระทำสิ่งผิดกฎระเบียบ หรือผิดกฎหมาย เช่น หนีโรงเรียน การขับรถเร็วเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และใช้สารเสพติด
          จากสถานการณ์ปัญหาดังกล่าว โรงพยาบาลมนารมย์จึงจัดการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "เรียนรู้และเข้าใจเด็กสมาธิสั้น" ขึ้น เพื่อส่งเสริมและให้ความรู้ความเข้าใจกับพ่อ แม่ ครู หรือผู้ปกครองในเรื่องของการดูแลและช่วยเหลือเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นอย่างถูกต้องและเหมาะสม โดย นพ.รังสรรค์ สิทธิชัย กุมารแพทย์และจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเด็กและวัยรุ่น รพ.มนารมย์ ให้เกียรติขึ้นบรรยาย
          ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า ความรู้ความเข้าใจในการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมแก่เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะบ่อยครั้งที่ครูและผู้ปกครองมักคิดว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กที่นิสัยไม่ดี ไม่ตั้งใจเรียน ไม่มีความรับผิดชอบ ขี้เกียจ พูดอะไรก็ไม่ฟัง สอนไม่จำ จนทำให้ได้รับการลงโทษที่รุนแรงอยู่บ่อยๆ
          "ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องของผู้ใหญ่ต่อเด็กกลุ่มนี้จะส่งผลดีอย่างมากกับเด็ก โดยจะทำให้เด็กสามารถมองตัวเองในแง่บวกได้มากขึ้น มีความภาคภูมิใจในตนเองมากขึ้น รู้สึกว่าตนเองก็มีคุณค่า มีความสามารถทำอะไรได้สำเร็จเหมือนกับเพื่อนๆ เด็กก็จะมีความเครียดน้อยลง มีความสุขมากขึ้น สัมพันธภาพระหว่างผู้ปกครอง คุณครู และเพื่อนก็จะไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในการเรียนและชีวิตมากขึ้น" นพ.รังสรรค์กล่าวเพิ่ม
          ทั้งนี้ กุมารแพทย์และจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเด็กและวัยรุ่นบอกต่อด้วยว่า ปัจจุบันการรักษาภาวะสมาธิสั้นที่ได้ผลประกอบไปด้วยการใช้ยา การปรับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม และการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม โดยครูและผู้ปกครองมีส่วนสำคัญช่วยให้เด็กสมาธิสั้นได้พัฒนาทักษะต่างๆ ที่จำเป็นในการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งการฝึกทักษะต่างๆ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการของสมองส่วนหน้า ที่ช่วยในเรื่องของสมาธิให้พัฒนามากขึ้น
          "การฝึกการจัดตารางเวลาและการจัดการกับเวลาเป็นการฝึกทักษะที่สำคัญ เพราะเด็กกลุ่มนี้มักมีพฤติกรรมขึ้นกับสิ่งเร้ามากกว่าเกิดจากการวางแผนในใจ หากปล่อยให้ทำอะไรโดยอิสระ เด็กจะไม่คิดใส่ใจเรื่องของเวลา จึงควรฝึกให้เห็นความสำคัญของเวลาและรู้จักวางแผน แบ่งเวลา โดยผู้ปกครองจะต้องคอยกำกับดูแลในช่วงแรก จนเด็กคุ้นเคยและปฏิบัติจนเป็นนิสัย" นพ.รังสรรค์กล่าว
          คุณหมอยังบอกเคล็ดลับเพิ่มด้วยว่า การแบ่งงานเป็นชิ้นเล็กๆ ให้เด็กสามารถทำเสร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น เด็กจะรู้สึกภูมิใจว่าตนได้ทำอะไรสำเร็จ ก็จะมีกำลังใจในการทำงานต่อ และยังช่วยฝึกให้เด็กมีการวางแผนล่วงหน้า รวมถึงการฝึกให้เด็กรู้จักควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์ของตนเอง และใช้กิจกรรมที่เด็กชอบและสนใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยความจดจ่อ เช่น ศิลปะและดนตรีก็จะช่วยส่งเสริมในเรื่องของสมาธิ และการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เด็กสามารถปลดปล่อยพลังงานของตนเองที่มีอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งจะทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และสามารถใช้สมาธิได้ดีขึ้น
          "สิ่งสำคัญที่สุดก็คือพ่อแม่จะต้องมีความอดทน ให้เวลา ให้ความรัก ความอบอุ่น และความเข้าใจ โดยจะต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในครอบครัว มีทัศนคติและให้แรงเสริมในเชิงบวกอยู่เสมอ มองเห็นคุณค่าในสิ่งเล็กๆ ที่เด็กทำ ก็จะช่วยทำให้เด็กสามารถปรับพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม"
          ธนาภรณ์ รติธรรมกุล ครูสอนเปียโน หนึ่งในผู้ฟังบรรยายเผยว่า การที่ครูมีความเข้าใจเด็กสมาธิสั้นจะช่วยลดความกดดันและความเครียดในการรับมือกับเด็ก เพราะเข้าใจปัญหาได้ดีมากขึ้น และการจัดวิธีการจัดการสอนที่ถูกต้อง จะช่วยให้เด็กที่มีปัญหาเกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ได้ ก็จะเป็นการพัฒนาที่มีผลระยะยาวถึงชีวิตของเด็กในอนาคต
          สรุปได้ว่า ...การเรียนรู้และเข้าใจเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น จะทำให้เขากลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต.

 

 pageview  1205458    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved