'รมว.ศธ.'เผยคาดว่าจะได้ตัวเลขเพิ่มขึ้นอีก/ส่วนเด็กเล็กรอไปเป็นปีหน้า
กรุงเทพฯ * ฉีดวัคซีนนักเรียน 12-17 ปี วันแรกคึกคัก นายกฯ ลงพื้นที่ให้กำลังใจ 'ตรีนุช' ปลื้มผู้ปกครองยินยอมให้นักเรียนฉีดวัคซีนแล้วกว่า 80% คาดจะมีเพิ่มเข้ามาอีก ส่วนกลุ่มเด็กเล็กต้องรอวัคซีนที่ได้รับการรับรอง
เมื่อเวลา 06.40 น. ที่โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ ลาดพร้าว กทม. นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจัดการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี โดยได้มีการสอบถามและให้กำลังใจแก่ผู้ปกครองและกลุ่มนักเรียนที่เดินทางมาฉีดวัคซีน สำหรับโรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์มีนักเรียนกลุ่มอายุระหว่าง 12-17 ปี จำนวน 799 คน และมีนักเรียนที่แสดงความจำนงขอรับวัคซีน จำนวน 695 โดยในวันที่ 4 ตุลาคมนี้เป็นการฉีดวัคซีนรอบ Kick-off มีนักเรียนที่เข้ารับวัคซีน จำนวน 200 คน
โดยนางสาวตรีนุชกล่าวตอนหนึ่งว่า การฉีดวัคซีนครั้งนี้ถือเป็นการ Kick-off วันแรก ตามโครงการเปิดภาคเรียนภายใต้ความปลอดภัย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยสาธารณสุขประจำจังหวัดจะร่วมมือกับศึกษาธิการจังหวัด ทำหน้าที่บริหารจัดการวัคซีนให้นักเรียนในแต่ละพื้นที่ที่ได้รับวัคซีน โดยขณะนี้มีหลายจังหวัดที่วัคซีนเดินทางไปถึงแล้ว ก็จะต้องมีการดำเนินการฉีดให้กับนักเรียนต่อไป สำหรับข้อมูลผู้ปกครองที่มีความยินยอมให้บุตรหลานรับวัคซีน Pfizer ขณะนี้มีเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 และตนคิดว่าตัวเลขนี้จะทยอยเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยังได้ประสานงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อที่จะบริหารจัดการกลุ่มนักเรียนที่ผู้ปกครองแสดงความจำนงรับวัคซีนช้า หรือกลุ่มตกหล่น เพื่อที่จะบริหารจัดการวัคซีนสำหรับเด็กกลุ่มนี้ด้วย
สำหรับการเปิดเรียนภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนั้นจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าการจัดการเรียนการสอนจะจัดในรูปแบบใดเท่านั้น เพราะการฉีดวัคซีนถือเป็นมาตรการหนึ่งในการสร้างความปลอดภัยในการจัดการเรียนการสอนเท่านั้น แต่การเปิดสอนแบบ On Site นั้นยังคงมีมาตรการอื่นๆ ที่จะต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย
"นอกจากนี้ ศธ.ยังได้รับการประสานงานของ สธ.ในส่วนของการฉีดวัคซีนให้แก่ครู ที่ขณะนี้ได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า ร้อยละ 70 ซึ่งนายกฯ กำชับว่าจะต้องให้ครูได้รับวัคซีนควบคู่ไปด้วย ส่วนกลุ่มเด็กที่ไม่เข้ารับ วัคซีนนั้น ศธ.ได้มอบหมายให้โรงเรียนประสานกับผู้ปกครองเพื่อสร้างความเข้าใจ และสำหรับกลุ่มนักเรียนที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปีนั้น ศธ.มีการหารือร่วมกับ สธ.อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็รอว่าจะมีวัคซีนไหนที่ได้รับการรับรองที่จะฉีดให้แก่เด็กกลุ่มนี้ได้ ถ้าได้รับการยืนยันที่ชัดเจน ศธ.ก็จะบริหารจัดการให้เด็กได้รับวัคซีนทันที" รมว.ศธ.กล่าว
จากการสำรวจของ ศธ.พบว่า มีนักเรียนอายุ 12-17 ปีที่เข้าข่ายฉีดวัคซีนได้ประมาณ 5 ล้านคน หรือยังมีนักเรียนอีกประมาณ 1 ล้านคนที่ยังไม่ได้ตกลงใจว่าจะฉีดวัคซีน. |