Follow us      
  
  

ไทยโพสต์ [ วันที่ 27/08/2564 ]
ห่วงคนท้องติดโควิดพบอัตราเสียชีวิตสูง

 ยื่นข้อเสนอสธ.แก้ปัญหาคนท้อง
          ห่วงหญิงท้องติดโควิด 60 คนต่อวัน พบฉีดวัคซีนไม่ถึง 10% จากตั้งครรภ์ ทั้งประเทศ 5 แสนราย หมอสูติฯ เผยอัตราเสียชีวิตสูงร้อยละ 2.5 แซงอัตราตายคนทั่วไป ระบุอายุครรภ์น้อยยิ่งน่าห่วง เตรียมยื่นหนังสือ สธ.เร่งแก้ ปัญหา-ขอวัคซีนให้คนท้อง
          ไทยโพสต์ * ห่วงหญิงท้องติดโควิด 60 คนต่อวัน พบฉีดวัคซีนไม่ถึง 10% จากตั้งครรภ์ทั้งประเทศ 5 แสนราย หมอสูติฯ เผยอัตราเสียชีวิตสูงร้อยละ 2.5 แซงอัตราตายคนทั่วไป ระบุอายุครรภ์น้อยยิ่งน่าห่วง เตรียมยื่นหนังสือ สธ.เร่งแก้ปัญหา-ขอวัคซีนให้คนท้อง
          วันที่ 26 ส.ค. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว ร่วมกับกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ได้มีการจัดเสวนาออนไลน์ เรื่อง "สิทธิและการรักษาดูแล เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ช่วงโควิด-19" โดย น.ส.อังคณา อินทะสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-18 ส.ค.2564 มีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อ   โควิด-19 ถึง 2,327 คน หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 50-60 รายต่อวัน อายุ 35 ปีขึ้นไปติดเชื้อมากสุด โดยมารดาเสียชีวิต 53 ราย และทารกเสียชีวิต 23 ราย ทำคลอดไปแล้ว 1,129 ราย ส่วนใหญ่ผ่าตัดคลอดและคลอดก่อนกำหนดเกือบ 18% เทียบกับการคลอดก่อนกำหนดในสถานการณ์ปกติของไทยอยู่ที่ 1% ทั้งนี้ ข้อมูลวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่าปัจจัยการเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ติดโควิดกว่า 70% เป็นข้อจำกัดภายในระบบบริการ 21% เป็นปัญหาการเข้าถึงบริการ และ 9% เป็นปัญหาจากหญิงตั้งครรภ์เอง
          น.ส.อังคณากล่าวว่า ที่น่ากังวลคือพบหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนประมาณ 1.4 หมื่นคน หรือไม่ถึง 10% จากอัตราการตั้งครรภ์ทั้งประเทศ 5 แสนราย ขณะนี้ สธ.ได้จัดให้หญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในผู้ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ดังนั้น ควรเร่งรณรงค์ให้หญิงตั้งครรภ์ไปฉีดวัคซีนให้มากขึ้น พร้อมกันนี้ ทางมูลนิธิและเครือข่ายขอเสนอให้มีสายด่วนสำหรับหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มคนพิการ กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง เพื่อขอคำปรึกษา และได้รับการบริการที่รวดเร็ว ทั้งนี้ รพ.ที่รับฝากครรภ์ต้องไม่ปฏิเสธการทำคลอดหญิงตั้งครรภ์ที่ติดโควิด แต่หากเกินศักยภาพขอให้ประสานส่งต่อ ไม่ใช่ปล่อยตามยถากรรม กรณีมารดาเสียชีวิตแต่ทารกรอด ทาง รพ.ต้องประสาน หรือจัดนักสังคมสงเคราะห์เข้ามาดูแลต่อไป
          นอกจากนี้ ยังขอให้สำนักงานประกันสังคมดูแลเรื่องการเยียวยา 5 พันบาทต่อเดือน นาน 6 เดือน และขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ช่วยเหลือด้านอื่นๆ หลังการคลอดด้วย เช่น ผ้าอ้อม นมผง เป็นต้น ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ เวลา 10.30 น. จะมีการเดินทางไปยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการดูแลหญิงตั้งครรภ์ และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ "ขอวัคซีนให้คนท้อง-อย่าเทอย่าทิ้งเรา"
          พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์โรงพยาบาลพิจิตร กล่าวว่า ขณะนี้อัตราการเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ที่ติดโควิดประมาณ 2.5% ค่อนข้างสูง เทียบกับคนปกติที่อัตราการเสียชีวิตจากโควิดไม่ถึง 1% เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ ที่ถึงแม้ผู้ติดเชื้ออยู่ในภาวะขาดออกซิเจน แต่บางคนอาการที่แสดงออกเหมือนว่าไม่เป็นอะไรมาก (Happy hypoxemia) เช้าเหนื่อยไม่มากแต่ตอนเย็นอาจเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ การเสียชีวิตในคนท้องเป็นโศกนาฏกรรม ที่อาจเสียชีวิตได้ถึง 2 คน โดยกรณีคุณแม่นั้นพบว่าส่วนหนึ่งเสียชีวิตหลังคลอดตั้งแต่ 1 วัน-4 สัปดาห์ ส่วนอัตราการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ที่แม่ติดโควิดอยู่ที่ 40% โดยเฉพาะติดเชื้อตอนอายุครรภ์น้อยกว่า 6 เดือน หากติดเชื้อเมื่ออายุครรภ์มากกว่านี้ เด็กมีโอกาสรอดชีวิตจากวิทยาการทางการแพทย์ที่สามารถช่วยเหลือเด็กได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 24  สัปดาห์ขึ้นไป.

 pageview  1204505    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved