Follow us      
  
  

ไทยโพสต์ [ วันที่ 12/11/2562 ]
สธ.เสนอเพิ่มโทษก่อเหตุร้ายในรพ.

  จับแล้ว3ตั้งข้อหาหนัก'อนุทิน'จวกอันธพาล
          จับแล้ว3โจ๋บุกทำร้ายอริในรพ.
          รพ.อ่างทองแถลงเอาผิดทุกข้อหาโจ๋ยกพวกทำร้ายอริในห้องฉุก เฉิน ตำรวจจับล็อตแรก 3 คนส่งศาลฝากขังพร้อมค้านประกันตัว 'สาธิต' เผยเตรียมประสานยุติธรรมเพิ่มโทษผู้ก่อเหตุใน รพ.
          อ่างทอง * รพ.อ่างทองแถลงเอาผิดทุกข้อหาโจ๋ยกพวกทำร้ายอริในห้องฉุกเฉิน ตำรวจตามรวบได้แล้ว 3 คน ฟันข้อหาหนัก ทำร้ายร่างกาย และบุกรุกสถานที่ราชการ
          เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงพยาบาลอ่างทอง นพ.ประภาส ลี้สุทธิพรชัย ผู้อำนวยการ รพ.อ่างทอง พร้อมคณะแพทย์และผู้บริหาร แถลงข่าวกรณีเกิดเหตุชาย 2 กลุ่มบุกทำร้ายกันในห้องฉุกเฉิน รพ.อ่างทอง เมื่อกลางดึกย่างเข้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่า เบื้องต้นโรงพยาบาลอ่างทองมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นขั้นตอนชัดเจน โดยเมื่อเกิดเหตุก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุแล้ว และขอยืนยันว่าโรงพยาบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้รับบริการ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลทุกคน เหตุการณ์ดังกล่าวไม่สมควรเกิดขึ้นในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสถานพยาบาลสำหรับดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งในขณะนั้นมีผู้ป่วยหนักใส่ท่อช่วยหายใจในห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน
          จากเหตุการณ์ดังกล่าว ปลัดกระทรวงสาธารณ สุขได้สั่งการว่า ให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุความ รุนแรงในโรงพยาบาลทุกกรณี ไม่มีการยกเว้น เพื่อให้ผู้รับบริการและบุคลากรผู้ปฏิบัติงานมีความปลอดภัย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองได้ลงมาดูแล สั่งการด้วยตนเอง มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง และโรงพยาบาลอ่างทอง ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้ก่อเหตุในโรงพยาบาล ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง และโรงพยาบาลอ่างทอง จะดำเนินการโดยเคร่งครัด เพื่อความปลอด ภัยของผู้รับบริการและบุคลากรต่อไป
          ด้านความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง และชุดสืบสวน ภ.จว.อ่างทอง ได้นำหมายจับเข้าจับกุมตัวนายนนทวัช สร้างเขต หรืออาร์ม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง นายบุญประสิทธิ์ วีระพงศ์ หรือต้น อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ถนนอ่างทองโพธิ์ทอง ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง และนายธนาธิป มุรินทร์จันทร์ หรือเอ็ม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/2 หมู่ 10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายในเวลากลางคืน โดยร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป นำส่ง พ.ต.ท.รุ่งเกียรติ นาทัย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อสืบสวนขยายผลตามขั้นตอนของกฎหมาย
          มีรายงานว่า ในช่วงบ่าย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมคณะ ได้เดินทางไปประชุมเร่งรัดคดีเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลือ
          ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทองคุมตัวนายบุญประสิทธิ์ วีระพงศ์, นายนนทวัช สร้างเขต และนายธนาธิป มุรินทร์จันทร์ ส่งศาลฝากขังพร้อมคัดค้านประกันตัว โดยคดีนี้ ตำรวจแบ่งการดำเนินคดีออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มก่อเหตุในสถานบันเทิง หน้าสถานบันเทิง หน้าโรงพยาบาล และภายในห้องฉุกเฉิน ซึ่งทุกกลุ่มมีภาพขณะก่อเหตุชัด ทั้งจากกล้องวงจรปิดที่สถานบันเทิง โรงพยาบาล และกล้องตำรวจ 2 นายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "อนุทิน ชาญวีรกูล" "ช่วยกันจัดให้หนัก" โดยระบุข้อความว่า
          "เราควรจะทำอย่างไรกับอันธพาลกระจอก ที่ชอบยกพวกมาก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาล กี่ครั้งแล้วที่ห้องฉุกเฉินและโรงพยาบาลต้องเสียหาย แพทย์ เจ้าหน้าที่ ต้องเสี่ยงบาดเจ็บทำงานไม่ได้ ทรัพย์สินโรงพยาบาล เครื่องมือแพทย์ เสียหาย ผู้ป่วยคนอื่นๆ เดือดร้อน
          ขอแบบเอาให้เข็ดหลาบ ไม่แสดงสันดานหยาบช้าป่าเถื่อนแบบนี้อีก ในสงคราม ยังเว้นพื้นที่ปลอดภัยให้โรงพยาบาล แพทย์ และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ แต่ในหัวใจอันธพาลกระจอกพวกนี้ ไม่มีอะไรเลย รวมทั้งคำสอนของพ่อแม่ แย่จริงๆ กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างเลวร้ายอีกต่อไป" พร้อมติด #saveโรงพยาบาล#saveผู้ป่วย
          เช่นเดียวกับนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช. สาธารณ สุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำชับให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างเข้มข้น ไม่มีการประนีประนอม เพราะกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้มารับบริการ และขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมประสานระดับนโยบายกับกระบวนการยุติธรรม ในการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ หรือเกิดความเสียหายต่อทรัพย์ ให้ได้รับอัตราโทษที่สูงกว่ากรณีทั่วไป เพื่อให้เกิดความเด็ดขาดและหลาบจำไม่ให้ทำความผิด พร้อมจะดำเนินการพัฒนาระบบแจ้งเตือนหากเกิดเหตุทะเลาะวิวาทจากโรงพยาบาลไปยังสถานีตำรวจ เพื่อจัดเตรียมกำลังพลสำหรับระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที.

 pageview  1204998    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved