นักวิจัยฝรั่งเศสเผย การบริโภคเครื่องดื่มรสหวาน เช่น น้ำอัดลม, น้ำผลไม้, ชาและกาแฟใส่น้ำตาลเป็นประ จำเสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่ม 18%
          งานวิจัยของมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ปารีซิเตในกรุง ปารีส ตีพิมพ์ในวารสารบริติช เมดิคัลเจอร์นัล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม สำรวจพฤติ กรรมการบริโภคเครื่องดื่มของ ผู้ใหญ่มากกว่า 100,000 คน อายุเฉลี่ย 42 ปี และ 79% เป็นผู้หญิง ในช่วงเวลา 5 ปี และบางคนติดตามถึง 9 ปี โดยให้ตอบแบบสอบถามออน ไลน์เกี่ยวกับการบริโภคเครื่อง ดื่มรสหวานที่ใส่น้ำตาลหรือสารให้ความหวานเทียม และนำไปเปรียบเทียบประวัติการเป็นมะเร็งของอาสาสมัคร
          ทีมวิจัยนิยามเครื่องดื่ม รสหวานคือ เครื่องดื่มที่มีน้ำ ตาลมากกว่า 5% ได้แก่ น้ำผลไม้ รวมถึงน้ำผลไม้ 100% ที่ไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม, น้ำอัดลม, เครื่องดื่มให้พลังงาน, มิลค์เชคใส่น้ำตาล, ชาและกาแฟใส่น้ำตาล
          ผลวิจัยพบการบริโภคเครื่องดื่มรสหวานเพิ่มขึ้นเพียง วันละ 100 มิลลิลิตร หรือราว 2 กระป๋อง/สัปดาห์ เสี่ยงเป็น มะเร็งเพิ่ม 18% และเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มถึง 22% โดย ในทุก 1,000 คนที่ดื่มเครื่องดื่ม รสหวานในปริมาณนี้ พบเป็นมะเร็ง 22 ราย ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาพบผู้เป็นมะเร็งทั้งหมด 2,193 ราย อายุเฉลี่ย 59 ปี โดยเป็นมะเร็งเต้านม 693 ราย, มะเร็งต่อมลูกหมาก 291 ราย และมะเร็งลำไส้ 166 ราย
          ผลวิจัยพบผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มรสหวานในปริมาณมากที่สุดคือ ราว 185 มิลลิ ลิตร/วัน  มีโอกาสเสี่ยงเป็น มะเร็งมากกว่าผู้บริโภคเครื่อง ดื่มรสหวานในปริมาณน้อยที่สุด หรือน้อยกว่า 30 มิลลิ ลิตร/วัน และอธิบายว่าผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มรสหวานปริมาณ มาก มักมีพฤติกรรมที่ไม่รักษาสุขภาพด้วย เช่น กินอาหารที่มีเกลือและแคลอรีสูงกว่าผู้ดื่มเครื่องดื่มรสหวานปริมาณน้อย
          สาเหตุที่ทำให้ผู้บริโภคเครื่องดื่มรสหวานในปริมาณมากเสี่ยงเป็นมะเร็งสูง น่าจะมาจากระดับน้ำตาลในเลือดและสารเคมีบางชนิดที่ใส่ในเครื่องดื่มรสหวาน เช่น การใส่สีเพื่อดึงดูดใจ.