ชีวิตที่เร่งรีบของคนเมืองบั่นทอนพัฒนาการของเด็กยุคใหม่ อันเป็นผลมาจากการบริโภคอาหารไม่สมดุล และเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของเด็กๆ ภญ.ดร.มาลิน จุลศิริ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คณะเภสัชกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำว่า ปัญหาภาวะโภชนาการในเด็กวัยซนน่าเป็นห่วง เพราะหลายครอบครัวซื้ออาหารจานด่วนให้เด็กบริโภคเป็นประจำ ซึ่งส่วนใหญ่ขาดความสมดุลทางโภชนาการ อีกทั้งเด็กๆจำนวนไม่น้อยนิยมบริโภคขนมและเครื่องดื่มน้ำอัดลม โดยสถิติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขพบว่า เด็กไทยใช้เงินซื้อขนมเฉลี่ยคนละ 9,800 บาทต่อปี สูงกว่าค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาที่จ่ายเพียงคนละ 3,024 บาทต่อปี
          ดร.มาลินกล่าวว่า พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง มักเริ่มต้นตั้งแต่วัยก่อนเรียน คือ 4-5 ขวบ พอถึง 6 ขวบเด็กจะติดเป็นนิสัย ทำให้เด็กเกิดปัญหา ขาดสารอาหารที่จำเป็นตอนโตและเสี่ยงเป็นโรคอ้วนการเกิดปัญหาโภชนาการในเด็ก ส่งผลต่อการพัฒนาทางร่างกายและสติปัญญาของเด็ก ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นโรคเรื้อรัง การ แก้ปัญหานี้ทำได้ไม่ยาก ลองให้ เด็กบริโภคอาหารที่เหมาะสมทุก วัน โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้า ซึ่งแนะนำให้เป็นอาหารที่บริโภคง่ายและมีสารอาหาร ครบถ้วน ถ้าไม่อยากวุ่นวายเตรียมอาหารมื้อเช้า อาจเตรียมช่วงกลางคืน แล้วอุ่นตอนเช้า เพื่อจะช่วยให้เด็กมีโอกาสได้รับสารอาหารที่จำเป็น
          การเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ดร.มาลินแนะเคล็ดลับว่า ควรพิจารณาผลิตภัณฑ์  ที่มีวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นสำหรับเด็ก เช่น วิตามินบีชนิดต่างๆ ธาตุเหล็ก รวมทั้งมีกรดอะมิโนจำเป็น เช่น ไลซีน เพื่อนำไปใช้เป็นองค์ประกอบสร้างโปรตีน นอกจากนี้สารอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรต ที่ไม่เกี่ยว ข้องกับน้ำตาลและไขมัน ซึ่งถูกจัดเป็นใยอาหารชนิด ละลายก็ช่วยการขับถ่าย และบริโภคง่ายสำหรับเด็ก.