ตำรวจเร่งดำเนินคดีกลุ่มวัยรุ่นสุดเถื่อนยกพวกเข้าไปทำร้ายแพทย์หญิงและเจ้าหน้าที่ในห้องฉุกเฉิน รพ.วิภารามชัยปราการ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค. หลังไม่พอใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนในกลุ่มที่ถูกคู่อริแทงเสียชีวิตในซอยโรงเหล็ก ย่านปู่เจ้าสมิงพราย อ.พระประแดง ก่อนตามไปล้างแค้นฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวใน รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย ไล่ทุบกระจกและอุปกรณ์ทางการแพทย์พังเสียหาย หลังเกิดเหตุตำรวจจับผู้ต้องหาแก๊งซอยมหาวงษ์ไปแล้วกว่า 10 คน และแก๊งซอยโรงเหล็กเจ้าถิ่นอีก 1 คน เป็นคนแทงผู้ตาย อยู่ระหว่างไล่ล่าผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือ
          ต่อมาช่วงสายวันที่ 21 ก.ค. พ.ต.ต.บุญฤทธิ์ เชิญเชื้อ สว. (สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ อ.พระประแดง สอบปากคำผู้ต้องหาอีก 4 คนที่เข้ามอบตัวเพิ่มเติมเมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วยนายนิพนธ์ บุตรสาร อายุ 22 ปี นายกานต์ หรือออม แสงชัน อายุ 22 ปี นายวิชัย อยู่เล็ก อายุ 24 ปี และนายเอก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้งหมดอยู่ในกลุ่มแก๊งซอยมหาวงษ์ หลังสอบปากคำตำรวจคุมตัวนายนิพนธ์ นายกานต์ และนายวิชัยไปฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และบุกรุกสถานพยาบาลในเวลากลางคืน พร้อมคัดค้านการประกันตัวก่อนส่งเข้าเรือนจำกลางสมุทรปราการ ส่วนนายเอกที่ยังเป็นเยาวชนนำตัวไปศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาบุกรุกสถานพยาบาลในเวลากลางคืน
          ต่อมาช่วงบ่าย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสดำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวที่ สภ.สำโรงใต้ จากนั้นเปิดเผยว่า สำนวนคดีแยกเป็น 3 เหตุการณ์ เหตุการณ์แรกซอยโรงเหล็ก 11 คน เหตุการณ์ที่ 2 ที่ รพ.วิภารามชัยปราการ 9 คน และเหตุการณ์ที่ 3 รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย 17 คน รวมทั้งสิ้น 27 คน ตำรวจได้ตัวแล้ว 26 คน ส่งฝากขังศาลบางส่วน เหลืออีก 1 คน คาดว่าน่าจะได้ครบในวันนี้ ทั้งหมดจะแยกข้อหากัน บางรายอาจถูกแจ้งหลายข้อหาขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการก่อเหตุ บางคนอยู่เหตุการณ์เดียว บางคน 2 และ 3 เหตุการณ์ บางคนอาจโดนมากกว่า 4 ข้อหา ผบช.ภ.1 ตั้งคณะทำงานทั้งระดับภาคและจังหวัดลงไปดูสำนวนเพื่อความรอบคอบสร้างความมั่นใจให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้เสียหายทั้งหมด
          “ท่าน ผบ.ตร.สั่งการมาชัดเจนว่าให้เปิดยุทธการในทุกพื้นที่ของตำรวจภาค 1 เป็นการส่งสัญญาณที่แรงมากว่า ต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ต้องคิดว่าเราป่วยพ่อแม่เราป่วยเราจะไปไหน เราก็ต้องไปโรงพยาบาล ต้องอาศัยคุณหมอทุกคน ทำอย่างนี้แล้วทำให้สังคมรับไม่ได้ ส่วนที่ระบุว่าต้นตอเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องยาเสพติดนั้น ตอนนี้เรามีข้อมูลอยู่แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบและวางแผนจับกุม ไม่ใช่ในซอยมหาวงษ์ที่เดียว ต้องจัดการให้หมด ทุกพื้นที่” รอง ผบช.ภ.1 กล่าว
          ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยกรณีมีการบุกทำร้ายแพทย์และวิวาทในโรงพยาบาล 2 แห่ง จ.สมุทรปราการ ว่า เบื้องต้นสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา เรียกร้องให้เพิ่มโทษกับผู้กระทำผิด สำนักงานอัยการสูงสุดไม่ขัดข้อง แต่ต้องมีผู้เสนอกฎหมาย เพราะกรณีนี้เป็นกฎหมายเฉพาะเป็นอัตราโทษเฉพาะ ต้องเสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภา เพราะกฎหมายอาญาคือพระราชบัญญัติ ต้องใช้ระยะเวลาเป็นปี ที่ผ่านมาสำนักงานอัยการสูงสุดใช้วิธีการบรรยายฟ้อง ระบุพฤติกรรมว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมอุกอาจ ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย ขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก กับกรณีที่เกิดเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่ จ.อ่างทอง และ จ.นครพนม ศาลก็ลงโทษแล้วโดยไม่รอลงอาญา ตนมีโอกาสพูดคุยกับอัยการจังหวัดสมุทรปราการได้เห็นพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดแล้ว จากนี้จะบรรยายฟ้องให้ครบถ้วน รวมถึงจะดูด้วยว่ามีผู้ต้องหารายใดที่มีโทษรอลงอาญาไว้ ส่วนนี้จะเอามาบวกหรือใครที่ทำผิดแล้วมากระทำผิด ซ้ำอีกก็จะขอเพิ่มโทษได้ตามกฎหมาย