Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ วันที่ 19/08/2562 ]
เนื้องอกในมดลูก.เจอเร็วรักษาง่ายปลอดภัยกว่า รพ.สุขุมวิท ใช้เทคโนฯก้าวหน้าตรวจ-ผ่าผ่านกล้อง

  ปัญหาน่าเห็นใจ...สำหรับบรรดาคุณผู้หญิง!!!
          ส่งท้ายเดือนแห่งวันแม่ปีนี้ด้วยข้อมูลที่ "โรงพยาบาลสุขุมวิท" ฝากให้ "หมอจอแก้ว" นำมาเสนอเพื่อให้คุณผู้หญิงได้รับทราบไว้เป็นความรู้ที่จะให้ประโยชน์ได้ ไม่เฉพาะตัวเองเท่านั้น หากยังสามารถนำไปเผื่อแผ่แก่ญาติพี่น้องหรือผองเพื่อนเพศเดียวกันได้อีกด้วยครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่มีโอกาสสร้างปัญหาให้ไม่น้อยทีเดียวสำหรับใครที่ต้องเผชิญกับฤทธิ์เดชของ "เนื้องอกในมดลูก" โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว...เหมือนกรณีของ 'คุณรัตติกร แก้วผึ้ง" วัย 40 ปี ที่ได้ผ่านประสบการณ์จากการรับมือในเรื่องนี้มาแล้วเมื่อไม่นานนี้เอง จึงได้ยินยอมพร้อมใจบอกเล่าให้นำมาถ่ายทอดใน "อุ่นใจ...ใกล้หมอ" วันพุธนี้ โดยเริ่มตั้งแต่แรกที่เกิดอาการปวดประจำเดือนมากกว่าปกติได้ราวๆ 3-4 เดือน คือจะปวดหน่วงๆ บริเวณท้องน้อยเวลาที่ต้องเดินหรือว่ายืนนานๆ ดีที่ว่าติดตามอ่านเพจของ "คุณหมออรัณ" เป็นประจำ ทำให้ทราบว่าผู้หญิงควรจะตรวจภายในทุกปี จึงไปตรวจ เพราะเริ่มรู้สึกได้ถึงอาการที่ผิดปกติ โดยในตอนแรกไปตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านและพบว่ามี "ช็อกโกแลตซีสต์" ที่รังไข่ด้านซ้ายและที่ผนังมดลูก จากนั้นได้นำผลการตรวจไปปรึกษากับ "คุณหมออรัณ" ที่ "โรงพยาบาลสุขุมวิท" ในเวลาต่อมา โดยได้รับการอธิบายจากคุณหมอว่า...เจ้าเนื้องอกนี้เป็นลักษณะที่สามารถตัดออกได้ แต่ถ้ารังไข่เสียหายก็อาจต้องตัดทิ้ง ส่วนที่มันฝังตัวที่ผนังมดลูกนั้นจะต้องใช้การฉีดยาให้ฝ่อจึงจะสามารถรักษาได้ ซึ่งคุณหมอให้เลือกว่าจะกินยา-ฉีดยา หรือว่าผ่าตัด...แต่ "คุณรัตติกร" มีความกังวลว่าถ้ามัวกินยาและให้มันเป็นอยู่ต่อไปนาน ๆ ก็อาจกลายเป็นเนื้อร้าย...จึงแจ้งความประสงค์แก่คุณหมอว่าต้องการผ่าตัด!!!...ซึ่งหลังจากคุณหมอได้จัดให้ตามนั้นแล้วผู้ป่วยหญิงรายนี้ได้เล่าถึงเรื่องราวที่ประสบมาด้วยตัวเองหลายอย่าง ซึ่ง "หมอจอแก้ว" ขอตัดทอนไปบ้างเพื่อให้พอดีกับเนื้อที่ ดังนี้...
          "...หลังจากผ่าเสร็จแล้ววันแรกก็แทบจะเดินได้แล้วค่ะ...เจ็บแผลน้อยมากเพราะว่าเป็นการผ่าตัดผ่านกล้อง เมื่อผ่านการผ่าตัดแล้ว 16 วันแผลเล็กๆ ที่ภายนอกก็หายดีแล้ว เหลือเฉพาะแผลใหญ่ที่สะดืออีกนิดหน่อย ส่วนอาการเจ็บไม่มีแล้ว เดินได้คล่อง แต่คุณหมอยังให้งดยกของหนัก งดกิจกรรมออกกำลังกายหนักๆ จะได้ไม่เจ็บแผลค่ะ...ให้พักฟื้นอย่างน้อย 1-2 เดือน หลังจากนั้นแล้วถ้าอยากจะมีลูกคือสามารถมีได้เลย เพราะว่ามดลูกเราจะพร้อมแล้ว แต่ถ้ายังไม่อยากมีลูกก็ต้องกินยาควบคุมไม่ให้ช็อกโกแลตซีสต์มันเกิดขึ้นมาอีกค่ะ..."
          อย่ากลัวการตรวจ...ถ้าพบ...
          จะใช้เทคโนโลยีการแพทย์รักษา
          ต้องขอเผยตัวคุณหมอที่ 'คุณรัตติกร" กล่าวถึง...ก็คือ 'นพ.อรัณ ไตรตานนท์" ซึ่งเป็น แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติ-นรีเวช ประจำ โรงพยาบาลสุขุมวิท จึงมีเนื้อหาสาระมาถ่ายทอดให้คุณผู้หญิงได้ทราบไว้ด้วยว่า...โดยปกติเนื้องอกมดลูกของสุภาพสตรีจะมี 3 รูปแบบ คือ...อยู่ที่ผิวมดลูก อยู่ที่กลางมดลูก แล้วก็อยู่ที่กล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งในเคสนี้จากการ อัลตราซาวด์ดูเหมือนจะอยู่ที่บริเวณผิวมดลูก แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งการรักษาทั่ว ๆ ไปจะมี 3 ทาง ทางแรกคือติดตามอาการไปก่อน โดยตรวจด้วยอัลตราซาวด์ซ้ำทุก 6 เดือน ต่อมาคือการรักษาด้วยยา และทางที่สามคือการผ่าตัด ซึ่งมี 2 วิธีคือ...ผ่าแบบมาตรฐานโดยผ่าเปิดหน้าท้อง...ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่โดยการผ่าตัดผ่านกล้อง แผลเล็กประมาณ 6 มม. ประมาณ 2 แผล ช่วยให้เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว พักในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วันก็สามารถกลับบ้านได้ โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ทั้งนี้โดยจะมีการเตรียมความพร้อมไว้ทุกด้าน ตั้งแต่แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดต้องได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี...นอกจากนี้ยังต้องเป็นการทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพ คือมีทั้งแพทย์ผู้ผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ พยาบาล โดยที่ผู้ป่วยต้องมีความพร้อมทั้งจิตใจและร่างกายในการผ่าตัด...และสุดท้ายที่ต้องมีคือเทคโนโลยีในการผ่าตัด ซึ่งหากเป็นเครื่องมือพิเศษก็อาจมีการนำเข้ามาใช้ในโรงพยาบาลบางแห่งเท่านั้น
          "คุณหมออรัณ" อธิบายเสริมว่า...มดลูกก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี ประกอบด้วย มดลูก รังไข่ ท่อนำไข่ เนื้องอกในมดลูก มีลักษณะที่เปรียบเทียบง่ายๆ คือเหมือนลูกชิ้น เป็นเนื้อแข็งๆ ตันๆ กลม ๆ งอกมาจากบริเวณกล้ามเนื้อของมดลูก ซึ่งปกติต้องไม่มี แต่โดยทั่วไปจะพบว่าสตรีประมาณ 30% จะมีเนื้องอกเล็กๆ ซ่อนอยู่ ซึ่งอาจจะไม่มีอาการก็ได้ และโดยส่วนใหญ่ประมาณ 80% จะไม่มีอาการ นอกจากเนื้องอกเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ อาจจะมีอาการกดเบียดอวัยวะสำคัญทำให้มีอาการปัสสาวะมีปัญหา อุจจาระลำบาก มีไปกดท่อไตทำให้ปัสสาวะน้อยลง หรือว่าบางคนมีอาการปวดประจำเดือน ซึ่งอาการค่อนข้างหลากหลาย แต่ละเคสจะไม่เหมือนกัน...ส่วนการตรวจเนื้องอกมดลูกทำได้โดยคุณผู้หญิงไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจภายในและอัลตราซาวด์ก็สามารถพบได้ ซึ่งหากพูดถึงอาการของเนื้องอกมดลูกก็บอกได้ว่า...มีค่อนข้างหลากหลาย โดยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีอาการ แต่ถ้ามีขึ้นมาก็เพราะก้อนของมันไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ควรอยู่ หรือมีขนาดใหญ่เกินไป มักจะมาด้วยปวดประจำเดือน บางคนคลำก้อนได้ เช่นก้อนใหญ่เกิน 10 ซม.มักคลำได้ด้วยตนเอง บางคนอาจจะมาด้วยเรื่องของ ตั้งครรภ์แล้วแท้งบ่อยๆ ตั้งครรภ์แล้วแท้ง 2 ครั้งขึ้นไป หรือบางคนแต่งงานมานานแล้วและ ไม่ได้คุมกำเนิดแต่ก็ไม่ตั้งท้อง ซึ่งคุณหมอได้ฝากแนะนำมายังกลุ่มนี้ว่าให้ไปตรวจหาสาเหตุว่ามีปัญหาเหล่านี้หรือไม่??...
          โรค เนื้องอกในมดลูก เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติซึ่งมีคู่กับโลกเรามาตั้งนานแล้ว จริง ๆ แล้วยังไม่มีการป้องกัน วิธีที่จะทำให้เรารู้ว่าเป็นหรือไม่ก็ด้วยการไปตรวจภายในประจำปี สูติ-นรีแพทย์สามารถทำการตรวจภายในผ่านทางช่องคลอด อัลตราซาวด์ให้ได้ และถ้าตรวจพบตั้งแต่ขนาดยังเล็ก ๆ ก็อาจรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัด คุณผู้หญิงสามารถไปรับการตรวจได้ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไปโดยไม่มีข้อจำกัด โดยเฉพาะผู้ที่แต่งงานแล้ว มีเพศสัมพันธ์แล้ว สามารถไปตรวจได้เลย เนื่องจากปัจจุบันเราพบว่าในสังคมเมืองมีผู้ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกด้วยวัยที่น้อยลง ดังนั้นหากใครคิดว่าอายุน้อย ๆ ยัง ไม่ต้องตรวจอาจจะไม่จริงแล้ว...ส่วนใครที่ปวดประจำเดือนทุกเดือนโดยความปวดจะยิ่งรุนแรงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการตรวจหาสาเหตุเพราะอาจมีเรื่องของเนื้องอกมดลูก หรือถุงน้ำรังไข่ก็ได้
          ทั้งนี้ 'คุณหมออรัณ" ได้กล่าวถึงตำราแพทย์ที่พบว่าสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ 'ช็อกโกแลตซีสต์" ก็คือถุงน้ำชนิดหนึ่งที่เกิดบริเวณรังไข่ ซึ่งรักษาได้ด้วยการผ่าตัดผ่านกล้อง และรักษาด้วยยาก็ได้ โดยไม่น่ากลัว เพียงแต่คุณสุภาพสตรีทั้งหลายอย่าได้กลัวการตรวจภายในเท่านั้น หรือแม้จะเป็นสาวโสด ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ ก็สามารถเลือกตรวจกับหมอผู้หญิงได้ และที่คุณหมออธิบายไว้ด้วยคือการ อัลตราซาวด์ ซึ่งมี 2 วิธี โดยที่อาจมีคนเข้าใจผิดคิดว่าต้องอัลตราซาวด์ผ่านทางช่องคลอดเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมีการทำอัลตราซาวด์ทางหน้าท้องด้วย ซึ่งคุณผู้หญิงที่ไปรับการตรวจไม่ต้องกลัวว่าจะโป๊ เพราะจะให้เปิดแค่หน้าท้องนิดเดียวก็สามารถทำอัลตราซาวด์ได้แล้ว และหากมีความผิดปกติก็จะเห็นได้ทันที
          มาถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่า... อย่ามัวรีรอ แต่อยากขอร้องให้คุณผู้หญิงหาเวลาไปตรวจ เหมือนดังที่ 'คุณหมออรัณ" ซึ่งเป็น แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติ-นรีเวช ประจำ โรงพยาบาลสุขุมวิท ได้แนะนำไว้นี้...จะปลอดภัยกว่าครับ.

 pageview  1204505    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved