นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ข่าวการเลือกตั้งกำลังเป็นที่สนใจ หากมีการติดตามข่าวสารมากจนเกินไป อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดอาการทางกายได้ เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตึงบริเวณขมับ ต้นคอหรือตามแขนขา ชาตามร่างกาย หายใจไม่อิ่ม อึดอัดในช่องท้อง แน่นท้อง ปวดท้อง ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติทั้งที่อยู่ในสภาพปกติ นอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ หรือหลับแล้วตื่นกลางคืนไม่สามารถหลับต่อได้ ส่วนอาการทางจิตใจ
ได้แก่ อาการวิตกกังวล ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา หงุดหงิดง่าย โกรธ ฉุนเฉียว ก้าวร้าว สมาธิไม่ดี ฟุ้งซ่าน หรือหมกมุ่นมากเกินไป เบื่อหน่าย ท้อแท้ หมดหวัง สิ้นหวัง รู้สึกไม่มีทางออก และปัญหาพฤติกรรมและสัมพันธภาพกับผู้อื่น มีการโต้เถียงกันกับผู้อื่น หรือแม้แต่บุคคลในครอบครัวโดยใช้อารมณ์ตั้งแต่ปานกลางถึงรุนแรง โดยไม่สามารถยับยั้งตนเองได้ มีความคิดที่จะตอบโต้โดยใช้กำลังในการเอาชนะ มีการเอาชนะทางความคิดกับคนที่เคยมีสัมพันธภาพที่ดีมาก่อน จนทำให้เกิดปัญหาด้านสัมพันธภาพอย่างรุนแรง
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การที่จะห่างไกลจากความเครียดนั้น ให้ใช้หลัก 5 วิธีที่ควรปฏิบัติ คือ
1. แบ่งเวลาติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างพอดี
2.ทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นปกติ หันเหความสนใจจากข่าวสารไปเรื่องอื่น
3. เคารพความคิดเห็นแบบประชาธิปไตยที่มีความ แตกต่างหลากหลายได้ ควรเปิดกว้างและรับข้อมูลข่าวสารที่แตกต่าง
4. การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
5. การผ่อนคลายความ เครียด เช่น การออกกำลังกาย ทำสมาธิ เป็นต้น. |