ภัยร้อนปีนี้โหดกว่าทุกปี ล้มป่วยระนาวกว่า100 รายแล้ว กรมควบคุมโรคเตือนอย่าอยู่ในที่อับหรือร้อนจัดเป็นเวลานานโดยเฉพาะกลางแจ้ง เชื่อยอดอาจพุ่งขึ้นกระฉูด ขณะที่เมืองปากน้ำ อากาศร้อนอบอ้าวสาวใหญ่ซดเหล้าขาว ลุกไปอาบน้ำกลับมายกดื่ม ยังไม่ทันจะวางขวดล้มชักตาตั้งตายต่อหน้าผัว
          เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นพ.สมเกียรติ ศิริรัตนพฤกษ์ ผอ.สำนักโรคจากการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยที่เกิดจากภาวะอากาศร้อนเข้ามาเป็นระยะ จากการนำข้อมูลสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มาวิเคราะห์พบว่ามีผู้ป่วยจากความร้อนโดยตรงประมาณ 100 กว่ารายต่อปี ดังนั้นในปีนี้คาดว่าตัวเลขน่าจะอยู่ประมาณนี้ สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากความร้อนมีหลายรูปแบบ เช่น ทำให้เกิดผื่นแดง ผื่นคันจากภาวะต่อมเหงื่ออักเสบ ตะคริว ในผู้ที่ออกกำลังกาย และผู้ที่อยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดภาวะร่างกายสูญเสียน้ำเป็นลมได้ จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด เชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยที่เกิดจากภาวะอากาศร้อนจะมีมากขึ้น
          นพ.สมเกียรติกล่าวต่อว่า สถานการณ์อากาศร้อนในประเทศไทย ขณะนี้ถือว่าอยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนแล้ว เช่นที่ภาคเหนือและอีสาน อาทิ จ.ตาก ลำปาง มุกดาหาร ขณะที่ภาคกลาง และภาคใต้จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเล นอกจากนี้พื้นที่เสี่ยงยังมีในเขตเมือง โดยเฉพาะใน กทม. ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นคนจน พักอาศัยในที่ทำงานไม่มีแอร์หรือที่ระบายอากาศได้ดี ดังนั้นช่วงที่อากาศร้อนจัดควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ไม่ควรออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ
          วันเดียวกันเมื่อเวลา 01.30 น. พ.ต.ท. ปภาณ วงศ์ชนเดช สวส.สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีผู้หญิงเสียชีวิตในที่พักคนงานก่อสร้าง หมู่ 4 ถนนพุทธรักษา ต.แพรกษา รุดไปตรวจสอบพบศพ น.ส.บุญปลูก หารบุญ อายุ 52 ปี เป็นคนงานก่อสร้าง นอนเสียชีวิตไม่มีบาดแผลโดนทำร้าย จากการสอบสวนนายคำพอง ทองทา อายุ 37 ปี สามีผู้ตายให้ การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยา และเพื่อนคนงาน ชวนกันตั้งวงดื่มเหล้าขาว ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวผู้ตายเลยลุกไปอาบน้ำ ก่อนจะคว้าเหล้าขาวยกขึ้นดื่มอีก 1 อึก จากนั้นภรรยาเกิดอาการชักกระตุกก่อนล้มลงไปนอนหมดสติกับพื้น ตนเลยรีบเข้าไปดูพบภรรยาเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายดื่มเหล้าขณะอากาศร้อน ประกอบกับเพิ่งอาบน้ำมา เลยทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ทำให้หัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งจะส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.