รศ.น.ท.ดร.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล คลินิกสุขภาพชาย โรงพยาบาลรามาธิบดี
          บุหรี่
          การสูบบุหรี่อาจกระตุ้นให้หลอดเลือดขององคชาตหดตัวหรือมีการรั่วของหลอดเลือดดำ ซึ่งส่งผลต่อการแข็งตัวขององคชาต
          มีการรายงานการศึกษาการแข็งตัวขององคชาตในระหว่างนอนของผู้สูบบุหรี่ พบว่ามีความสัมพันธ์ตรงกันข้ามระหว่างการแข็งตัวขององคชาตช่วงเวลานอนหลับ และจำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวัน ผู้ชายซึ่งสูบบุหรี่มากกว่า 40 มวนจะทำให้การแข็งตัวขององคชาตในระหว่างนอนลดลงและเวลาการแข็งตัวขององคชาตสั้นลงมากที่สุด
          นอกจากนี้มีรายงานบ่งบอกว่ามีความสัมพันธ์อย่างมากระหว่างปริมาณสาร และการตอบสนองต่อสารนั้น ๆ (dose response curve) อันเนื่องจากการสูบบุหรี่และโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศโดยเฉพาะจากการสูบบุหรี่มากกว่าหรือเท่ากับ 20 ซองต่อปี
          การสูบนำควันบุหรี่จากสภาพแวดล้อมใกล้ตัวเข้าไปเรียกว่า การสูบบุหรี่ทางอ้อมโดยไม่ได้ตั้งใจ (Passive Smoking หรือ Involuntary Smoking) ควันบุหรี่ที่ล่องลอยมาจากปลายมวนบุหรี่ ในขณะที่ผู้สูบบุหรี่ถืออยู่หรือวางอยู่บนที่เขี่ยบุหรี่ บางครั้งควันบุหรี่ชนิด นี้อาจเรียกว่าควันมือสอง (Secondhand Smoke) ก็ได้เช่นกัน
          เนื่องจากในควันบุหรี่มีสารพิษ ทำให้มีความเสี่ยงของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเมื่อเปรียบเทียบกับควันบุหรี่ที่ผู้สูบดูดเข้าไป  10-19 ซองต่อปี และในที่สุดจะพ่นควันนี้ออกสู่บรรยากาศรอบ ๆ ตัวผู้สูบนั้น
          แอลกอฮอล์
          การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อยจะช่วยให้การแข็งตัวขององคชาตและความต้องการทางเพศดีขึ้นเพราะมีผลช่วยขยายหลอดเลือดขององคชาตและกดความวิตกกังวลใจของผู้ดื่มแอลกอฮอล์
          ในทางตรงกันข้ามถ้าดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากจะระงับระบบประสาทส่วนกลาง ลดความต้องการทางเพศ และทำให้เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศชั่วคราว
          มีรายงานเช่นกันในการเปรียบเทียบระหว่างผู้ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์ จะมีการเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศต่ำกว่านักดื่มแอลกอฮอล์ และอาการของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะรุนแรงมากถ้าดื่มแอลกอฮอล์มาก
          การติดสุราเรื้อรังอาจเป็นผลให้ตับทำงานผิดปกติ ลดระดับฮอร์โมนเพศชาย เช่น เทสโทสเตอร์โรน และเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และปลายประสาทผิดปกติจากแอลกอฮอล์ซึ่งอาจส่งผลถึงเส้นประสาทขององคชาต
          โดยรวมแล้วการดื่มแอลกอฮอล์มีผลเสียต่อโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ.