เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563-3 ก.ค. 2564 พบมีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 581 ราย เสียชีวิต 9 ราย ทารกติดเชื้อ 40 ราย และเสียชีวิต 4 ราย โดยพบว่าหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงป่วยเป็นโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ เลือดแข็งตัวผิดปกติ คลอดก่อนกำหนดได้ ส่วนทารกที่เกิดจากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักตัวน้อย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือโรงพยาบาลและคลินิกฝากครรภ์ทุกแห่งมีแนวทางให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ดังนี้ 1.ให้คำแนะนำหรือให้คำปรึกษาเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่อหญิงตั้งครรภ์ 2.เมื่อตัดสินใจฉีดวัคซีนแล้วให้พิจารณาว่าไม่มีข้อห้าม ในการฉีดและผู้รับบริการมีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ 3.ให้หญิงตั้งครรภ์ลงชื่อในแบบคัดกรองและใบยินยอมในการรับวัคซีน และ 4.มีการตรวจครรภ์ตามปกติจนเสร็จสิ้นกระบวนการ
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า 5.ส่งตัวหญิงตั้งครรภ์พร้อมแบบคัดกรอง และใบยินยอมรับบริการวัคซีน โควิด-19 เพื่อไปรับวัคซีน ณ จุดฉีดวัคซีนที่กำหนดไว้ 6.พยาบาลห้องฝากครรภ์ประสานจุดฉีดวัคซีนแจ้งจำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่ไปรับวัคซีน กรณีวัคซีนไม่เพียงพอให้ทำการนัดหมายกำหนดวันต่อไป 7.เมื่อหญิงตั้งครรภ์ไปถึงจุดฉีดวัคซีนให้เข้าช่องทางพิเศษสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่จุดบริการวัคซีนจัดไว้ หลังจากนั้นผ่านจุดคัดกรอง ฉีดวัคซีน และสังเกตอาการตามระบบ และ 8.นัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 โดยแจ้งให้หญิงตั้งครรภ์สังเกตอาการไม่พึงประสงค์ อีกทั้งทุกหน่วยบริการให้วัคซีนแก่หญิงตั้งครรภ์ต้องติดตามและรายงานข้อมูลอาการไม่พึงประสงค์และผลลัพธ์ของการตั้งครรภ์หลังจากได้รับวัคซีนแล้วด้วย. |