นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนพร้อมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ฯ และกรรมการบริหารสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การฉีดวัคซีนของสมาชิกสหพันธ์ฯ และร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กับสมาชิกฯ เนื่องจากพนักงานขับรถบรรทุกได้ทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2,000-3,000 คนแล้ว
          หลังจากได้ลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนผ่านกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตามนโยบายกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มด่านหน้าซึ่งให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ ได้เข้ารับวัคซีน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อสูง และเป็นกลุ่มที่ให้บริการ
          นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามขณะนี้พนักงานขับรถบรรทุกที่เป็นสมาชิกสหพันธ์ฯ มีประมาณ 400,000 กว่าคนทั่วประเทศ และถ้ารวมกับบุคคลที่ต้องสัมผัสกับพนักงานขับรถบรรทุก เช่น พนักงานออฟฟิศที่ต้องติดต่อประสานงานกันตลอดเวลา รวมทั้งบุคคลใกล้ชิดที่เป็นครอบครัวเดียวกัน เช่น ภรรยา และลูก รวมแล้วประมาณ 1,000,000 คน ดังนั้นพนักงานขับรถบรรทุกที่ได้รับการ ฉีดวัคซีนยังมีน้อย
          จึงขอความร่วมมือจากรัฐบาล กระทรวงคมนาคม ขบ. และกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มจำนวนวัคซีนให้กลุ่มพนักงานขับรถบรรทุกที่เหลือให้ครบทั้งหมดด้วย แบ่งเป็นพนักงานขับรถบรรทุกในกรุงเทพฯ ประมาณ 40,000-50,000 คน และ พนักงานขับรถบรรทุกในต่างจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ 10 สมาคมฯ เช่น จ.นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นครสวรรค์ เชียงใหม่ และเชียงราย เพื่อให้ประสานกับทางสำนักงานขนส่งแต่ละจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดในการขอฉีดวัคซีนต่อไปด้วย
          นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ขนส่งสินค้าเดินทางข้ามจังหวัดทุกวัน หรือแม้กระทั่งเดินทางข้ามประเทศด้วย เป็นสายพานในการลำเลียงสินค้าเพื่ออุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน รวมทั้งวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงในการติดเชื้อฯ หากได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดการติดเชื้อฯ และความรุนแรงของเชื้อฯ ได้ หากไม่ได้รับการฉัดวัคซีนแล้วพบติดเชื้อ อาจจะส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนของพนักงานขับรถบรรทุกได้ สหพันธ์ฯ หวังว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนสัก 50% จากทั่วประเทศก็ยังดี.