นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังพิจารณาปัดฝุ่นเส้นทางท่องเที่ยวกัญชาและกัญชงเพื่อสุขภาพ หลังจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่เริ่มคลี่คลายลง โดยจะจัดเส้นทางท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ในประเทศ เพื่อกระตุ้นการเดินทางฟื้นฟูการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจากการพิจารณาเส้นทางท่องเที่ยวหลายแห่งมีความพร้อมแล้ว รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งปลูกพืชกัญชาและกัญชง และโรงพยาบาล หรือสถานบริการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องที่มีความพร้อมแล้วเช่นเดียวกัน
          "การส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้ จะมีการจัดเส้นทางนำเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยให้เดินทางไปดูว่าเมื่อมีกัญชาถูกกฎหมายแล้ว การนำไปใช้ทางการแพทย์ทำอะไรได้บ้าง รักษาอะไรได้บ้าง ซึ่งจะมีทัวร์พาไปเที่ยว ทั้งแหล่งปลูก และโรงพยาบาลที่เอากัญชามาผลิตเป็นยาแผนไทย รวมทั้งมีโฮมสเตย์ ซึ่งตอนนี้มีหลายแห่งในประเทศ เช่น เพชรบุรี ชะอำ และหัวหิน ซึ่งหลังจากนี้ลงพื้นที่ไปดูว่า โฮมสเตย์ที่รับคอสท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนี้มีการจัดโปรแกรมอย่างไร สิ่งเหล่านี้จะทำให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยเติบโตมากขึ้น"
          ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้สนับสนุนการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวกัญชาเพื่อสุขภาพ โดยร่วมมือกับกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข นำร่องเปิดเส้นทางกัญชาทางการแพทย์ใน 8 จังหวัด คือ จังหวัดสกลนคร นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชลบุรี สมุทรสงคราม ลำปาง แม่ฮ่องสอน และพัทลุง โดยมีกิจกรรมให้เยี่ยมชมพื้นที่เพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ พร้อมกับจัดทำคู่มือแนวทางการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับนวดไทย สมุนไพร และกัญชาทางการแพทย์แผนไทย สำหรับผู้ประกอบการและมัคคุเทศก์ ในพื้นที่เมืองสมุนไพร และพื้นที่ปลูกกัญชาทางการแพทย์เพื่อส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวกัญชาถูกบรรจุเป็นแพ็กเกจทัวร์ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
          สำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพถือเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของไทย โดยปี 62 มีอัตราการใช้บริการด้านการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประมาณ 16.1 ล้านครั้ง แบ่งเป็นบริการด้านการแพทย์ 3.6 ล้านครั้ง และบริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 12.5 ล้านครั้ง เกิดรายได้สูงถึง 450,200 ล้านบาท เป็นบริการด้านการแพทย์ 41,000 ล้านบาท และบริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 409,200 ล้านบาท.