เมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพเด็กไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็ก (MCh Board) เป็นผู้ดำเนินการเป้าหมายคือการลดอัตราการตายของมารดา และเด็กมีพัฒนาการสมวัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 85.8 ซึ่งในปี 2563 นี้ เพื่อเป็นของขวัญวันเด็ก ได้มอบหมายให้กรมสุขภาพจิต เร่งยกระดับสติปัญญาเด็กไทย ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวกแก่ศูนย์เด็กเล็ก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. และครูโรงเรียนอนุบาล เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย แก่พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุน ซึ่งคาด ว่าจะดำเนินการได้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด
          ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้สำรวจระดับความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) และระดับความ ฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ของเด็กไทยทุก 5 ปี พบระดับสติปัญญาของเด็กไทยเพิ่มขึ้นจาก 95.82 จุดในปี 2554 เป็น 98.23 จุด ในปี 2559 ขณะที่ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตั้งเป้าพัฒนา IQ เด็กไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ในปี 2564 ส่วนความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กไทย ด้านความมุ่งมั่นพยายาม การควบคุมอารมณ์ และการปรับตัวต่อปัญหา พบว่าในปี 2559 มีเด็กร้อยละ 16.7 มีระดับอีคิวที่ต่ำกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม กรมสุขภาพจิตมีเจตนารมณ์ในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นคนไทย 4.0 เพื่อเป็นพลังพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นคนมีลักษณะสติปัญญาดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดแง่บวก และคิดทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม มุ่งมั่นพัฒนาตนเอง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง แม้จะพบกับความล้มเหลว ก็ยังสามารถเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป และเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ สร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและแบ่งปันให้ผู้อื่นในสังคม
          ขณะที่แพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า ทางสถาบัน ราชานุกูลจะมีการเปิดเฟซบุ๊กแฟนเพจ ในชื่อ "ลูกเล่น by ราชานุกูล" เป็นช่องทางในการสื่อสารแบบออนไลน์ของประชาชนกับทีมสหวิชาชีพผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก ซึ่งจะเป็นคู่มือในการพัฒนาเด็กไทยคิดเป็น คิดดี คิดให้ ด้วยสายใยพันผูกส่งเสริมให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้พัฒนาการการเรียนรู้ของลูกผ่านการเล่นกับลูกโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย.