ทีมเดลินิวส์ 38 article@dailynews.co.th
การพัฒนาวัคซีนมีความสำคัญมากต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คน เพราะช่วยป้องกันโรคและยุติการแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม รองอธิการบดี กำกับดูแลด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า "ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะพัฒนาวัคซีนนวัตกรรมขึ้นได้ โดยไม่ต้องรอนำเข้าจากเมืองนอกเพียงอย่างเดียว สิ่งที่สำคัญคือ ทุกภาคส่วนต้องเห็นความสำคัญและร่วมมือกันอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่วางนโยบายสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และการวางนโยบายเพื่อดึงดูดเอกชนที่มีความพร้อมในการลงทุนด้านการวิจัย รวมถึงนักวิจัยที่มีความสามารถและมีความกระตือรือร้นในการสร้างนวัตกรรม และท้ายสุดคือการสร้างเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีระหว่างนักวิจัยทั่วโลก"
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการพัฒนาวัคซีนคือ จะทำอย่างไรให้ได้วัคซีนนวัตกรรมที่ดีกว่าของเดิมหรือยังไม่เคยมีมาก่อน และจะทำอย่างไร จึงจะได้วัคซีนที่มีราคาเหมาะสมและสามารถช่วยเหลือคนทุกระดับ โดยเฉพาะคนด้อยโอกาสได้
ในงานประชุมวิชาการด้านวัคซีนระดับโลก Vaccine Congress 2019 ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทย นอกจากจะมีการประชุมวิชาการด้านการพัฒนาวัคซีน ยังมีการมอบรางวัล 2019 Edward Jenner Lifetime Achievement Awardee ให้กับ ศาสตราจารย์รีโน รัปปูโอลี หนึ่งในผู้นำทางวิทยาศาสตร์ด้านวัคซีนระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อความยั่งยืนของระบบสาธารณสุข และได้รับการเสนอชื่อเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดอันดับสามของโลกในสาขาวัคซีน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้านักวิทยาศาสตร์และผู้อำนวยการด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนของบริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น จำกัด (จีเอสเค) และศาสตราจารย์ประจำวิทยาลัยอิมพีเรียลด้วย
ศาสตราจารย์รัปปูโอลี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Edward Jenner Lifetime Achievement Awardee ในครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรมสำหรับการพัฒนาวัคซีน
"วัคซีนนับว่าเป็นนวัตกรรมด้านสุขภาพที่ดีที่สุดในรอบร้อยปีที่ผ่านมา เพราะวัคซีนช่วยให้ผู้คนทั่วโลกปลอดภัยจากโรคติดเชื้อหลายชนิดและมีคุณภาพชีวิตที่ดีและอายุยืนยาว ซึ่งการพัฒนาวัคซีนจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดเทคโน โลยีนวัตกรรม บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนา ขณะนี้มีความสนใจที่จะศึกษาการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคหนองใน ซึ่งจะช่วยผู้คนกว่า 78 ล้านคนทั่วโลกที่เป็นโรคนี้ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อดื้อยา ซึ่งกำลังเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก"
ศาสตราจารย์รัปปูโอลีได้ศึกษาวิจัยและริเริ่มแนวคิดการพัฒนาวัคซีนต่าง ๆ ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ของวงการแพทย์สมัยใหม่ และถูกนำมาใช้ในการป้องกันโรคอย่างแพร่หลาย ได้แก่ แนวคิด reverse vaccinology หรือการพัฒนาวัคซีนแบบย้อนกลับ โดยการศึกษาชุดข้อมูลพันธุกรรมของเชื้อโรคเพื่อศึกษาหาแอนติเจนหรือสารก่อภูมิต้านทานที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการปฏิวัติการพัฒนาวัคซีนและทำให้สามารถลดระยะเวลาในการพัฒนาวัคซีน รวมถึงแนวคิด Genetic detoxification หรือกระบวนการขับสารพิษโดยใช้วิธีทางพันธุกรรม
ซึ่งแนวคิดเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพใน การป้องกันโรคติดเชื้อที่สำคัญหลายชนิด อาทิ วัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ ทำให้ผู้ได้รับวัคซีนมีอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนน้อยลง และวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น เพื่อป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ รวมถึงการคิดค้น CRM 197 ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในวัคซีนหลายชนิด เช่น วัคซีนไอพีดี (IPD) เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไอพีดี วัคซีนฮิบ (Hib) เพื่อป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น (meningococcal vaccine) และยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการพัฒนายาเพื่อรักษาโรคมะเร็ง นอกจากนี้ ดร.รีโน ยังมีผลงานวิจัยตีพิมพ์มากกว่า 690 ผลงานในวารสารวิชาการนานาชาติ
"ขณะนี้ทั่วโลกเกิดคำที่เรียกว่า Vaccine hesitancy หรือความลังเลใจว่าจะรับวัคซีนดีไหม หากเราปฏิเสธการรับวัคซีน โรคติดเชื้อ อีกหลายโรคอาจจะกลับมาแพร่ระบาด เช่น โรคโปลิโอ โรคฝีดาษหรือ ไข้ทรพิษ และโรคหัด จึงอยากฝากถึงทุกคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ว่า ให้เห็นถึงความสำคัญของวัคซีนในการป้องกันโรคต่าง ๆ" ศาสตราจารย์ รัปปูโอลี กล่าวสรุป. |