Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 20/08/2561 ]
ไม่ควรให้ยาลดไข้กลุ่มเอ็นเสด กับผู้ป่วยสงสัยไข้เลือดออก

"ไข้เลือดออก" เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ
          ผู้ที่ถูกยุงลายที่มีเชื้อไวรัสเดงกี่กัดอาจเกิดการติดเชื้อ อาจไม่แสดงอาการอะไรเลย หรืออาจมีอาการไข้ไม่รุนแรงหรืออาจถึงขั้นป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกซึ่งมีอาการมีไข้สูง และผู้ป่วยอาจมีภาวะช็อกจนเสียชีวิตได้ นอกจากนี้อาจเกิดอาการเลือดออกและมีภาวะแทรกซ้อนที่อวัยวะต่าง ๆ เช่น อาการทางสมอง หรือ ตับ เป็นต้น
          ไวรัสเดงกี่ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก มี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ไวรัสเดงกี่สายพันธุ์ 1, 2, 3, 4 และสายพันธุ์ที่ 2 มักทำให้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกที่มีความรุนแรงมากที่สุด
          สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกในประเทศไทยในปัจจุบัน พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยมากกว่าในอดีต แต่มีอัตราป่วยตายลดลง เนื่องจากเทคโนโลยีการรักษาที่ดีขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 5-24 ปี และมีแนวโน้มผู้ใหญ่ป่วยมากขึ้นกว่าในอดีต
          ข้อมูลจากสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 มกราคม-7 สิงหาคม 2561 มีรายงานผู้ป่วยไข้เลือดออก 41,094 ราย เสียชีวิต 48 ราย สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี  2560 ร้อยละ 48
          นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคม มักพบผู้ป่วยไข้เลือดออกสูงขึ้น เกือบร้อยละ 50 เป็นนักเรียน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ภาวะอ้วน เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด ส่วนใหญ่ซื้อยามารับประทานเอง เมื่อมีอาการหนักแล้วจึงไปโรงพยาบาล ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูง ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกล สัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลเอกชน คลินิกและร้านขายยาทั่วประเทศให้ระวังการจ่ายยาลดไข้กลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) ทั้งยารับประทานและยาฉีด แก่ผู้ที่มีไข้ และช่วยเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ขอให้ส่งต่อผู้ป่วยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงมีอาการรุนแรง เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษา ลดอัตราการเสียชีวิต
          "ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร่วมกับโรงเรียน วัด ศาสนสถานในพื้นที่เร่งสำรวจค่าดัชนีลูกน้ำยุงลาย ซึ่งยังพบว่ายังมีค่าสูงอยู่ และรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้าน โรงเรียน วัด ศาสนสถานซึ่งเป็นวิธีป้องกัน ไข้เลือดออกที่ดีที่สุด ใช้มาตรการ "3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค" คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย เพราะมียุงลายเป็นพาหะทั้ง 3 โรค โดย 1.เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ เป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน ทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง และ 3.เก็บน้ำ สำรวจและปิดฝาภาชนะใส่น้ำให้มิดชิดหรือปล่อยปลากินลูกน้ำ ป้องกันยุงลายวางไข่"
          ทั้งนี้ ผู้ป่วยไข้เลือดออกจะมีไข้สูงเฉียบพลัน เกิน 38.5 องศาเซลเซียส ส่วนใหญ่ไม่มีน้ำมูก ไม่ไอ มักมีหน้าแดง เบื่ออาหาร อาเจียน อาจมีผื่นแดง มีจุดเลือดออกเล็ก ๆ กระจายตามแขน ขา ลำตัว รักแร้
          การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ ขอให้เช็ดตัว และกินยาลดไข้พาราเซตามอล ห้ามใช้ยาพวกแอสไพริน ยากลุ่มเอ็นเสด เช่น ไอบรูโพรเฟน เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดเสียการทำงาน ระคายกระเพาะอาหารทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
          หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพราะผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 3 จะมีอาการรุนแรง อาจมีภาวะช็อก ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในช่วงที่ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงทีจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อาการดีขึ้นใน 2-3 วัน.

 pageview  1204422    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved