Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 01/03/2555 ]
ฟันคลินิกทิ้งประวัติไม่พบ"หมวย"ทำแท้ง

 ตร.ค้นคลินิกสุขุมวิท 12 ใบอนุญาตถูกต้องแต่ไม่พบประวัติ"หมวย แม็กซิม"ทำแท้ง สธ.ฟันทำเวชรัเบียนไม่ถูกต้อง เก็บแค่หนึ่งเดือนเผาทิ้ง
          ความคืบหน้ากรณีนางแบบสาว น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ หรือหมวย แม็กซิม วัย 29 ปี อ้ดีตแฟนสาวนายฮาเวิร์ด หวัง ดารานักร้องและนายแบบหนุ่ม ออกมาเปิดเผยว่าเคยไปทำแท้งที่คลินิกแห่งหนึ่งภายในซอยสุขุมวิท 12 โดยถูกฝ่ายชายบังคับขณะที่ฝ่ายนักร้องหนุ่มยอมรับว่าพาอดีตคนเคยรักไปทำแท้งจริง โดยอ้างว่าไม่รู้ว่ามีความผิดพร้อมยินดีเข้าไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น
          ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ชนิน วัชรปาณีกูล ผกก.สน.ลุมพินี เปดเผยว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐานจากข้อมูลที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรีส่งสำนวนปากคำ น.ส.พิลาวรรณ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามอบให้ ก่อนจะเสนอขออนุมัติหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา แลเข้าตรวจค้นคลินิกดังกล่าวในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
          "เราได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมตรวจในเรื่องใบอนุญาตตั้งสถานประกอบการว่าถูกต้องหรือไม่ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีตรวจสอบเวชระเบียน รายชื่อและวันที่ น.ส.พิลาวรรณเดินทางมาทำแท้งว่ามีการบันทึกตรงกับคำให้การหรือไม่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (29 ก.พ.)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีได้ทำหนังสือเชิญ น.ส.พิลาวรรณมาให้ปากคำเพิ่มเติมในช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งุยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามา ส่วนนายฮาเวิร์ดหวัง แฟนหนุ่มนั้น ยังไม่มีการเรียกเข้ามาให้การแต่อย่างได"พ.ต.อ.ชนินกล่าว
          สำหรับโทษที่ยินยอมทำแท้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนผู้สนับสนุน มีโทษ 2 ใน 3
          ต่อมาเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ชนิน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี และนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปนรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสภุข ได้นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ ค.55/2555 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 เข้าตรวจค้นสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนคลินิกชุมวนเวชกรรมภายในซอยสุขุมวิท 12 เลขที่ 6 แขวงและเขต คลองเตย กทม. โดยมีเจ้าหน้าที่ของสมาคมดังกล่าวต้อนรับ และเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั งหมดขึ้นไปบนอาคาร โดยไม่อนุญาติให้สื่อมวลชนขึ้นไปสังเกตุการณ์และทำข่าวแต่อย่างใด
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบเพื่อหาพยานหลักฐาน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เบื้องต้นจากการตรวจสอบเวชระเบียน ไม่พบประวัติการรักษาของ น.ส.พิลาวรรณ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจแจ้งชื่อนามสกุลปลอม และวันพรุ่งนี้(29ก.พ.)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ลุมพินีได้ทำหนังสือเชิญ น.ส.พิลาวรรณมาสอบปากคำเพิ่มเติมในช่วงบ่าย รวมถึงสอบถาม น.ส.พิลาวรรณว่าใช้ชื่อนามสกุลใดใช้บริการคลินิกดังกล่าว
          ด้านนายพสิษฐ์กล่าวว่า เป็นการเข้าตรวจตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล จาการตรวจสอบพบว่าคลินิกมีการขอใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีกระทรวงสาธารณสุขควบคุมดูแลแต่จากการตรวจสอบการเก็บประวัติของผู้รักษาพบว่าคลินิกมีการจัดเก็บเวชระเบียนของผู้รักษาไม่ถูกต้อง เนื่องจากตามปกติกฎหมายระบุว่าเวชระเบียนต้องเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปีแต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าทำลายทิพ้งเมื่อครบ 1 เดือน และอ้างว่าลงเวชระเบียนด้วยการเขียน ทั้งที่ปัจจุบันการลงเวชระเบียนจะใช้คมพิวเตอร์ และในคลินิกก็มีคอมพิวเตอร์อยู่ด้วย โดยคาดว่ามีเวชระเบียนที่สูญหายไปจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นกรมสนับสนุนบริการสุขภาพที่ร่วมตรวจสอบมาตรฐานในการปฏิบัติงานจของคลินิก จึงแจ้งข้อหากระทำผิดตามมาตรา 35 พ.ร.บ.สถานพยาบาล ว่าด้วยเรื่องเวชระเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          "จากการตรวจสอบพบข้อสงสัยหลายประเด็นซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องเวชระเบียนว่าจัดเก็บอย่างไร เพราะคลิ นิกเปิดมาตั้งแต่ปี 2517 ควรจะทราบระเบียนการทำเวชระเบียนเป็นอย่างดี นอกจากนี้จะตรวจสอบการทำรายงานส่งแพทยสภา ในเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ที่เป็นไปตามกฎหมายกี่รายต่อเดือน ผิดปกติหรือไม่ อย่างไร"นายพสิษฐ์กล่าว
          ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุขกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบครั้งนี้พบว่าภายในคลินิกมีห้องให้การรักษาจำนวน 5ห้อง มีแพทย์ประจำ 5 นาย โดยแจ้งเปิดคลินิกเพื่อวัตถุประสงค์ให้การป้องกันไม่ให้เกิดความผิดผลาดในการตั้งครรภ์ และแก้ไข ซึ่งมีการให้บริการทำหมันชายและให้คำปรึกษาการวางแผนครอบครัว โดยสถานพยาบาลดังกล่าวตามกฎหมายสามารถยุติการตั้งครรภ์ตามที่กฎหมายกำหนดขอบเขตไว้ได้ คือปัญหาจากการข่มขืนกระทำชำเราและปัญหาสุขภาพ
          "หากมีการยุติการตั้งครรภ์นอกเหนือจากขอบเขตที่กล่าวมา สถานพยาบาลดังกล่าสวก็ถือว่ามีความผิดตามประมวณกฎหมายมาตรา 305 ซึ่งจะมีการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป"นายพสิษฐ์กล่าวทิ้งท้าย
          นอกจากนี้ การสอบถามเจ้าหน้าที่ของคลินิก ทราบว่านายมีชัย วีระไวทยะ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของคลินิกได้เดินทางไปประเทศสิงคโปรในช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่กระแสข่าวที่คลินิกได้ปิดทำการหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ไม่เป็นความจริงเนื่องจากคลินิกปิดทำการเสาร์-อาทิตย์ปกติอยู่แล้ว
 

 pageview  1206084    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved