Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 19/06/2556 ]
เตือนภัย 3 ไวรัสร้าย ...ถล่มโลก

  ทีมข่าวรายงานพิเศษ         
          วงการแพทย์ทั่วโลกกำลังจับตาเฝ้าระวัง 3 ไวรัสร้ายตัวใหม่อย่างใกล้ชิด ได้แก่ "ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่","ไวรัสไข้หวัดนกสายพันธ์เอช 7 เอ็น 9" และ "ไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1" ซึ่งเคยสร้างความหวาดผวาเมื่อ 10 ปีก่อน ไวรัสร้ายทั้ง 3 ตัวแพร่ระบาดกระจายไปหลายประเทศในหลากหลายรูปแบบทั้งจากสัตว์สู่สัตว์ สัตว์สู่คน และคนสู่คน ขณะที่ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาโดยตรง องค์การอนามัยโลกย้ำเตือนว่า พวกมันคือมัจจุราชร้ายภาคล่าสุดสำหรับมวลมนุษย์!!
          โดยเฉพาะ "เชื้อโคโรนาไวรัส" ตัวใหม่ล่าสุด องค์การอนามัยตั้งชื่อให้ว่า โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง "MERS-CoV" (Middle East Respiratory Symptom coronavirus) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "ไวรัสโคโรน่า 2012" รายงานเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พบผู้ป่วยติดเชื้อตัวนี้ 65 ราย จาก 10 ประเทศ คือ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส ตูนีเซีย อิตาลี และ เยอรมัน โดยเสียชีวิตไปแล้ว 39 ราย เป็นสายพันธุ์เดียวกับไวรัสซาร์สที่เคยระบาดทั่วโลกเมื่อปี 2545 สามารถแพร่กระจายในอากาศจากคนสู่คน ครั้งนั้นทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 ราย เสียชีวิตไป 774 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 9.6 หากเปรียบเทียบกันแล้ว ไวรัสโคโรนาตัวใหม่รุนแรงกว่าหลายเท่า เพราะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตภายในไม่กี่วันในอัตราสูงกว่าถึงกว่าร้อยละ 50
          ปริศนาของไวรัสตัวนี้อยู่ที่ความเป็นมาและต้นตอ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าเชื้อไวรัสตัวใหม่นี้ระบาดมาจากต้นตอใด รู้เพียงว่ามีรายงานพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2555 เป็นชายซาอุฯ วัย 60 ปี...แต่ผู้ป่วยทุกคนล้วนอาศัยหรือเดินทางมาจากตะวันออกกลาง
          ขณะที่ไวรัสไข้หวัดนกตัวใหม่ล่าสุดสายพันธุ์เอช 7 เอ็นN9 (H7N9 Bird Flu) นั้น แพร่ระบาดมาจากเมืองจีน เริ่มที่นครเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รายงานล่าสุดยังคงพบเพียงในจีนและไต้หวัน มีผู้ป่วยยืนยันทั้งหมด 131 ราย เสียชีวิต 38 ราย ความแปลกประหลาด คือ สัตว์ปีก "ไก่ เป็ด และนกพิราบ" ตัวการสำคัญเผยแพร่เชื้อร้ายตัวนี้ไม่มีอาการป่วยหรือตาย แต่ถ้ามนุษย์รับเชื้อเข้ามาเพียงไม่กี่วัน จะมีไข้สูงจัด ปวดเมื่อยเนื้อตัวไม่มีเรี่ยวแรง บางคนมีอาการท้องเสียติดต่อกันหลายวัน หากไม่รีบไปพบแพทย์อาจเสียชีวิตได้โชคดียังไม่พบหลักฐานชี้ชัดว่าเชื้อตัวนี้แพร่กระจายจาก "คนสู่คน"
          ปริศนาของเอช 7 เอ็น 9 คือ วิธีการแพร่เชื้อและแหล่งที่มา เซลล์ของไวรัสส่วนใดกลายพันธุ์ไปจนทำให้เกิดพิษร้ายแรงเช่นนี้ขึ้น มีอัตราเสียชีวิตประมาณร้อยละ 30
          สำหรับ "ไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1" ที่แพร่ระบาดตั้งแต่ปี 2546 นั้น ยังคงมีรายงานการพบต่อเนื่องทุกปี แม้จำนวนจะไม่มากนัก โดยแพร่ระบาดไป 15 ประเทศ พบผู้ป่วยทั่วโลก 622 ราย เสียชีวิต 371 ราย เฉพาะในปี 2556 มีรายงานผู้ป่วย 12 ราย เสียชีวิต 11 ราย ใน 3 ประเทศ ได้แก่ อียิปต์ จีน และ กัมพูชา ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานข่าวพบฟาร์มไก่ติดเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 จำนวน 35 ตัว ในทิเบต ทำให้จีนเร่งเข้าไปทำลายไก่ที่เหลือทิ้งทั้งสิ้นเกือบ 400 ตัว ถือเป็นรายงานข่าวที่สร้างความกังวลให้แก่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค อธิบายว่า ไวรัสร้ายประจำปีนี้มี 3 ตัว ซึ่งไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9 และ เอช 5 เอ็น 1 นั้น ยังไม่ค่อยน่ากลัวมากนัก เพราะจำกัดอยู่แค่ในจีนกับไต้หวัน แต่ที่น่ากลัวคือโคโรนา 2012 ไวรัสพันธุ์ใหม่ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการตายสูงถึง 50-60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เดินทางมาจากตะวันออกกลาง อาการเบื้องต้นคือปอดบวมรุนแรง
          "ตอนนี้เมืองไทยมีแผนเฝ้าระวังเต็มที่ หากพบผู้ป่วยปอดบวมหาสาเหตุไม่ได้ หรือเดินทางกลับมาจากตะวันออกกลาง แพทย์จะประสานส่งเชื้อจากเสมหะในปอดมาตรวจทันทีว่าเป็นโรคโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ โดยใช้เปรียบเทียบกับธนาคารยีน ซึ่งทั่วโลกได้แชร์ข้อมูลให้กันและกัน หากถอดรหัสดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบแล้ว พบว่าเป็นเชื้อตัวนี้จะสั่งคุมพื้นที่ทันที แต่ที่ผ่านมายังตรวจไม่พบเชื้อตัวนี้ในประเทศไทยทั่วโลกยังไม่มียารักษาโดยตรงทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น"
          แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคอุบัติใหม่ข้างต้น ยอมรับว่า มีข้อมูลของไวรัสมรณะตัวนี้น้อยมากไม่เคยตรวจพบมาก่อนในอดีต นักวิทยาศาสตร์ได้แต่เพียงคาดเดาว่าน่าจะแพร่ระบาดมาจาก "ค้างคาว" สู่คน แต่ไม่รู้จากคนสู่คนได้อย่างไรประเทศไทยถือว่าปลอดภัยไม่ควรตื่นตระหนกเกินไป แต่ให้รักษาความสะอาด เช่น ล้างมือบ่อยๆ ใครมีอาการหวัดให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น และใครที่เดินทางกลับจากประเทศแถวตะวันออกกลาง หากมีอาการป่วยต้องรีบแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีว่ากลับมาจากประเทศอะไรเพื่อจะได้ช่วยกันเฝ้าระวังเบื้องต้น
          ทั้งนี้ มีเว็บไซด์บางแห่งปล่อยข่าวลือมา เชื้อโคโรนา 2012 เป็นไวรัสที่หลุดออกมาจากห้องทดลอง หรืออาจเป็นอาวุธเชื้อโรคหรืออาวุธชีวภาพที่ฝั่งดินแดนอาหรับผลิตออกมาหวังทำลายศัตรูให้สิ้นซาก ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี ผู้เชี่ยวชาญเชื้อไวรัสและโรคติดเชื้อ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลยอมรับว่าเคยได้ยินข่าวลือข้างต้น แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะการทดลองเชื้อไวรัสในห้องแล็บจะมีระบบป้องกันหลายชั้น ส่วนเรื่องการผลิตเป็นอาวุธเชื้อโรคนั้น ส่วนตัวแล้วไม่เชื้อว่าจะมีใครกล้าเอาไวรัสมาทำ เพพราะต้องเลี้ยงเพาะเชื้อไวรัสจำนวนหลายล้านๆ เซลล์ อาวุธเชื้อโรคส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อแบคทีเรียมากกว่าเพราะราคาถูก เลี้ยงเชื้อไม่ยากสะดวกว่า เช่น เชื้อแอนแทรกซ์
          "ตอนนี้ยังไม่น่าห่วง เพราะเชื้อโคโรนาตัวใหม่มันยังเกาะติดเนื้อเยื่อไม่เก่ง จะติดจากคนสู่คนได้ต้องอยู่ใกล้ชิดและสูดหายใจลึกๆ เอาเชื้อเข้าไปถึงปอด ไม่เหมือนไวรัส ไข้หวัดใหญ่ที่สามารถเกาะติดเนื้อเยื่อตามจมูกหรือระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้ทันที สาเหตุที่อัตราการตายสูงเพราะเชื้อถูกสูดเข้าไปในปอด มันจะทำร้ายได้รุนแรงกว่าเพราะอยู่ลึก กว่าคนไข้จะรู้ตัวแล้วมาหาหมอ อาการก็รุนแรงเกินเยียวยาแล้ว"
          นพ.อมรฝากเตือนให้ผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเป็นไปได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยแบบพิเศษหรือเรียกว่า "เอ็น 95" เพราะป้องกันเชื้อโรคได้ดีสุดราคาประมาณ 30 บาท ส่วนหน้ากากแบบเยื่อกระดาษนั้นจะป้องกันแค่ฝุ่นละอองทั่วไป เพราะมีช่องด้านข้างหรือด้านบน ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัส พร้อมทิ้งท้ายว่า
          สิ่งที่กังวลใจคือการเฝ้าระวังคือไม่ให้เชื้อโคโรนาตัวนี้กลายพันธุ์ หากมันพัฒนาให้เกาะเนื้อเยื่อเก่งขึ้นเมื่อไร ไวรัสตัวนี้ อาจกลายเป็นเชื้อมัจจุราชตัวจริงของมนุษย์โลก?!!
          หน้ากากอนามัย
          การ "ไอ" และ "จาม" ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปไกลถึง 3 ฟุต เชื้อโรคจะล่องลอยปะปนอยู่ในอากาศ องค์การอนามัยโลกวิจัยพบว่า การใส่หน้ากากอนามัยลดการแพร่กระจายเชื้อโรคปนเปื้อนได้ถึงร้อยละ 80
          หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ
          กรองฝุ่นได้ดีและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา หากเป็นเชื้อไวรัสอาจป้องกันไม่ได้ และไม่ควรใช้ซ้ำ ควรเปลี่ยนหน้ากากใหม่ทุกวัน
          หน้ากากอนามัยชนิดเอ็น 95 (N95)
          ป้องกันเชื้อโรคได้ดีทั้งฝุ่นละอองและเชื้อโรคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน รวมถึงเชื้อไวรัสในอากาศควรเปลี่ยนใหม่ทุก 3 สัปดาห์

 pageview  1205521    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved