ในโรงพยาบาลเบื้องหลังความสำเร็จของการรักษาอาการป่วยทั้งหลาย ก็คือเหล่าพยาบาลที่คอยดูแลควบคุมอาการอย่างใกล้ชิด เป็นหนึ่งอาชีพสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบสุขภาพของมวลชนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และเนื่องในวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2555 สภาการพยาบาลจึงจัดพิธีมอบรางวัลพยาบาลดีเด่น พยาบาลผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงสูง วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญเฉพาะทางการพยาบาล และการผดุงครรภ์ พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่หน่วยงานที่ได้รับรองคุณภาพบริการพยาบาลและการผดุงครรภ์ขึ้น โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จมาประทานรางวัลพยาบาลดีเด่น ที่ห้องประชุมราชนครินทร์ อาคารนครินทรศรี สภาการพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันก่อน
          ในการนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ทรงมีพระดำรัสแก่เหล่าพยาบาลกว่า 362 คนว่า พยาบาลเป็นบุคคลที่มีคุณค่า เพราะมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการดูแลสุขภาพอนามัยให้แก่ประชาชน กล่าวได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของพยาบาลเป็นภารกิจที่ค่อนข้างหนัก ซึ่งจะต้องประสบปัญหานานัปการ ทั้งเรื่องบุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือ อีกทั้งบางครั้งต้องเสี่ยงภยันอันตราย เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลผู้เจ็บป่วยในพื้นที่เสี่ยงด้วยความเสียสละอย่างสูง
          อารีย์ พฤกษราช อายุ 79 ปี ผู้ได้รับรางวัลพยาบาลดีเด่น สาขาเกียรติคุณ กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจกับผลของการตั้งใจปฏิบัติหน้าที่มาตลอดหลายสิบปี โดยตัวเองยึดหลักว่าต้องมีความสุขในการทำงาน เมื่อรับปากใครแล้วต้องทำให้สำเร็จด้วยใจ ทุกอาการของคนไข้ต้องติดตามต่อให้จบ และสำคัญคืออย่าหวังผลตอบแทน การเป็นพยาบาลคือการได้ทำบุญที่เชื่อว่าพยาบาลหลายคนทำไปโดยไม่รู้ตัวเพราะได้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนตลอดเวลา หากเรารักษาเขาด้วยใจเมื่อผู้ป่วยหายเวลาได้เห็นสายตาดีใจที่เขาส่งมาให้ตัวเองก็พอใจแล้ว
          ด้าน วราภรณ์ จินตานนท์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลพยาบาลผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงสูง บอกว่า การทำงานในพื้นที่สีแดงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกคนอาศัยความเป็นคนพื้นที่ในการคาดเดาเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงกลางคืนเป็นช่วงที่ทำงานค่อนข้างลำบากชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าออกบ้านจึงต้องจัดหน่วยพยาบาลให้ครอบคลุมมากขึ้น และต้องจัดระบบการดูแลใหม่พร้อมจัดสรรยา บุคลากร และอุปกรณ์การแพทย์ให้พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ความไม่สงบตลอดเวลา หลักในการทำวิชาชีพพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงภัยจึงเป็นเรื่องของการมีสติ และมีจิตเมตตากับทุกฝ่าย ทุกเชื้อชาติ ศาสนา แม้ว่าผู้ป่วยจะเป็นผู้ก่อการร้ายเราก็ต้องรักษาด้วยมิตรไมตรี เป็นหน้าที่ที่ต้องช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทุกคน
          อีกมุมมองของพยาบาลผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำ อย่าง ยงยุทธ ประมวลสุข พยาบาลวิชาชีพ เรือนจำประจำจังหวัดนนทบุรี ที่ได้รับวุฒิบัตรสาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน บอกว่าปัจจุบันมีผู้ปฏิบัติงานพยาบาลในเรือนจำประมาณ 400 คนทั่วประเทศ ที่ต้องดูแลผู้ต้องขังกว่า 2.3 แสนคน เฉลี่ยแล้วจะมีนักโทษ 1,250 คนที่พยาบาล 1 คน ต้องรับผิดชอบ งานนี้จึงต้องอาศัยใจรักและการประสานงานที่ดีด้วย
          "ใน 1 อาทิตย์ หมอจะเข้ามาตรวจ 1-2 วัน ดังนั้นพยาบาลจะต้องอยู่ดูแลนักโทษทุกวัน และขั้นตอนการนำผู้ต้องขังออกมารักษาค่อนข้างยุ่งยาก กว่านักโทษ 1 คนจะออกมาหาหมอได้ต้องอาศัยการประสานงานที่ดี และเอาใจเขามาใส่ใจเราคิดว่าเขาเป็นเหมือนเพื่อน พี่ น้อง ของเราจะทำยังไงให้เขาหายเป็นปกติ หมั่นหาความรู้ทางด้านวิชาชีพเพิ่มเติมเพื่อให้ตัวเองมีกฎหมายรองรับการรักษาผู้ป่วยที่กว้างขึ้นกว่าเดิมด้วย" ยงยุทธ กล่าวปิดท้าย