แม้ช่วงนี้สถานการณ์การระบาดของไข้หวัดนกทั้งในสัตว์ปีกและคนในประเทศไทยเราได้เงียบหายไปนานพอสมควรแล้ว แต่เราก็ยังประมาทไม่ได้นะครับ ! เพราะเมื่อไม่นานมานี้ โรคไข้หวัดนกได้กลับมาระบาดในเม็กซิโกและจีน
          อย่าลืมครับว่า การระบาดของไข้หวัดนกในบ้านเรา โดยเฉพาะที่รุนแรงที่สุดในปี 2547 หากเราสังเกตให้ดีการระบาดส่วนใหญ่จะเกิดช่วงฤดูฝน บางข้อมูลระบุว่ามาจากนกอพยพหนีภัยหนาวจากทะเลสาบไซบีเรียทางตอนเหนือของจีน และได้นำพาเชื้อไข้หวัดนกมาฝากประเทศไทย และนี่ก็ใกล้จะถึงฤดูหนาวกันอีกแล้ว ฉะนั้นเราไม่ควรวางใจ เพราะหากไม่มีการป้องกันที่ดี เป็นเรื่องที่ไม่ยากที่โรคนี้อาจกลับมาระบาดได้อีก
          เพื่อเป็นการระวังไม่ให้เกิดการระบาดอีก นสพ.นรินทร์ ร่มลำดวน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้ชำนาญการด้านสุขภาพสัตว์และสมาชิกสัตวแพทยสภา ได้แนะนำว่า ในทางปฏิบัติมีความจำเป็นที่จะต้องป้องกันโรคกันทุกช่องทางที่เกี่ยวข้องกับฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่น่าจะเป็นพาหะนำโรค อากาศ อาหาร น้ำ  อุปกรณ์และวัสดุรองพื้น รวมถึงคนที่เข้าออกฟาร์ม 
          ตัวที่เป็นพาหะของโรคนี้ ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ทั้งนก หรือหนู แม้แต่สุนัข และแมว จัดเป็นปัจจัยที่จะส่งผลนำเชื้อเข้าในฟาร์มได้ ช่วงนี้อาจจำเป็นต้องมีการใช้ยาฆ่าเชื้อภายในฟาร์มบ่อยครั้งขึ้น แม้กระทั่งด้านอาหารสัตว์ที่ใช้ในฟาร์ม ก็จำเป็นต้องตรวจสอบได้ถึงที่มาและก่อนที่รถขนอาหารจะเข้ามาในฟาร์มก็ต้องฆ่าเชื้อที่รถและล้อก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้ต้องระวังไม่ให้มีอาหารหกหล่นนอกเล้า เพราะจะทำให้มีนก หนูเข้ามากินได้ 
          ส่วนการน้ำที่ใช้ในฟาร์มที่ส่วนใหญ่จะใช้น้ำบาดาล น้ำคลอง หรือน้ำบ่อ  ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีนกธรรมชาติ  นกเป็ดน้ำ  และนกปากห่างเข้าไปหากินหรือไม่ ฉะนั้นควรใช้คลอรีนใส่หน้าบ่อด้วย
          สำหรับอุปกรณ์และวัสดุรองพื้นในฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็นถาดไข่ วัสดุรองพื้น  หรืออุปกรณ์อื่นๆ ต้องตรวจสอบว่ามีการปนเปื้อน หรือมีการจัดเก็บไม่ดีหรือไม่  แม้แต่คนที่เข้าออกฟาร์มก็เป็นปัจจัยเสี่ยง เนื่องจากอาจนำเชื้อมาจากฟาร์มอื่น  หรือสัมผัสไวรัสจากธรรมชาติ ซึ่งอาจติดมากับเสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น
          การลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโรคเข้าสู่ฟาร์ม ต้องเริ่มกันตั้งแต่รถยนต์ที่มาจากภายนอกจะเข้ามาติดต่อ ควรให้จอดนอกฟาร์ม หรือรถที่ขนมูลไก่จากที่อื่นมา ก็ควรล้างฆ่าเชื้อก่อนจะนำเข้าภายในฟาร์ม ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้
          อย่างไรก็ตาม ไข้หวัดนกไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับไทยเรา ฉะนั้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงสาธารณสุขต่างก็เข้มงวดกับการเฝ้าระวัง รวมถึงการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก ทั้งยังกำหนดแนวทางการเลี้ยงสัตว์ปีกที่เหมาะสมด้วย
          พูดกันตรงๆ งานนี้ ต้องระดมเครือข่ายทุกภาคส่วนกระจายไปทั่วประเทศ ...และต้องร่วมแรงร่วมใจกันเตรียมพร้อมป้องกันอย่างแข็งขัน ถือเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้ครับ