Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 23/04/2562 ]
กัญชาพืชต้องห้าม สู่รักษาโรค-แก้จน

  ปจจุบันประเทศไทยอยู่ในช่วงนิรโทษกรรมให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ซึ่งผู้ป่วยที่สามารถยื่นแจ้งขอครอบครองกัญชาต้องเป็นผู้ป่วย 4 โรคชัดเจนคือ ลมชักในเด็ก กล้ามเนื้อแข็ง ผู้ป่วยมะเร็งที่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนจากการได้รับยาเคมีบำบัด และปวดเรื้อรัง อาทิ โรคพาร์กินสัน อัลไซเมอร์ เครียด และการใช้ในผู้ป่วยระยะสุดท้ายกลุ่มที่ใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต เช่น การใช้น้ำมันกัญชาในการฆ่าเซลล์มะเร็ง เป็นต้น
          1.
          ว่ากันว่าเดิมกัญชาไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นกัญชาพันธุ์ดีที่สุดในโลกมีคุณภาพยาสูงที่สุดในโลก สายพันธุ์หางกระรอกหรือที่ต่างประเทศรู้จักกันในชื่อ Thai stick ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ติดหนึ่งในห้าสายพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลก ด้วยภูมิอากาศ ความชื้น ดินและแสงแดดที่เหมาะสม จึงทำให้เป็นสายพันธุ์ที่มีค่า THC หรือสารที่มีคุณประโยชน์ในทางรักษาสูงที่สุด รวมทั้งสาร CBD เป็นสายพันธุ์แท้ดั้งเดิมที่มีขึ้นอยู่ตามธรรมชาติแถบเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ได้นำสายพันธุ์จากไทยไปพัฒนาจนดีกว่าสายพันธุ์เดิมของไทยไปแล้ว
          "ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์" ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ บอกว่า เทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร เป็นแหล่งกำเนิดพันธุ์พืชกัญชาที่ดีที่สุดในอดีต เมื่อต้นปีที่ผ่านมาสภาเกษตรกรแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกันกำหนดให้พื้นที่ จ.สกลนคร เป็นพื้นที่นำร่องในการส่งเสริมการปลูกกัญชา โดยประกาศให้อยู่ในเขตทหารจะทำให้ควบคุมได้ง่าย โดยใช้พื้นที่นำร่องประมาณ 5,000 ไร่
          ขณะเดียวกันสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต จะวิจัยกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีอยู่ของไทย เพื่อให้ทราบว่ามีสารสำคัญอะไร อย่างไรและวิจัยตำรับยาไทย 2 ตำรับ คือตำรับยาประสะกัญชา และอัมฤตย์โอสถ นอกจากนี้เปิดรับกรณีศึกษาผู้ป่วยที่ใช้กัญชาแล้วหายจากโรคทั้งหมดเข้ามาร่วมโครงการวิจัยเพื่อศึกษาขบวนการรักษา
          เพจ Highland เขียนไว้ว่าสมัยโบราณกัญชาเคยเป็นส่วนผสมสำคัญในตำรับยาแพทย์แผนไทยถึง 93 ตำรับคนไทยใช้กัญชาทางการแพทย์มามากกว่า 360 ปี ตั้งแต่รัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  ซึ่งในตำราพระโอสถพระนารายณ์ มีสูตรตำรับยาทิพกาศ ที่มีส่วนประกอบหลักเป็นใบกัญชา 16 ส่วน และตำรับยา ศุขไสยาศน์ที่มีส่วนประกอบหลักเป็นใบกัญชา 12 ส่วน ส่วนมากยาเหล่านี้ใช้รักษาอาการนอนไม่หลับ ช่วยเจริญอาหาร ตกเลือด แก้ลงแดง ขับลม รักษาอาการปวดต่างๆ และบำรุงกำลัง
          ขณะที่เอกสารกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ใช้ฉบับนี้เป็นเอกสารประกอบการประชุมรับฟังความคิดเห็น "ร่างรายการตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ" วันที่ 18 มกราคม 2562 ณ โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี เกี่ยวกับตำรับยาประกอบด้วย 1. ตำรับยาที่มีประสิทธิผล มีความปลอดภัย วิธีการผลิตไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ตัวยาหาไม่ยากและมีสรรพคุณตำรับที่แก้ปัญหาสาธารณสุข16 ตำรับ
          2.ตำรับยาที่มีประสิทธิผล แต่วิธีการผลิตไม่ชัดเจนและมีตัวยาหายาก 11 ตำรับ 3.ตำรับยาที่เห็นควรให้มีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม 32 ตำรับ 4.ตำรับยาทีมีส่วนประกอบอยู่ในอนุสัญญา CITES และฮูประกาศและตัวยาที่กฎหมายไม่อนุญาตให้ใช้ 31 ตำรับ ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์นี้ :https://drive.google.com/./1PBusAciRlubGbtxem1xNgrFrYo./view
          แสดงว่า "กัญชา" อยู่ในตำราแพทย์แผนไทยมาโดยตลอด
          2.
          ล่าสุด 19-21 เมษายน มีการจัดงาน "พันธุ์บุรีรัมย์" มหกรรมกัญชาเพื่อการแพทย์ครั้งแรกในประเทศไทย ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประชาชนทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าชมนิทรรศการ ฟังสัมมนาวิชาการกว่า 150,000 คน  ในขณะที่มีผู้ผ่านเกณฑ์การขอจดครอบครองกัญชา จำนวน 4,397 ราย จากทั้งหมดของจำนวนผู้มาขอยื่นครอบครองกว่าหมื่นราย จึงเป็นเหมือนการนำร่องเพื่อให้ทุกฝ่ายได้มองเห็นและเข้าใจกัญชามากขึ้น
          ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร และกระบวนการวิธีการสกัดกัญชาให้เป็นยามาใช้เพื่อรักษาโรค มีการพบปะพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้ป่วยที่เคยป่วยและใช้กัญชาเพื่อช่วยรักษาโรคได้จริง
          "เนวิน ชิดชอบ" ประธานบริษัทบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด ยอมรับว่าอีกด้านหนึ่งของสังคมมีการตั้งคำถามมากมายเช่นว่า การจัดงานครั้งนี้มีเจตนาซ่อนเร้นหรือไม่ ทั้งธุรกิจ มีใครจะได้ประโยชน์บ้าง หากประชาชนเข้าถึงกัญชาเพื่อการแพทย์ได้ด้วยตนเองอย่างถูกกฎหมาย
          ซึ่งเนวินออกตัวว่า แนวคิดสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ เพื่อรักษาอาการป่วยของตนเองได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีการผูกขาด มีเป้าหมายอยู่ที่ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก คือ 1.ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย ครอบครัว และโรงพยาบาลของรัฐบาล 2.ลดภาระงบประมาณของบัตรทอง 30 บาท 3.สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่จะร่วมโครงการปลูกกัญชาเพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตยารักษาโรค ทั้งแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบันตามเงื่อนไขกฎหมายกำหนดกัญชาเพื่อการแพทย์ เพราะในทัศนะของเขามองว่า "กัญชา" เป็นทั้งยาแก้อาการของโรคและเป็นยาแก้จนได้ด้วย"
          "หากการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ของภาคประชาชนถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีการออกกฎหมายมารองรับให้ทำได้อย่างมีคุณภาพและควบคุมมาตรฐานได้ จะช่วยลดภาระรัฐบาล ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศ ลดค่าใช้จ่ายบุคลากรทางการแพทย์ ลดปริมาณงาน และลดค่ายารักษาโรค ในส่วนของประชาชนจะลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไปรับยา ที่โรงพยาบาลได้"
          3.
          ตลอดทั้ง 3 วัน เต็นท์คัดกรองผู้ป่วยแน่นขนัดไปด้วยประชาชนที่ต้องการแสดงหลักฐานนิรโทษกรรมผู้มีกัญชาในความครอบครองใช้รักษาโรค พร้อมๆ กับผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ต้องการมาขอรับ "น้ำมันกัญชา"
          ลุงเปลี่ยน อายุ 67  ปีชาวบ้าน อ.หนองหงษ์ จ.บุรีรัมย์ เป็นมะเร็งถุงน้ำดีอยู่ระหว่างการให้คีโมที่ รพ.รามาธิบดี มากับป้าพลอย ภรรยา ด้วยความหวังว่าจะได้รับแจกกัญชาไปรักษาตัว เพราะกินน้ำกัญชาต้ม 3 เวลาหลังอาหารมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้วอาการดีขึ้น นอนหลับ กินข้าวได้ ทำให้มีกำลังวังชามากขึ้น แถมเบาหวานก็ลดลงอีกด้วย
          "อยากได้น้ำมันกัญชาและใบกัญชาไปต้มน้ำกิน เพราะหายาก กว่าจะได้มาก็ยากเย็นลูกเขยไปหามาให้ไม่รู้ไปเอามาจากไหนได้มีหยิบมือเดียว ต้มกินอยู่จนจืด พอได้ข่าวว่าเขามีงานนี้ก็เลยลองมาดูเพื่อจะได้ติดมือกลับบ้านไปบ้าง" ลุงเปลี่ยน กล่าว
          เช่นเดียวกับ ปานและแม่ ที่เดินทางมาจากจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อมาขอใบนิรโทษกรรมการครอบครองกัญชา เนื่องจากแม่ของเขาป่วยมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 รักษาแพทย์แผนปัจจุบันมาระยะหนึ่งแล้วจนได้รับคำจากเพื่อนบ้านว่าให้ลองมารักษาแพทย์ทางเลือก จึงขนขวายหาน้ำมันกัญชามาให้แม่ลองใช้มาแล้ว 6 เดือน  รู้สึกแม่ดีขึ้นใน แง่ของสุขภาพจิต ไม่เครียด และนอนหลับ รับประทานอาหารได้มากกว่าเดิม
          แต่ปานและแม่ก็ยังไปพบหมอและรับยาแผนปัจจุบันควบคู่ ในอนาคต แม่จะเข้าร่วมโครงการเป็นผู้ป่วยที่ใช้น้ำมันกัญชาในการรักษาโรคกับสถาบันการศึกษาที่เปิดรับเพื่อดูว่าอาการป่วยจากโรคร้ายของแม่จะดีขึ้นและมีโอกาสหายขาดได้หรือไม่
          ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ใช้กัญชาในการรักษาโรคจะใช้ควบคู่แพทย์แผนปัจจุบันหรือใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย ขณะที่ "บาส" ที่ใช้กัญชามาตลอด 17 ปี ตั้งแต่วัยแตกหนุ่มจนถึง 37 ปี ในการสันทนาการได้รับเป็นผลดีแง่สุขภาพ กินข้าวได้ นอนหลับ มีพละกำลังที่ดี ออกกำลังกายได้ มีร่างกายกำยำ จนเป็นดารา นายแบบ ได้อย่างสบาย จะมีเพียงรอยสักสัญลักษณ์ THC บนข้อพับด้านซ้ายเท่านั้นที่บ่งบอกว่า "เขากับกัญชาเป็นหนึ่งเดียว"
          นอกจากนี้ภายในงานมีการแสดงการออกร้านจำหน่ายปุ๋ยสำหรับปลูก การใช้ไฟส่องสว่างและอุปกรณ์การปลูกกัญชาในร่ม เสื้อยืดผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ อาทิ ครีมทาผิว สบู่ ยาสระผม "ชาผสมกัญชา" ให้ผู้สนใจได้ลองชิมและมีการจัดขี่ม้าภายในงานที่มีกระโจมเผ่าอินเดียนแดงและกลางคืนมีดนตรี
          นิตยา วรจักร กลุ่มกัญชารักษามะเร็งที่นำพิมเสนน้ำผสมกัญชามาจำหน่ายในงาน เล่าว่า ที่กลุ่มมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งสบู่ ช็อกโกแลต และล่าสุดพิมพ์เสนน้ำ ที่ตลาดตอบรับดี ทำเดือนละ 1 ครั้งได้ 100 หลอด ใช้สำหรับดม วิงเวียน ปกติขายในกลุ่ม และนำมาจำหน่ายในงานได้รับตอบรับเป็นอย่างดี
          เช่นเดียวกับ "กิ๊ก-อภิญญา เวชประสิทธิ์" เจ้าของผลิตภัณฑ์ super soap ที่นำพืชกระท่อมมาเป็นส่วนผสมของสบู่เหลว และแชมพู รวมทั้งน้ำมันสกัดจากมะพร้าว และไพรก็ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งพรรคเขียวก็นำน้ำมันกัญชามาเป็นส่วนผสมทำสบู่เหลว ยาสระผม ครีมนวด ไว้จำหน่ายให้ผู้ป่วยมะเร็งที่แพ้สารเคมีก็ได้รับความสนใจเช่นเดียวกัน

 pageview  1204903    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved