ตุลย์ ณ ราชดำเนิน  tulacom@gmail.com
          ย้อนกลับไปในปี 2548-2552 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำรวจพบการตั้งครรภ์แม่วัยใสร้อยละ 15 เป็นการท้องที่ไม่พึงประสงค์ และมีแม่วัยใสอายุน้อยกว่า 15 ปี แจ้งการเกิดกับกระทรวงมหาดไทยประมาณ 3,000 คน
          จากการศึกษาสถานการณ์ความยากจนในเด็กไทย ภายใต้การสนับสนุนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เปรียบเทียบข้อมูลปี 2549 กับ 2551 พบสถิติแม่วัยรุ่นไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี กลับมีการตั้งท้องสูงถึง 150,000 คน กลายเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับ 1 ในเอเชีย
          สวนทางกับประเทศญี่ปุ่น มีอัตราเฉลี่ยการตั้งท้อง 4 คน ต่อ 1,000 คนเท่านั้น และในประเทศที่มีสถิติการตั้งครรภ์ของแม่วัยรุ่นต่ำที่สุดของโลก คือ สวิตเซอร์แลนด์
          ปี 2552 มีการสำรวจเด็กวัยรุ่นหญิงวัย 15-19 ปี ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบอัตราเฉลี่ยการตั้งท้อง 65 คนต่อ 1,000 คน ขณะที่ตัวเลขของประเทศไทย 1,000 คน มีเด็กวัยรุ่น 70 คน ตั้งท้องซึ่งเป็นตัวเลขที่เกินอัตราเฉลี่ยระดับภูมิภาค
          สอดรับกับการศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในแม่วัยใส ของศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านเพศภาวะและสุขภาพสตรี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) พบข้อมูลจากแม่วัยใส คือ ส่วนใหญ่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุ 15 ปีมากที่สุด และตั้งครรภ์ที่อายุน้อยที่สุด คือ 12 ปี ร้อยละ 62.9
          ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมากที่สุด ร้อยละ 12.5 มัธยมศึกษาตอนปลาย ร้อยละ 7.7 และเด็กประถมศึกษา ร้อยละ 3.1 ล้วนบอกตรงกันว่า ไม่ตั้งใจตั้งครรภ์
          ล่าสุดสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้ศึกษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลสถานการณ์เด็กและเยาวชนในประเทศอย่างสมบูรณ์ทุกมิติ เพื่อจัดทำรายงานการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทย ปี 2553 พบว่าสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงสังคมหลายด้าน กำลังคุกคามเป็นอันตรายต่อการดำเนินชีวิตเด็กและเยาวชน
          โดยเฉพาะการเข้าถึงการสื่อสารสมัยใหม่ทั้งโทรศัพท์ คอมพิว เตอร์และอินเตอร์เน็ต อาจทำให้เกิดการใช้อย่างไม่เหมาะสม มีพฤติกรรมเลียนแบบหรือคึกคะนอง เด็กจึงอาจจะเติบโตขึ้นมาอย่างไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร
          สำหรับเรื่องดีๆ ที่ทีดีอาร์ไอ พบคือ เด็กเข้าถึงการศึกษา ดีขึ้นมาก แต่ไม่เกี่ยวกับคุณภาพ