ดร.นพ.พรเทพศิริวนารังสรรค์อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในโอกาสตรวจเยี่ยมสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 ราชบุรี และติดตามการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อตามแนวชายแดนที่จังหวัดกาญจนบุรีว่า กรมควบคุมโรคได้รับมอบหมายจาก นายวิทยาบุรณศิริรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้จัดระบบการป้องกัน เฝ้าระวังโรคพื้นที่ชายแดนและข้ามเขตแดน ภายใต้ความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศพม่า ให้มีการจัดประชุมร่วมระหว่างจังหวัดชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกัน หรือจังหวัดคู่แฝด ปีละอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อร่วมมือกันกวาดล้างโรค พัฒนาระบบริการ รวมทั้งการพัฒนาห้องตรวจปฏิบัติการหรือห้องแลปของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 ราชบุรี ซึ่งมีกาญจนบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในเขตพื้นที่การดูแล เพื่อให้ห้องปฏิบัติการของ สคร.4 ราชบุรีเป็นห้องปฏิบัติการมีทั้งศักยภาพและความพร้อมในการตรวจวินิจฉัยโรค และได้มีการนำเทคนิคการตรวจด้วยวิธีการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมและตรวจวัดในสภาพจริง (Real-time PCR)มาใช้ โดยในประเทศไทยมีห้องแลปเพียง 7 แห่งเท่านั้นที่ใช้การตรวจด้วยหลักการนี้ เป็นการตรวจหาเชื้อวัณโรคและทดสอบการดื้อต่อยา ที่สามารถตรวจวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่เกิน 1 วัน ช่วยแก้ปัญหาความล่าช้าของการวินิจฉัยโรค เพราะปัจจุบันพบเชื้อวัณโรคดื้อยาเป็นจำนวนมาก ซึ่งการวินิจฉัยด้วยวิธีนี้จะช่วยให้แพทย์เลือกยารักษาได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว  และช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังชุมชนได้ โดยปกติแล้วการวินิจฉัยวัณโรคในโรงพยาบาลจะใช้วิธีการป้ายเสมหะบนสไลด์แล้วย้อมสี จากนั้นจึงนำไปตรวจหาเชื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งวิธีการนี้ต้องมีเชื้อวัณโรคมากพอจึงจะตรวจพบได้ ส่วนการเพาะเลี้ยงเชื้อที่ทำกันโดยทั่วไปใช้เวลานานถึง 2 - 3 เดือนจึงจะทราบผล  ห้องปฏิบัติการของ สคร.4 ราชบุรี  จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการทำงานด้านการเฝ้าระวังควบคุมโรคป้องกันโรคติดต่อตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสนับสนุนการทำงานของทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว(SRRT)ให้สามารถควบคุมโรคและตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว www.ddc.moph.go.th