ลุ้นผลอีก286คน ชง'ทัวริสต์ วีซ่า 'ฟื้นฟู'ท่องเที่ยว'
          3 ทีมบอลชั้นนาของไทย ทั้งบุรีรัมย์ ราชบุรี ขอนแก่น ยูไนเต็ดได้เฮ ผลตรวจโควิดออกแล้ว พบไม่ติดเชื้อ ขณะที่ผู้สัมผัสอีก 286 คนยังรอลุ้นผล ศบค.เผยไทยพบติดเชื้ออีก 2 ราย จากต่างประเทศ เป็นหนุ่มไทยกลับจากสหรัฐ และน.ศ.สาวไทยมาจากกาตาร์ ด้านพม่ายอดติดเชื้อพุ่ง ป่วยอีก 337 คน ยอดรวมเกือบ 3 พัน 'พิพัฒน์ รัชกิจประการ'รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมชงเรื่อง'สเปเชี่ยล ทัวริสต์ วีซ่า'เข้าครม. หวังดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย ชี้หากไม่ทำ คนในวงการท่องเที่ยว 4 ล้านคนตกงานแน่
          ไทยพบติดเชื้อเพิ่มอีก 2
          เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 ว่า วันนี้มีผู้ป่วย โควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 2 ราย ไม่มีหายป่วยและไม่มีเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 3,475 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,445 ราย สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 537 ราย หายกลับบ้านรวม 3,312 ราย และยังรักษาในร.พ. 105 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย
          ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวัง ดังนี้ 1.สหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 23 ปี อาชีพรับจ้างสอนหนังสือ เดินทางถึงไทยวันที่ 5 ก.ย. เข้าพักสเตต ควอรันทีน ใน จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 11 ก.ย. ผลไม่ชัดเจน จึงตรวจซ้ำวันที่ 12 ก.ย. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ
          2.กาตาร์ 1 ราย เป็นนักศึกษาหญิงไทย อายุ 29 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 7 ก.ย. เข้าพักสเตต ควอรันทีน จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 11 ก.ย. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ
          ส่วนทั่วโลกประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 6,707,036 ราย เป็นรายใหม่ 30,435 ราย 2.อินเดีย 4,845,003 ราย เป็นรายใหม่ 93,215 ราย 3.บราซิล 4,330,455 ราย เป็นรายใหม่ 14,597 ราย 4.รัสเซีย 1,062,811 ราย เป็น รายใหม่ 5,449 ราย 5.เปรู 729,619 ราย เป็นรายใหม่ 6,787 ราย
          ด้านพม่ายังมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 337 ราย ยอดสะสมรวม 2,932 ราย
          ผลตรวจนักบอล 3 ทีมไร้โควิด
          วันเดียวกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานผลการสอบสวนและควบคุมโรคโควิด- 19 กรณีนักฟุตบอล ชาวอุซเบกิสถานอายุ 29 ปี ของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อ โควิด-19 เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ว่า ผลการตรวจหาสารพันธุกรรมโควิด-19 ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวม 47 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ สถานที่อื่นๆ ใน จ.บุรีรัมย์มีผู้สัมผัสรวม 286 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 27 คน อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจะครบการกักกันในวันที่ 24 ก.ย. และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 259 คน อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ
          ส่วนสโมสรราชบุรี มิตรผล มีผู้สัมผัส รวม 44 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 11 คน ครบการกักกันเมื่อวันที่ 13 ก.ย.และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 33 คน ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ 43 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ส่วนอีก 1 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ไม่ได้ลงเตะนัดอุ่นเครื่อง ผลตรวจเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 63 เป็นลบ
          ขณะที่สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด มี ผู้สัมผัสรวม 51 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 15 คน จะครบการกักกันในวันที่ 19 ก.ย. และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 36 คน ทั้งหมดให้ผล เป็นลบ
          สำหรับผู้โดยสารเครื่องบินเดียวกัน มีผู้สัมผัสรวม 13 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำทุกราย ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ 6 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ รวมผู้สัมผัสทุกสถานที่ 441 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 100 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 341 คน ให้ผลตรวจเป็นลบ 147 คน รอผลการตรวจ 286 คน
          ชี้ข้อมูลเก่าข่าวเลิกจ้างแรงงาน
          วันเดียวกัน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีมีกระแสข่าวเลิกจ้างแรงงานธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เป็นผลจาก โควิด-19 นั้นว่า ตนสอบถามจากบริษัทที่ทำการวิจัยที่ถูกนำมาอ้างอิงจนปรากฏเป็นข่าวนั้นแล้ว ได้รับคำตอบว่าตัวเลขที่กำหนดขึ้นมานั้นเป็นการทำวิจัยเมื่อเดือนเม.ย.2563 ตัวเลขดังกล่าวจึงไม่ใช่ข้อมูลล่าสุด และยังเป็นการอ้างอิงจากการคาดคะเน จากตัวเลขทางเศรษฐกิจ จีดีพี จำนวนนักท่องเที่ยว และตัวเลขการใช้จ่ายที่ลดลงของนักท่องเที่ยว โดยผู้ทำวิจัยดังกล่าวยอมรับว่าไม่ได้ไปพูดคุยกับผู้ประกอบการในภาคธุรกิจแต่อย่างใด ได้แต่เพียงนำตัวเลขสถิติมาประมวลเท่านั้น บริษัทผู้ทำวิจัยจึงระบุว่าไม่สามารถนำตัวเลขดังกล่าวไปอ้างอิงกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันได้ในสถานการณ์ปัจจุบันเพราะอาจมีความคลาดเคลื่อน
          "อีกทั้งข้อมูลในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล และตอนนี้เวลาผ่านมา 5-6 เดือนแล้ว ขณะเดียวกัน ทางศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบโรคโควิด-19 (ศบศ.) กำลังจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ รวมถึงมีการพูดคุยในศบศ. แล้วว่าจะเพิ่มการจ้างงานสำหรับเด็กจบใหม่ 260,000 ตำแหน่ง และศบศ.จะประชุมในวันพุธที่ 16 ก.ย.นี้ ซึ่งจะได้เห็นมาตรการต่างๆ ที่จะออกมา ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ผมคิดว่าหลังจากรัฐบาลออกมาตรการต่างๆ แล้ว บริษัทที่ทำวิจัยเรื่องนี้ คงจะต้องปรับปรุงข้อมูลของตัวเองซึ่งเขาเห็นพ้องที่ควรจะต้องปรับปรุงข้อมูลของตัวเอง" นายอนุชากล่าว
          ยืดเก็บข้อมูล'ไทยชนะ' 90 วัน
          วันเดียวกัน เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามเป็นหนังสือของนายอำพล จินดาวัฒนะ ส.ว.เกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลในระบบปฏิบัติการไทยชนะ
          โดยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชี้แจงว่า จากการบังคับใช้จนถึงวันนี้มีผู้เข้าใช้ระบบปฏิบัติการไทยชนะ ทั้งสิ้น 44 ล้านคน และมีผู้ประกอบการลงทะเบียนทั้งสิ้น 2.8 แสนแห่ง ทั้งนี้การเก็บข้อมูลดังกล่าวเดิมเก็บไว้ 60 วัน แต่ล่าสุดขอขยายเวลาการเก็บข้อมูลไว้ถึง 90 วันเพื่อให้ติดตามตรวจสอบได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 แม้จะมีช่วงฟักตัว 14 วัน แต่จะทราบผู้ที่แพร่เชื้อได้ ในวันที่ 21 ดังนั้นต้องตรวจสอบย้อนหลัง หากเก็บข้อมูลไว้ 60 วันอาจไม่เพียงพอ และเมื่อครบกำหนดเวลา 90 วันแล้วจะลบข้อมูลทั้งหมด ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และสถานที่เช็กอิน นอกจากแอพพลิเคชั่นไทยชนะแล้ว รัฐบาลเตรียมพัฒนาแอพพลิเคชั่นหมอชนะ เพื่อติดตามบุคคลที่เดินทางเข้าประเทศอย่างละเอียด
          "การเช็กอินไทยชนะ ผมมองว่าจำเป็นมาก เพราะไม่ทราบว่าการระบาดของโรคจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และช่วงที่ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว พบบางพื้นที่มีนักท่องเที่ยวแน่นหนา ดังนั้น การใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะ จึงจำเป็นและเป็นประโยชน์มาก" นายพุทธิพงษ์กล่าว
          ขยาย'เราเที่ยวด้วยกัน'ถึงสิ้นปี
          จากนั้นนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับสถานการณ์ท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุยและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว
          โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงว่า มีแผนเตรียมเสนอให้ครม.พิจารณาไม่เกินสัปดาห์หน้า เกี่ยวกับการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ระบบการท่องเที่ยวไทย เพราะหากไม่ดำเนินการจะทำให้มีผู้ตกงานมากถึง 4 ล้านคน โดยแนวทางที่เตรียมเสนอคือโครงการสเปเชี่ยล ทัวริสต์ วีซ่า จากเดิมให้สิทธิพำนัก 90 วัน ให้สามารถต่อได้รวมระยะเวลา 120 วัน เพื่อรองรับนักเที่ยวจากยุโรป และอเมริกา ขณะที่มาตรการกักตัว 14 วัน ต้องนำมาบังคับใช้
          รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะสิ้นสุดสิ้นเดือนต.ค.นั้น ยอดล่าสุดมีผู้ใช้สิทธิ 8.5 แสนคน ทั้งนี้ตนจะเสนอให้ขยายเวลาจนถึงสิ้นเดือนธ.ค. ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เบื้องต้นประเมินว่าช่วงที่กำลังซื้อของคนไทยต่ำลง โดยจะเสนอให้บริษัทขนาดใหญ่สามารถซื้อแพ็กเกจเพื่อแจกลูกค้าหรือพนักงานได้ และจะเพิ่มงบในส่วนของค่าอาหาร วันละ 600 บาท เป็น 900 บาท เพื่อรองรับกับธุรกิจบริการนวด และสปาด้วย
          "ขณะที่การกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ที่จะใช้ภูเก็ตโมเดลตามเกาะต่างๆ ได้แก่ จ.ภูเก็ต และเกาะพีพี จ.กระบี่, เกาะเต่า, เกาะพะงัน, เกาะพีพี, เกาะสมุย, เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย อย่างไรก็ตามมาตรการที่เปิดรับนักท่องเที่ยวภูเก็ตโมเดลนั้น ผมและส.ส.พรรคภูมิใจไทยที่ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นและความต้องการของประชาชน ที่เกาะสมุย จะนำรายละเอียดเสนอให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมพิจารณาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อไป" รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าว
          ชง'สมุย บับเบิ้ล'เปิดรับต่างชาติ
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีเตรียมนำเสนอรูปแบบ "สมุย บับเบิ้ล โมเดล" ให้กับรัฐบาลซึ่งเป็นแนวทางรูปแบบการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยและท่องเที่ยวที่เกาะสมุย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ซบเซาจากพิษโควิด-19 ในขณะนี้
          นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า จากการทำงานของศูนย์ควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุยกำหนดรูปแบบ "สมุย บับเบิ้ล โมเดล" ประกอบด้วย 6 มาตรการ ได้แก่ 1.การคัดเลือกประเทศเสี่ยงต่ำ ควบคุมโรคได้ดี ในระยะที่หนึ่งรับเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากบริษัทนำเที่ยว 2.นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาจะต้องผ่านการตรวจหาโควิด-19 ทุกคนจากประเทศต้นทาง และจะต้องมีใบรับรองการตรวจไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง 3.การเดินทางเข้าประเทศไทยจะต้องเดินทางผ่านสายการบินไทยเพียงสายการบินเดียวเท่านั้น จากนั้นเดินทางต่อมายังเกาะสมุย
          4.การเดินทางเข้าเกาะสมุยจะต้องผ่านด่านตรวจควบคุมโรคในสนามบินสมุย พร้อมกับลงทะเบียนผ่าน สมุย เฮลท์ พาส แอพพลิเคชั่น เพื่อติดตามนักท่องเที่ยว 5.นำนักท่องเที่ยวออกจากสนามบินสู่โรงแรมที่พัก โดยนักท่องเที่ยวทุกคนต้องผ่านการคัดกรองอย่างละเอียดก่อนออกจากสนามบิน โดยโรงแรมที่ได้รับการรับรองให้เป็นสเตต ควอรันทีน หลังจากนักท่องเที่ยวเข้าที่พักแล้วจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยการเก็บสารคัดหลั่งในโพรงจมูก นำไปตรวจยังห้องแล็บโรงพยาบาลเกาะสมุย เป็นการตรวจครั้งที่ 1 เมื่ออยู่ครบ 7 วัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะทำการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 และเมื่ออยู่ครบ 12 วันจะต้องถูกตรวจครั้งที่ 3 และ 6.สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โรงพยาบาลเกาะสมุยจะนำเชื้อเข้าตรวจหาเชื้อในห้องแล็บ ซึ่งเป็นแล็บมาตรฐาน เมื่อนักท่องเที่ยวที่เข้า สเตต ควอรันทีน ครบ 14 วัน และผลตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุยจะมอบหนังสือรับรอง พร้อมสายรัดข้อมือเพื่อยืนยันว่านักท่องเที่ยวผ่านกระบวนการคัดกรองในรูปแบบ "สมุย บับเบิ้ล โมเดล" ให้แก่นักท่องเที่ยว