นวด-สปาลงทะเบียนก่อน ชายหาด-รีสอร์ตกลับมาคึก ไม่ห้ามนั่งกินร่วมโต๊ะแล้ว
          ไทยพบติดเชื้อเพิ่ม 4 รายกลับจากตปท. ด้านศบค.ยันตรวจโควิดไม่ต้องเสียเงิน ขณะที่ยอดป่วยทั่วโลกทะลุ 6 ล้าน-ตาย 3.7 แสน เกาหลีใต้ปิดโรงเรียนอีกกว่า 500 โรง อเมริกา-บราซิลยังหนัก แจงข้อกำหนดเปิดหาดบางแสน นวด-สปาคึกคัก สธ.เผยต้องลงทะเบียนก่อน เฮเสริมความงามใบหน้าได้แล้ว มท.ประชุมรับมือผ่อนปรนเฟส 3 ขสมก.ปรับเวลาเดินรถ ศิริราชแจงปมยอดระบาดซ้ำ ตร.จับฝ่าเคอร์ฟิว คืนเดียว 331 ราย กทม.เปิด 16 สถานที่ผ่อนปรนระยะ 3 'บิ๊กตู่' ห่วงคน ไม่รักษาวินัย ทำระบาดรอบ2
          พบเชื้อเพิ่ม 4 รายกลับจากตปท.
          เมื่อวันที่ 31 พ.ค. พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 4 ราย หายกลับบ้านเพิ่ม 2 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ส่งผลให้มี ผู้ป่วยสะสมรวม 3,081 ราย มาจากการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย มาจากต่างประเทศ 637 ราย กลับบ้านรวม 2,963 ราย เสียชีวิตรวม 57 ราย ยังรักษาในร.พ. 61 ราย
          สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ ประกอบด้วย 1.กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย เป็นหญิงอายุ 37 ปี ทำงานเป็นพนักงานนวด เดินทางมาถึงวันที่ 24 พ.ค. เข้าพักโรงแรมใน กทม. วันที่ 24 พ.ค. มีน้ำมูก หายใจลำบาก ปวดศีรษะ ปวดท้อง วันที่ 29 พ.ค.ตรวจพบเชื้อและเข้ารับการรักษา ร.พ.เลิดสิน 2.มาจากประเทศตุรกี 2 ราย เป็นเพศชายทั้งคู่ อายุ 18 และ 19 ปี เดินทางมาถึงไทยวันที่ 29 พ.ค. เข้าพักโรงแรม จ.ชลบุรี วันที่ 29 พ.ค.ตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษา ร.พ.บางละมุง จ.ชลบุรี 3.กลับมาจากซาอุดีอาระเบีย 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษา เดินทางจากกรุงริยาด มายังกัวลาลัมเปอร์ แล้วเดินทางเข้าไทยผ่านด่าน ปาดังเบซาร์โดยรถบัสวันที่ 21 พ.ค. ซึ่งเป็นคันเดียวกับที่พบผู้ติดเชื้อ 1 รายเมื่อวันที่ 30 พ.ค. โดยถือว่าติดเชื้ออีก 1 รายจาก 39 คนบนรถบัส วันแรกที่มาถึงตรวจไม่พบเชื้อ และตรวจอีกครั้งวันที่ 29 พ.ค.จึงพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์
          เกาหลีปิดอีกกว่า 500 โรงเรียน
          พญ.พรรณประภากล่าวต่อว่า สถานการณ์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังมีมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 2 มีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนทั้งสิ้น 53 ราย โดยมากกว่า 80% เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเข้าพักในสถานกักกันของรัฐ คือ 44 ราย ติดเชื้อในประเทศ 9 ราย โดย 6 รายสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยก่อนหน้า และเดินทางไปในสถานที่ชุมชน 3 ราย
          ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 6.1 ล้านคน เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 1.2 แสนราย เสียชีวิตมากกว่า 4,000 ราย เสียชีวิตรวม 3.7 แสนราย สหรัฐอเมริกายังคงเป็นอันดับ 1 คือ มีผู้ป่วย 1.8 ล้านราย เสียชีวิต 1.05 แสนราย สำหรับประเทศไทยตกอันดับจาก 77 มาที่ 78 ของโลก ขณะที่ฝั่งเอเชียประเทศที่พบผู้ป่วยต่อเนื่องคือ อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่น่าสนใจ คือ พม่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 17 ราย ต้องจับตามองต่อไป
          ส่วนประเด็นต่างประเทศที่น่าสนใจ คือ เกาหลีใต้ ประกาศปิดโรงเรียนอีกกว่า 500 แห่ง หลังจากเปิดเรียนได้ไม่กี่วัน เพราะมีการกลับมาระบาดใหม่ที่กรุงโซลและปริมณฑล ซึ่งมีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ คือ เกือบ 25 ล้านคน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ระบุว่า การจัดงานต่างๆ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในเขตเทศบาลกรุงโซลจะถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป และแนะนำสถาบันการศึกษาเอกชน ร้านอินเตอร์เน็ต คาเฟ่ ปิดให้บริการถึงวันที่ 14 มิ.ย. และเรียกร้องประชาชนกรุงโซลงดออกจากบ้าน งดสังสรรค์ 14 วัน
          ยันตรวจโควิดไม่ต้องเสียเงิน
          เมื่อถามถึงผู้ป่วยที่ต้องตรวจรักษา ส่องกล้อง ผ่าตัด จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 และเสียค่าใช้จ่าย 3,600 บาท เหตุใดต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง พญ.พรรณประภากล่าวว่า การตรวจเชื้อเป็นการสั่งตรวจที่จำเป็นในหัตถการที่มีความเสี่ยง ทั้งการผ่าตัดหรือการส่องกล้อง แพทย์ที่ทำหัตถการสามารถสั่งตรวจหาเชื้อได้ โดยค่าใช้จ่ายผู้ป่วยสามารถเบิกได้ที่ สปสช. ทั้งกรณีเข้าร.พ.รัฐและเอกชน หรือไม่เสียค่าใช้จ่าย
          ป่วยทั่วโลกทะลุ 6 ล.-ตาย3.7แสน
          ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานข้อมูลจากศูนย์วิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมเชิงระบบ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทั่วโลกเพิ่มเป็น 6,063,725 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 369,244 ราย และหายป่วยแล้ว 2,566,048 คน โดยสหรัฐยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอับดับหนึ่งของโลก และสถานการณ์ยังไม่มีทีท่าจะทุเลาลง เช่นเดียวกันกับประเทศบราซิล พื้นที่ที่เผชิญกับการระบาดหนักหน่วงที่สุดในอเมริกาใต้ ที่องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ประกาศให้เป็นศูนย์กลางการระบาดใหม่ของโลก มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 498,440 ราย และเสียชีวิต 28,834 ราย
          สถานการณ์การระบาดที่บราซิลมีแนวโน้มเลวร้ายลงต่อเนื่องหลังพบผู้ป่วยติดเชื้อใหม่มากถึง 33,274 คน ในรอบ 24 ชั่วโมง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตนั้นถือเป็นอันดับสี่ของโลกแล้ว แซงหน้าฝรั่งเศส ชาติที่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงสุดในโลกที่ร้อยละ 15.2 ขณะที่ในสหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 960 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงการระบาดใหม่รอบสองที่อาจมาถึงด้วย
          มท.ประชุมรับมือผ่อนปรนเฟส 3
          ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนฝ่ายเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนกรมควบคุมโรค และผู้แทนสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ไปยังทุกจังหวัด
          พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า วันนี้ประชุมซักซ้อมการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนระยะ 3 เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีเป็นประเทศหนึ่งในโลก ที่ผ่านมาระยะ 1 และ 2 เราทำได้ดีมาก และระยะต่อไปที่จะเข้าสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการท่องเที่ยวที่จะต้องมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ ถ้าทุกคนทำตามมาตรการควบคุมโรคควบคู่ไปกับเศรษฐกิจได้ ก็จะเป็นโอกาสทองของประเทศไทย
          ปลัดมท.แจง 3 คำสั่งใหม่
          ด้านนายฉัตรชัยกล่าวว่า นายกฯ ได้มีข้อกำหนดและคำสั่งจำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 1.ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 8) ลงวันที่ 29 พ.ค. 2563 ยกเว้นหรือผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสามารถจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง 2.ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถาน การณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 29 พ.ค. 2563 มีสาระสำคัญ คือ 1.การห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 23.00- 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น 2.การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา 3.การผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ ประกอบด้วย กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต และกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ 4.การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ 5.การผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด 6.ในกรณีมีปัญหาว่าสถานที่หรือกิจกรรมใดเข้าข่ายตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดหรือไม่ ให้หารือคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หากพบการแสดงตนโดย ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ให้แจ้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือแจ้งต่อศูนย์บริหารสถาน การณ์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล
          3.คำสั่ง ศบค.ที่ 4/2563 เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 29 พ.ค. 2563 โดยให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคแนบท้ายคำสั่งโดยเคร่งครัด โดยไม่ต้องเพิ่มเติมกิจการ/กิจกรรมใดๆ ตามข้อ กำหนดฯ แต่อาจเสริมมาตรการในทางปฏิบัติได้ และให้สร้างการรับรู้ตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามคำสั่งฯ แก่ ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ทั้งนี้ ในกรณีมีปัญหาว่าสถานที่หรือกิจกรรมใดเข้าข่ายตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้หรือไม่ ให้จังหวัดแจ้งกระทรวงมหาดไทยเพื่อหารือคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อไป พร้อมทั้งให้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และมาตรการที่กำหนดด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ กรณีพบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือแสวงหาผลประโยชน์อื่นใด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทั้งทางวินัยและอาญาทุกกรณี
          นวด-สปาพร้อมเปิด 1 มิ.ย.
          วันเดียวกัน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการนวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อความงาม และกิจการสปา ที่ได้รับการคลายล็อกเฟส 3 ให้เปิดในวันที่ 1 มิ.ย. 2563 ว่า ประเทศไทยมีร้านสปาและร้านนวดรวมกัน 10,500 แห่ง แบ่งเป็นกิจการนวดเพื่อสุขภาพ 9,400 แห่ง สปา 900 แห่ง และนวดเพื่อเสริมความงาม 200 แห่ง โดย สบส.มีการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ ดังนี้ 1. สถานที่และอุปกรณ์ เช่น เตรียมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าให้ลูกค้าสวมใส่ทุกครั้ง เตรียมเจลแอลกอฮอล์ 70% จัดดูแลอุปกรณ์วัดอุณหภูมิคัดกรองก่อนเข้าร้านทั้งผู้รับและผู้ให้บริการ ให้ข้อมูลผู้รับบริการทุกครั้งว่าปฏิบัติตนเช่นไรในการรับบริการ มีการเว้นระยะห่างระหว่างการสอบถามพูดคุยกัน 1 เมตร และมีอุปกรณ์ทำความสะอาด
          ประกอบการต้องจัดสถานที่ เช่น นวดฝ่าเท้าต้องห่างกัน 1.5 เมตร จัดสถานที่สำหรับเก็บผ้า อุปกรณ์ผู้รับบริการที่มิดชิดปลอดภัย ห้องให้บริการนวดต้องเป็นห้องเดี่ยว 1 คนต่อห้อง การชำระเงินส่งเสริมให้ชำระเงินแบบออนไลน์ จัดระบบระบายอากาศที่ดี โดย ผู้ดำเนินการร้านสปาจะต้องดูแลความสะดวก ความเรียบร้อย มาตรฐานสถานที่ให้เกิดความปลอดภัย ส่วนร้านนวดไม่มีผู้ดำเนินการ อาจให้พนักงานต้อนรับเป็นผู้ดำเนินการแทนไปก่อน เช่น สอบถามบันทึกข้อมูลสุขภาพขั้นพื้นฐาน คัดกรองผู้รับบริการ พนักงาน รักษาการเว้นระยะห่าง การแจกหน้ากากอนามัยกรณีลูกค้าไม่ได้เตรียมการ ดูแลอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ
          ต้องลงทะเบียนกับ สบส.
          ทพ.อาคมกล่าวว่า ด้านผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง สวมเฟซชีลด์หรือแว่นตาป้องกันทุกครั้ง ไม่ชวนพูดคุย พูดเท่าที่จำเป็น สังเกตอาการผู้มารับบริการ มีไอ น้ำมูกหรือไม่ ก็ต้องระมัดระวัง หากมีอาการก็ต้องหยุดการให้รับบริการ อุปกรณ์เสื้อผ้าต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่มีการให้บริการ ส่วนแม่บ้านต้องดูแลสุขอนามัยตนเอง สวมหน้ากาก หมวกคลุมผม แว่นตาหรือเฟซชีลด์ ดูแลความสะอาดตู้เตียงห้องต่างๆ และเรื่องขยะต้องเก็บอย่างเหมาะสม ไม่เป็นภาระสังคมและสิ่งแวดล้อม ส่วนปลอกหมอน ผ้าปูเตียง ห้ามสะบัดเด็ดขาดเพราะจะเกิดการแพร่กระจายเชื้อได้ ต้องม้วนออกจากตัวเอง ขณะที่ผู้รับบริการต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือก่อนและหลังใช้บริการ ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำสถานประกอบการ และจะต้องคัดกรองระมัดระวังลูกค้าชาวต่างชาติเป็นพิเศษ
          ด้าน น.ส.สุวภรณ์ แนวจำปา ผู้อำนวยการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สบส. กล่าวว่า ผู้ประกอบการสปาและนวด จะต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ดได้ที่เว็บไซต์ สบส. และเข้าสู่ระบบเพื่อกรอกข้อมูลสถานประกอบการให้ครบถ้วน และทำแบบประเมินตนเอง และส่งเข้ามาในระบบ พนักงานจะตรวจสอบว่าผ่านหลักเกณฑ์สบส.หรือไม่ ถ้าไม่ผ่านจะกดปฏิเสธ ให้สถานประกอบการปรับปรุงแก้ไข และประเมินตัวเองเข้ามาใหม่ แต่เมื่อผ่านจะกดยอมรับ ร้านสามารถพิมพ์ใบ e-Certificate เพื่อติดไว้ที่สถานประกอบการ และจะต้องรายงานประเมินผลทุก 7 วัน หรือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ต้องลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะเพื่อพิมพ์คิวอาร์โค้ดให้ผู้รับบริการได้สแกนเพื่อเช็กอินเช็กเอาต์ด้วย
          เสริมความงามใบหน้าได้แล้ว
          เมื่อถามถึงกรณีพนักงานนวดคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศแล้วพบติดเชื้อจำนวนมาก ทพ.อาคมกล่าวว่า ในส่วนของผู้ให้บริการนวดในไทยขึ้นทะเบียนแล้วมี 1.5 แสนคน จะมีการคัดกรองตรวจผู้ให้บริการทุกคนว่ามีอุณหภูมิร่างกายที่ไม่สบายหรือไม่ ส่วนคนไทยที่เป็นพนักงานนวดต่างชาติแล้วกลับมา จะมีการกักตัวก่อน 14 วัน ตามมาตรการรัฐ และตรวจสุขภาพว่ามีอาการป่วยมีเชื้อหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เป็นพาหะ อย่างไรก็ตาม แม้มีอาการป่วยหรือไม่สบายเล็กน้อย และอาจไม่ใช่โควิด ก็จะไม่ให้เป็นผู้ให้บริการ เพราะเราต้องคำนึงความปลอดภัยประชาชน และเป็นการยกระดับร้านนวดของไทยให้ทั่วโลกยอมรับ เนื่องจากทั่วโลกจับตามองเราหลังรับเป็นมรดกโลกแล้ว ต้องช่วยกันที่จะให้ร้านนวดเป็นสถานที่ปลอดภัย สร้างความมั่นใจคนไทยและต่างชาติ
          เมื่อถามถึงคลินิกเวชกรรมเสริมความงามในการคลายล็อกเฟสสาม ทพ.อาคมกล่าวว่า เฟสสามนี้สามารถให้บริการในทุกส่วน แต่ผู้เข้ารับบริการต้องดูว่ามีร่างกายแข็งแรง ไม่มีความเสี่ยง เมื่อเข้าไปรับบริการ ต้องทำตามมาตรการสถานเสริมความงาม ตรวจคัดกรองอุณหภูมิ ตอนนี้สามารถเสริมความงามใบหน้าได้แล้ว อย่างไรก็ตาม คลินิกเวชกรรมความงามต้องประเมินตนเองตามมาตรการหลักของ ภาครัฐ เช่น การสวมหน้ากาก มีเจลแอลกอฮอล์ ต้องเว้นระยะห่าง ให้บริการแบบนัดหมาย ใช้เวลาบริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง ต้องรักษาความสะอาดระหว่างการทำหัตถการแต่ละอย่าง
          หัวหินรอนักท่องเที่ยว
          นายสุวิทย์ สงคราม ประชาสัมพันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำรวจพื้นที่และเข้าชมหาดหัวหิน เตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยเทศบาลเมืองหัวหินได้ปรับปรุงสถานที่สวยงาม จัดภูมิทัศน์ริมหาด ร้านค้าของบริการนักท่องเที่ยว ถนนเดินลงหาดสวยงาม มีจุดนั่งพัก จุดอาบน้ำ สำหรับม้าบริการนักท่องเที่ยวสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดได้เข้าฉีดวัคซีนป้องกันกาฬโรคฯ แล้วส่วนการบริการนักท่องเที่ยว สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด มีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมท่องเที่ยว เข้าเวร ต้อนรับอยู่ 2-5 คน คอยแนะนำช่วยเหลือนักท่องเที่ยว แจกเอกสารแนะนำ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหัวหิน ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ข้างสถานีตำรวจภูธรหัวหิน
          สงขลาเปิดด่านสะเดา
          ที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา เป็นวันแรกที่มีการกลับมาเปิดรับคนไทยจากประเทศมาเลเซียอีกครั้ง แทนด่านปาดังเบซาร์ที่ถูกปิดชั่วคราวตั้งแต่วันวันที่ 28 พ.ค. หลังจากที่พบนักศึกไทยที่กลับจากประเทศซาอุดีอาระเบียติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 คน ทำให้ทางมาเลเซียต้องปิดด่านปาดังเบซาร์ รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียเพื่อทำความสะอาด บรรยากาศที่ด่านพรมแดนตั้งแต่ช่วงเช้าเริ่มมีคนไทยทยอยเดินทางกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้มีกว่า 400 คน ซึ่งเป็นยอดสะสม 3 วัน
          ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงมีมาตรการคัดกรองอย่างเข้มข้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทุกขั้นตอนทันทีที่ย่างก้าวเข้ามาในประเทศไทย
          บางแสนใช้มาตรการเข้ม
          ด้านนายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข โพสต์เฟซบุ๊กสรุปข้อบังคับก่อนเริ่มเปิดหาดบางแสน รวมทั้งหมด 13 ข้อ อาทิ ทุกวันจันทร์จะเป็นวันหยุดของชายหาดบางแสน ตลอดแนวตั้งแต่หาดบางแสนล่าง (หาดวอนนภา) หาดทรายบางแสน และแหลมแท่น ซึ่งจะห้ามประกอบกิจการค้าขายสินค้าบนพื้นที่ทางสาธารณะบริเวณชายหาดทั้งหมด หากวันจันทร์ใดที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้เลื่อนไปยังวันถัดไป ให้เริ่มจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มได้วันที่ 5 มิ.ย. แต่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชายหาดบางแสนเป็นพื้นที่สาธารณะ ตามกฎหมายห้ามไม่ให้มีการสูบบุหรี่ และจำหน่าย และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
          นักท่องเที่ยวที่เข้ามาบางแสนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างกันจากกลุ่มอื่น ใช้สเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์ หรือล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนและหลังการสัมผัสวัสดุต่างๆ โดนเฉพาะก่อนหลังการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม ให้ทิ้งขยะในถังขยะที่จัดเตรียมไว้ และหากในบริเวณที่ไม่มีถังขยะให้นำขยะกลับไปทิ้งที่อื่นที่มีถังขยะ ห้ามทิ้งบนชายหาดและพื้นที่สาธารณะ ให้นักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ชายหาดบางแสนไม่เกิน 22.00 น. หากจำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่นเกินไป เทศบาลและ สภ.แสนสุข ประเมินแล้วอาจเกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จะสงวนสิทธิ์ในการปิดถนน ห้ามเข้าพื้นที่ชายหาดบางแสนเป็นการชั่วคราว จนกว่าปริมาณนักท่องเที่ยวเบาบางลงจึงจะเปิดให้เข้าได้ต่อไป
          ศิริราชแจงข้อมูลคลาดเคลื่อน
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ตามที่มีการรายงานข่าว โพสต์และแชร์ในสื่อออนไลน์ ถึง ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า "ระลอก 2 มาแน่ ตายมากกว่าเดิม 1 เท่า" นั้น อาจทำให้ประชาชนมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนและก่อให้เกิดความตื่นตระหนกต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
          ในการนี้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลขอชี้แจงว่า เนื่องจากการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อใช้เวลานานและมีเนื้อหาฉบับเต็มมาก ทำให้สื่อที่นำวิดีโอไปเผยแพร่มีความจำเป็นต้องตัดข้อความบางช่วงบางตอน เพื่อทำให้เกิดความกระชับและเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่จากการตรวจสอบพบว่าจากการสัมภาษณ์ฉบับเต็มของ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ต้องการจะเตือนประชาชนให้ร่วมกันเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 นั้นมีการยกตัวอย่างการระบาดรอบ 2 ของไข้หวัดใหญ่สเปนเมื่อ 100 ปีก่อน โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่าการระบาดรอบแรกกว่า 1 เท่า มิใช่การคาดการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน การตัดต่อข้อความบางส่วนนั้นอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้
          'บิ๊กตู่'ห่วงคนไม่รักษาวินัย
          เมื่อเวลา 16.05 น. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า อยากให้คำว่าเริ่มดีเดย์ เป็นวันดีดี ไม่ใช่วันที่จะกลับไปอยู่ที่เก่า กลับไปที่เดิม ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ปล่อยใจ ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่รู้ระยะห่าง เมื่อเช้าเห็นข่าวแล้วไม่สบายใจที่มีคนกลุ่มหนึ่งไปเช่าโรงแรมจัดงานเลี้ยงวันเกิด ที่เห็นมีเรื่องของยาเสพติดด้วย นี่จะเป็นสถานที่แพร่ระบาดกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ถ้าทุกคนไม่รักษาวินัย ไม่รักตัวเอง แต่ขอให้รักครอบครัวของท่าน รักประชาชน สิ่งที่ทำมา ไม่ใช่ทำได้โดยรัฐบาลอย่างเดียว ทุกคนต้องร่วมมือกันทำ ตลอด 3 เดือน เราควบคุมได้ในระดับที่ดีพอสมควร แต่ถ้าไม่ดีเกิดระบาดขึ้นใหม่ ก็ต้องย้อนกลับไปทำใหม่เป็นจุดๆ ไป และไม่ใช่เพราะตนต้องการคงอำนาจตรงนี้ไว้ให้นานที่สุด
          "ไม่จำเป็นหรอกครับ เป็นอำนาจที่ใช้ในการบริหารเท่านั้นเอง จะเห็นได้ว่าไม่ได้ไปละเมิด ลงโทษใคร จนเอาเป็นเอาตาย ถ้าไม่ไปกดดันเจ้าหน้าที่ ข้าราชการในพื่นที่ ฟังเสียงประชาชนข้างล่าง เขาต้องการอะไร นั่นแหละคือเจตนารมณ์ของผม และของรัฐบาล แต่ต้องถูกต้อง เพราะต้องมีคนรับผิดชอบ ในการบริหารเงิน คนที่ได้ประโยชน์ ไม่ใช่เรา คือประชาชน" นายกฯ กล่าว
          เมื่อถามถึงว่าการผ่อนคลายระยะที่ 4 จะเป็นการทยอยผ่อนคลายใช่หรือไม่ นั้น พลเอกประยุทธ์ระบุ หลังจากนี้จะเป็นการทยอยผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งมีหลายอย่าง คืออยากให้ประชาชนมีรายได้ แต่อะไรที่เสี่ยงมากๆ ก็ ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนต้องรอ 14 วัน เหมือนหลักการเดิมหรือไม่ ก็ค่อยๆ ผ่อน ขอให้รอพิจารณาก่อน
          กทม.ผ่อนปรนเพิ่ม16สถานที่
          ด้านร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการป้องกัน COVID-19 ในระยะที่ 3 ในกิจการและกิจกรรมที่เปิดเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ได้แก่ 1. ร้านอาหาร รวมทั้งชาบู ปิ้งย่าง สามารถรับประทานอาหารร่วมกันได้ แต่ต้องเว้นระยะห่าง 1 เมตรในแต่ละโต๊ะ และไม่ต้องใช้ฉากกั้น 2. ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดถึง 21.00 น.  3. ร้านตัดผม เสริมสวย สามารถทำสีผมได้ แต่ต้องอยู่ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัย 4. สถานเสริมความงาม คลินิกเวชกรรม ร้านสัก และร้านเจาะ ให้บริการได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ผู้ให้บริการต้องสวมเฟซชีลด์มีการลงทะเบียนด้วยเข้ารับบริการ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยให้ได้มากที่สุดเพื่อลดการแพร่เชื้อ 5. ฟิตเนสทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า อนุญาตให้เปิดได้ทั้งหมด เปิดให้เล่นทุกกิจกรรม ทุกเครื่องเล่น เว้นระยะห่าง 2 เมตร ใช้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง งดอบตัว อบไอน้ำ
          เล่นกีฬาได้แต่ห้ามแข่งขัน
          6. ผ่อนผันใช้อาคารสถานศึกษา เปิดให้เข้าไปเตรียมการสอนแต่ยังไม่อนุญาตให้เปิดเทอม ส่วนโรงเรียนเอกชนประเภทวิชาชีพ โรงเรียนฝึกอาชีพ ศิลปะ และกีฬา สามารถดำเนินการได้ในบางชนิด ที่ ศบค.กำหนดก่อนหน้านี้ คือ ตะกร้อ แบดมินตัน ฟุตบอล ฟุตซอล เป็นต้น แต่ต้องสวมหน้ากากทุกคนห้ามการแข่งขัน 7. ศูนย์จัดแสดงสินค้าศูนย์ประชุม ขนาดไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร จำกัด 5,000 คน ตามขนาดพื้นที่ 4 ตารางเมตร ต่อคน เว้นระยะห่าง 1 เมตร เปิดบริการถึง 21.00 น.  8. ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา เปิดได้ แต่ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มกัน ทำได้แค่ส่องพระแต่ห้ามการประมูลนำคนมารวมกลุ่มกัน 9. ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เปิดให้เข้ามาเพื่อการเตรียมความพร้อมแต่ยังไม่อนุญาตให้รับฝากเลี้ยงรายวัน 10. สถานประกอบการนวด ร้านนวดแผนไทย สปา ร้านนวดสุขภาพ เปิดได้ยกเว้น นวดหน้า อบตัว อบสมุนไพรร่วมกันหลายคน จำกัดการให้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ ต้องสวมหน้ากาก
          มวยห้ามลงนวมซ้อมคู่
          11. ค่ายมวย โรงยิม ให้เปิดแค่ฝึกซ้อม เช่น ชกลม ชกเป้า แต่ไม่อนุญาตให้ซ้อมคู่ 12. สนามกีฬา เปิดได้แต่ต้องไม่มีการแข่งขันจำกัดจำนวนคนไม่เกิน 10 คน เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 เมตร 13. สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเกต โรลเลอร์เบลด เปิดได้ให้ฝึกซ้อมเท่านั้น แต่ห้ามแข่งขัน 14. สถาบันลีลาศ ใช้สถานที่ไม่เกิน 5 ตารางเมตรต่อคน 15. สถานที่จัดกีฬาทางน้ำ เปิดได้ เจ็ตสกี บานาน่าโบ๊ต 16. โรงภาพยนตร์ เปิดได้จำกัดผู้ชมไม่เกิน 200 คน ห้ามจัดคอนเสิร์ต หรือจัดกิจกรรมรวมกลุ่มแบบใกล้ชิด 17. สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์ เปิดได้ต้องปฏิบัติการตามมาตรการของรัฐ
          ทั้งนี้ จะมีผลเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้ พร้อมขอความร่วมมือ ให้ทุกคนลงทะเบียนเวลาเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ ทางแอพพลิเคชั่น "ไทยชนะ" หรือ จดบันทึกตามที่สถานประกอบกิจการต่างๆ หากผู้ประกอบการใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการสามารถแจ้งผ่านช่องทางทางแอพไทยชนะได้ หลังจากนี้ กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจควบคู่กันไปด้วย