Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 25/02/2563 ]
สธ.ยกระดับ โควิด ร้ายแรง

  ไทยป่วยคนที่5 ในเรือไดมอนด์เกาหลีตายเพิ่ม
          ไทยประกาศยกระดับ 'โควิด' เป็นโรคติดต่ออันตราย โรคที่ 14 แต่ยังไม่ประกาศระบาดระยะ 3 ขณะที่ไทยยังไม่มีป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม ส่วน 2 ผู้ป่วยอาการหนักตอบสนองต่อการกระตุ้นแพทย์ดีขึ้น รายวัณโรคร่วมระบบหายใจดีขึ้น แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ใกล้ชิด สธ.เผยผู้ป่วยจีนข้ามพรมแดนธรรมชาติมาตรวจร.พ.แม่สอด ผลตรวจเป็นลบ ไม่เจอเชื้อ ประสานฝ่ายมั่นคงเข้มด่าน ส่วนสถานการณ์ระบาดทั่วโลก เผยอิหร่านยอดตายพุ่ง 50 ราย ขณะที่คูเวต-บาห์เรนและอัฟกานิสถานพบติดเชื้อครั้งแรก ที่อิตาลีเสียชีวิตเพิ่มอีก ยอดติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเกือบ 8 หมื่น เสียชีวิตแล้วเกือบ 2.6 พัน ส่วนจีนออกกม.ห้ามกิน-ขายสัตว์ป่าถาวร
          ป่วยโควิดหายแล้ว 21 ราย
          เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นพ.รุ่งเรือง กิตผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ยังมีผู้ป่วยยืนยันสะสมคงเดิมที่ 35 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 21 ราย เหลือนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 14 ราย โดยทั่วไปผู้ป่วยอาการปกติดี รอผลแล็บเป็นลบเท่านั้น ส่วนผู้ป่วยหนัก 2 ราย รายที่ใส่เครื่องพยุงการทำงานของปอด (เอคโม) ตอบสนองต่อการกระตุ้นต่อแพทย์ดีขึ้น ส่วนรายที่ติดเชื้อวัณโรคร่วมด้วย อยู่ในระดับที่ดีขึ้น ตอบสนองต่อการกระตุ้นการเรียกของแพทย์ดีขึ้น ระบบหายใจดีขึ้น แต่ทั้งสองรายต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทั้งหมด 1,453 ราย ให้กลับบ้านแล้ว 1,121 ราย ยังอยู่ ร.พ. 332 ราย สำหรับกรณีผู้ป่วยชาวจีนที่ไม่ได้ข้ามพรมแดนตามช่องทาง เข้ารักษาที่ร.พ.แม่สอด จ.ตาก โดยสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขณะนี้ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการออกมาแล้วชัดเจนว่า เป็นลบ
          ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการขยายเกณฑ์เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทำให้ขณะนี้เฉลี่ยมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคประมาณวันละ 100 ราย โดยคนไทยที่มีความเสี่ยง เช่น คนทำงานสัมผัสกับนักท่องเที่ยว สายการบิน นักเรียน นักศึกษาที่กลับมาจากพื้นที่ระบาด บุคลากรทางการแพทย์ก็มีเข้ามาตรวจเพิ่มมากขึ้น การดำเนินงานเช่นนี้ก็จะสามารถพบผู้ป่วยคนไทยได้ หากมีการติดเชื้อภายในประเทศไทยจริงๆ ตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติ แต่ต้องติดตามต่อไป ซึ่งเราจะเอาบทเรียนของเกาหลีใต้มาป้องกันการเกิดขึ้นในประเทศไทยที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเร็วมาก
          นพ.โสภณ กล่าวด้วยว่า การแพร่ระบาดในระยะที่ 1 คือ คนป่วยนอกประเทศเข้ามา ระยะที่ 2 คือผู้ป่วยต่างประเทศแพร่เชื้อให้คนไทย ซึ่งเราสกัดไม่ให้ระบาดไปต่อ เราต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้เข้าสู่ระยะที่ 3 คือการแพร่ระหว่างคนในประเทศเอง ขณะนี้ยังอยู่ระยะที่ 2 โดยเราต้องดำเนินการลดเสี่ยงคนในประเทศ เนื่องจากมีผู้ป่วยยืนยัน 25 คนที่เป็นคนต่างชาติที่มาอยู่ในไทยเดือนกว่า อาจทำให้เกิดการแพร่ในคนไทยก็ได้ เลยต้องค้นหาคนไทยที่มีโอกาสรับเชื้อ เพื่อชะลอไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในประเทศระยะที่ 3 และต้องเฝ้าระวังการเข้ามาของผู้ป่วยจากประเทศที่มีการระบาด เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้
          คุมเข้มช่องทางชายแดน
          ด้านนพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สธ.เน้นย้ำเรื่องมาตรการในร.พ.เพิ่มขึ้น คือ 1.การคัดแยกคัดกรอง ผู้ป่วยออกจากระบบปกติ คือทำคลินิกไข้หวัด ทีมตระหนักรู้ ทีมที่ปรึกษา ได้ปรับหลักเกณฑ์เรื่องของไข้ลงมาเหลือ 37.5 องศาเซลเซียส ปอดบวมไม่ทราบสาเหตุ และชี้แจงหน่วยงานรัฐเอกชนและคลินิกให้ทราบหลักเกณฑ์ ระยะต่อจากนี้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมต่างๆ จะเป็นตัวกำหนดการแพร่ระบาดในระยะที่ 3 2.การฝึกซ้อมความพร้อมและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง กทม.มีการสื่อสารผ่านมหาวิทยาลัย ร.พ.เอกชน ร.พ.สังกัด กทม. กองทัพ กรมการแพทย์ ส่วนต่างจังหวัด ผู้ตรวจราชการสธ. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผอ.ร.พ.ได้เตรียมการ เตรียมอุปกรณ์ให้เพียงพอ และเตรียมเรื่องของโครงสร้าง คือสำรวจห้องแยกโรคความดันลบ หรือกรณีแพร่ระบาดจริงๆ ต้องมอง ร.พ.สนามที่รับผู้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งการเตรียมพร้อมเหล่านี้ได้เตรียมพร้อมและต้องกำกับให้ได้ตามนี้
          เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องการนำผู้ป่วยชาวจีนข้ามพรมแดนโดยไม่ผ่านช่องทางปกติในพื้นที่ อ.แม่สอด นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า การผ่านเข้ามายังประเทศไทยมี 2 ช่องทาง คือช่องทางหลักที่มีด่าน กับช่องทางธรรมชาติ ต้องขอบคุณที่มีการให้ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้เข้ามา ก็จะดำเนินการในส่วนของด่านให้เข้มข้นขึ้น ไม่ให้มีการใช้ช่องทางธรรมชาติ แต่มาใช้ช่องทางหลักมากขึ้น แต่โดยปกติก็มักมีชาวบ้านที่ข้ามพรมแดนตามธรรมชาติมาได้ ดังนั้นนอกจากตะแกรงในชั้นของด่านแล้ว เรายังมีตะแกรงคัดกรองในชั้นของ ร.พ.ด้วย ดังนั้น ถ้ามาลักษณะเช่นนี้นำ ผู้ป่วยเข้ามา ร.พ.ก็จะตรวจจับได้ ถ้าเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ต้องสงสัยก็จะต้องถูกติดตาม และยังมีตะแกรงในชั้นชุมชนอีก
          ยกระดับ'โควิด'ร้ายแรง
          ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคอันตราย ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อแห่งชาติ พ.ศ.2558 ว่า คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย โรคที่ 14 โดยจะต้องลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
          ทั้งนี้ การประกาศเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่มีอำนาจตามกฎหมายในการควบคุมดูแลโรค และสามารถนำเข้ายาที่จำเป็นได้ อย่างไรก็ตามมุ่งเน้นการควบคุมป้องกันโรคมากกว่าจะมุ่งเอาผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ขอย้ำว่า การประกาศดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยเข้าสู่การระบาดในระยะที่ 3 แต่เป็นการประกาศเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และยืดช่วงเวลาที่จะเข้าสู่การระบาดระยะต่อไปให้ได้นานที่สุด
          นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่พยายามแนะนำ คือ หากไม่จำเป็นก็พยายามอย่าเดินทางไปประเทศเสี่ยง ถ้าไปก็ขอให้ระมัดระวัง คนในประเทศก็กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยฯลฯถ้าทำได้ก็เป็นผลดีกับ ตัวเอง
          นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การเห็นชอบให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ไม่มีการโหวต ไม่มีเสียงแตก แต่เป็นการเห็นชอบโดยเอกฉันท์ สำหรับผลดี ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง เจ้าพนักงานต่างๆ ใช้ประกาศฉบับนี้ภายใต้พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อเกิดความคล่องตัวในการควบคุมโรค รักษาโรค ไม่ให้เกิดการแพร่กระจายออกไป การออกประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปรากฏการณ์ ซูเปอร์ สเปรดเดอร์ คือผู้ป่วยที่มีอำนาจในการกระจายโรคไปในวงกว้าง เพราะหากไม่ออกประกาศ การขอกักตัว 14 วันผู้ที่ต้องสงสัย เขาก็มีสิทธิปฏิเสธรับการรักษาหรือการกักตัวได้ ที่ผ่านมาก็เคยเกิดขึ้น แต่เราเกลี้ยกล่อมได้ จึงเป็นเหตุผลที่เรายังไม่มีซูเปอร์ สเปรดเดอร์ และเราไม่ต้องการให้มี จึงต้องประกาศย้ำว่าเป็นโรคติดต่ออันตรายและพร้อมที่จะบังคับใช้กฎหมาย เพื่อยืดระยะเวลาไม่ให้ไปสู่ระยะที่ 3 เพราะเราอยู่ในระยะที่ 2 มานานแล้ว แต่เห็นเพื่อนบ้านประเทศ อื่นๆ ที่ข้ามคืนมีผู้ป่วยโผล่เป็นร้อยราย เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
          'บิ๊กตู่'สั่งผู้ว่าฯเช็กคนจีนป่วยโควิด
          ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวคนจีนที่ป่วยจากไวรัสโควิด-19 จ้างคนไทยพาลักลอบเข้าช่องทางธรรมชาติเพื่อมารักษาในโรงพยาบาลชายแดนไทยว่า วันนี้สั่งผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว หากใครเกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย อีกทั้งเรามีนโยบายที่รัดกุมตรวจสอบคัดกรองการเข้า-ออก ทุกด่าน ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ช่องทางธรรมชาติ ย้ำทุกกองกำลังจะต้องนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองตรวจสอบ ผิดกฎหมายต้องส่งกลับ วันนี้กองทัพบกเสริมกำลังทหารไปช่วยคัดกรองด้วย ขณะนี้ได้รับรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขที่มีการตรวจผ่านโรงพยาบาลในพื้นที่ก็ยังไม่พบการติดเชื้อ
          ไทยติดเชื้อเพิ่มบนเรือไดมอนด์
          นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลคนไทยบนเรือไดมอนด์ ปริ๊นเซส ที่ญี่ปุ่น ว่า ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ว่า คนไทยบนเรือลำดังกล่าวติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 1 คน เป็นลูกเรือ ทำให้ขณะนี้มีคนไทยบนเรือลำดังกล่าวติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 5 คน เป็นผู้โดยสาร 1 คน ลูกเรือ 4 คน เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในญี่ปุ่นแล้ว
          "สถานเอกอัครราชทูตได้ติดตามอาการของผู้ป่วยคนไทยทั้งหมดอย่างใกล้ชิด และได้ส่งอาหารไทย และสิ่งของจำเป็น อาทิ บัตรเติมเงินอินเตอร์เน็ต ให้แก่คนที่ต้องการ โดยบางรายแจ้งว่ามีอาการดีขึ้นตามลำดับ สถานเอกอัครราชทูตได้รับแจ้งในวันเดียวกันว่าลูกเรือทุกคนได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว และอยู่ระหว่างรอผล โดยคนที่ผู้ร่วมห้องมีผลการตรวจว่าติดเชื้อจะต้องรับการตรวจซ้ำอีกรอบหนึ่ง ขณะนี้มีคนไทยซึ่งเป็นผู้โดยสารเรือลำดังกล่าวเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 1 คน เมื่อวันที่ 21 ก.พ.และมีการตรวจเชื้อตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อกลับถึงประเทศไทยแล้ว พบว่าไม่ติดเชื้อ"
          ทั้งนี้ เมื่อเริ่มเหตุการณ์บนเรือมีคนไทยอยู่ทั้งหมด 25 คน เป็นผู้โดยสาร 2 คน ลูกเรือ 23 คน ซึ่งล่าสุดผู้โดยสารคนไทยเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 1 คน อีก 1 คนเป็นผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัว ส่วนลูกเรือ 23 คนได้รับการตรวจว่าติดเชื้อแล้ว 4 คน เหลืออีก 19 คนต้องรอผลการตรวจต่อไป
          ยอดตายโควิดพุ่งเกือบ 2.6 พัน
          วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ในประเทศจีนอีก 150 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 2,592 ราย จำนวนนี้รวมผู้เสียชีวิตในเขตปกครองพิเศษของจีน ได้แก่ ฮ่องกง 2 ราย และไต้หวันอีก 1 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่มี 409 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 77,048 คน จำนวนนี้รักษาหายและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ 22,936 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากประเทศอื่นๆ รวมแล้วมีอย่างน้อย 22 ราย และพบติดเชื้อที่ 1,712 คน
          ด้านศูนย์วิศวกรรมและระบบวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอพกินส์ ในสหรัฐอเมริกา สรุปยอดผู้ป่วยในประเทศต่างๆ ทั่วโลกว่า ผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกมีอย่างน้อย 79,157 คน เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อที่ 833 คน เสียชีวิตแล้ว 7 ราย อิตาลีพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3 คน รวมเป็น 157 คน จำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 3 คน ญี่ปุ่นติดเชื้อ 147 คน เสียชีวิต 3 คน
          ส่วนผู้ติดเชื้อบนเรือสำราญไดมอนด์ ปริ๊นเซส อยู่ที่ 691 คน มีผู้เสียชีวิต 3 คน และยอดผู้ป่วยที่รักษาหายนอกประเทศจีนมีจำนวน 628 คน
          เกาหลีใต้สังเวยเพิ่มอีก 2
          สำนักข่าวยอนฮัประบุว่า พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 รายใหม่ในเกาหลีใต้เพิ่มอีก 231 คน ส่งผลให้ยอดรวมผู้ป่วยของประเทศเพิ่มเป็น 833 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยในเมืองแทกู ศูนย์กลางการแพร่ระบาดโควิด-19 ในเกาหลีใต้ สำหรับผู้เสียชีวิตพบอีก 2 ราย ส่งผลให้ยอด ผู้ตายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 7 ราย จำนวนนี้มีชายวัย 62 ปี เสียชีวิตระหว่างรักษาอาการป่วยหลังติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลในเมืองชองโด ติดกับเมืองแทกู เมื่อวันที่ 23 ก.พ.
          กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงกักกันตัวเจ้าหน้าที่ทหารราว 7,700 นายเพื่อดูอาการ ภายหลังพบทหารรายใหม่ที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 นาย จากกองทัพเรือ 1 นาย กองทัพอากาศ 1 นาย และนาวิกโยธินอีก 1 นาย ส่งผลให้ยอดทหารป่วยเพิ่มจาก 8 นายเป็น 11 นาย
          ส่วนกระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้ประกาศให้โรงเรียนอนุบาลและสถานศึกษาทั่วประเทศพิจารณาเลื่อนวันเปิดเทอมใหม่ออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 เพิ่มเติม ภายหลังรัฐบาล ยกระดับการเตือนภัยสถานการณ์ไวรัสเป็นระดับสีแดงซึ่งสูงสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี หลังทางการประกาศใช้มาตรการเตือนภัยในเหตุไวรัสเอช 1 เอ็น 1 แพร่กระจาย เมื่อปี 2552 ด้านสายการบินโคเรียนแอร์ไลนส์ สายการบินใหญ่ที่สุดของประเทศ แถลงระงับเที่ยวบินและเตรียมยกเลิกเที่ยวบินขาเข้า-ออกจากเกาะเชจู และสนามบินนานาชาติอินชอน ไปยังเมืองแทกู
          ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดคย็องซังเหนือ ทางเหนือของเมืองแทกู ระบุพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 12 คนในกลุ่มคริสต์ศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิก จากจังหวัดคย็องซังเหนือ 39 คนซึ่งเดินทางไปแสวงบุญในอิสราเอล ระหว่างวันที่ 8-16 ก.พ. ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยในกลุ่มผู้แสวงบุญกลุ่มนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 30 คน
          24 มณฑลไม่เจอผู้ป่วยใหม่
          โกลบอลไทมส์ระบุว่า ทางการเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลดมาตรการคุมเข้ม อนุญาตให้บุคลากรที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกักกันตัว หรือการสังเกตการณ์ทางการแพทย์ สามารถเดินทางออกนอกเมืองได้ ภายหลังสถานการณ์ในเมืองอู่ฮั่นดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มณฑลหูเป่ยรายงานว่าไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน 6 เมือง รวมถึงเมืองหวงกัง และจิงโจว นอกจากนี้ยังพบว่า 24 มณฑลจากทั้งหมด 31 มณฑลและเขตปกครองทั่วประเทศจีน ไม่มีรายงานพบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. ส่งผลให้ 4 มณฑลใหญ่ ได้แก่ ยูนนาน กวางตุ้ง ชานซี และกุ้ยโจว ประกาศลดมาตรการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินจากสูงสุดระดับ 1 โดยมณฑลยูนนานและกุ้ยโจวปรับลงไปยังระดับ 3 ส่วนมณฑลกวางตุ้ง และชานซี ลดลง 1 ระดับ มาอยู่ที่ระดับ 2 ภายหลังมณฑลกานซู มณฑลแรกที่ลดมาตรการฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. ตามด้วยมณฑลเหลียวหนิง เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.พ.
          อิหร่านตายพุ่ง 50 ราย
          สำนักข่าวไอแอลเอ็นเอของอิหร่านระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในเมืองกอม ของอิหร่านเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 50 ราย
          นายอาหมัด อมิไรบาดี ฟาราฮานี เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมืองกอม เปิดเผยว่า มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 250 คนที่ถูกแยกกักตัว
          ขณะที่อิตาลีเสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 ราย
          คูเวต-บาห์เรนพบป่วยรายแรก
          กระทรวงสาธารณสุขคูเวตและบาห์เรนแถลงยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายแรกของทั้งสองประเทศ โดยทางการคูเวตระบุว่าพบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 3 ราย เป็นชายชาวคูเวตวัย 53 ปี ชายชาวซาอุดีอาระเบียวัย 61 ปี และชายชาวอาหรับวัย 21 ปี ทั้งหมดถูกแยกกักกันตัวและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
          ขณะที่บาห์เรนระบุพบแล้ว 1 ราย เป็นพลเรือนชาวบาห์เรนที่เพิ่งเดินทางกลับจากอิหร่าน
          ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงกิจการภายในของบาห์เรน เพิ่งประกาศห้ามคนต่างชาติที่เคยมาประเทศไทย อิหร่าน สิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ภายใน 14 วันก่อนหน้าเดินทางเข้ามายังบาห์เรน เบื้องต้นทางการยังไม่ระบุว่า ผู้ป่วยที่พบเดินทางกลับประเทศก่อนการประกาศใช้มาตรการดังกล่าวหรือไม่ แต่ย้ำว่าผู้ติดเชื้อถูกส่งตัวไปยังศูนย์พยาบาลในทันทีที่พบอาการต้องสงสัย และพบในภายหลังว่าติดเชื้อโควิด-19
          อัฟกันติดโควิดรายแรก
          รอยเตอร์ระบุจากกระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถานว่า 1 ใน 3 ผู้ป่วยต้องสงสัยที่พบในจังหวัดเฮรัต ทางภาคตะวันตก ติดเชื้อโควิด-19 นับเป็นผู้ป่วยไวรัสมรณะรายแรกของประเทศ พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในจังหวัดดังกล่าว และว่าผู้ป่วยถูกแยกกักตัว รวมทั้งไม่ได้ใกล้ชิด หรืออยู่ในที่สาธารณะ เบื้องต้นสั่งการให้จัดตั้งศูนย์ควบคุมโรคพิเศษกับความจุเตียง ผู้ป่วย 80 เตียงในโรงพยาบาลเขตเฮรัตเพื่อรองรับผู้ป่วยที่อาจติดเชื้อเพิ่มอีก

 pageview  1205112    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved