Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 07/02/2563 ]
ยัน138คนจากอู่ฮั่น ไม่ติดเชื้อ ส่งจิตแพทย์ดูแล

 จัดวิดีโอคอนฯคุยญาติ 'แอร์เอเชีย'ล้างเครื่อง แท็กซี่รายแรกหายแล้ว ชาย70ปี-อาการยังทรง
          'แท็กซี่' ติดไวรัสจีนรายแรกในไทยหายดี แล้ว ออกจาก ร.พ. กลับบ้าน เปิดใจพอรู้ติดเชื้อถึงกับน้ำตาไหล เครียด ขอบคุณทีมแพทย์รักษาจนหาย เตือนเพื่อนแท็กซี่สวมหน้ากากอนามัย หากเจอผู้โดยสารป่วย ดูไม่ปลอดภัย ยื่นหน้ากากให้สวมด้วย วอนรัฐบาลช่วยชดเชยเยียวยา ป่วยหนักขาดรายได้ ขณะที่ชายวัย 70 ปี ป่วยหนัก อาการยังทรง ส่วน 138 ไทยจากอู่ฮั่น มี 4 คนเป็นไข้ ต้องนอนร.พ. แต่ทั้งหมดไม่ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เผยส่วนใหญ่เครียด และหิว ตอนอยู่ในจีนกินแต่มาม่าประทังชีวิต ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตในจีนเกือบ 500 รายแล้ว
          'ไวรัส'คร่าจีนแล้วเกือบ 500
          เมื่อวันที่ 5 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยมีต้นตอมาจากนครอู่ฮั่น เมืองเอกมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 493 ราย ติดเชื้อ 24,551 คน รักษาหายแล้ว 910 คนทั่วโลก ขณะที่รัฐบาลเวียดนามอยู่ระหว่างการเตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อหลายพันเตียง เพื่อรับมือกับการนำพลเมืองของตัวเองกลับประเทศ และความเป็นไปได้ของการลุกลามของเชื้อข้ามพรมแดนเข้ามาจากจีน
          การเตรียมการดังกล่าวของรัฐบาลเวียดนาม เกิดขึ้นหลังพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้วรวม 10 คน ในจำนวนนี้ 3 คน ไม่เคยมีประวัติเดินทางไปประเทศจีน โดยเวียดนามอยู่ระหว่างเปลี่ยนโรงพยาบาลในนครโฮจิมินห์ 2 แห่ง ไว้รองรับผู้ป่วยติดเชื้อ มีขนาดรวม 500 เตียง ส่วนที่กรุงฮานอยจะใช้ศูนย์การแพทย์ของ กองทัพ 2 แห่ง เพื่อใช้เป็นสถานที่กักกัน ผู้ป่วยติดเชื้อขนาด 1,500 เตียง เช่นเดียวกันกับโรงพยาบาล 2 แห่ง ที่อยู่ติดกับพรมแดนเตรียมเตียงรับผู้ป่วยไว้มากถึง 6,700 เตียง หลังเวียดนามกำลังเตรียมนำพลเมืองกลับจากจีนกว่า 950 คน
          ตรวจพบ 6 ไทยอู่ฮั่น-ไข้สูง
          สำหรับการเฝ้าระวังและสังเกตอาการกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นั้น เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เที่ยวบินพิเศษของสายการบินแอร์เอเชียนำคนไทย 138 คน จากเมืองอู่ฮั่นเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา จ.ระยอง เมื่อค่ำวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจากเดิม มีผู้ลงชื่อไว้ทั้งหมด 141 คน แต่ปรากฏว่ามี 2 คน เป็นนักศึกษาไทยผู้ชายและผู้หญิง ทางจีนตรวจวัดอุณหภูมิแล้วปรากฏว่ามีไข้ จึงขอกักตัวไว้ ส่วนอีกคนวีซ่าหมดอายุ
          ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ภายหลังทั้ง 138 คนกลับถึงไทย ทางทีมแพทย์ตรวจร่างกายพบว่า 6 คน มีไข้สูง อีกทั้ง 2 ใน 6 คน มีอาการไอแทรกซ้อนด้วย เจ้าหน้าที่คาดสาเหตุไข้น่าจะเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยน และต้องเดินทางไกล เจ้าหน้าที่จึงนำไปตรวจรักษาที่ ร.พ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ส่วนที่เหลือนำมาดูแลเพื่อเฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี
          ผลยืนยันไม่ติด'ไวรัสจีน'
          โดยที่บริเวณหน้าอาคารรับรองกองทัพเรือ อ่าวดงตาล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทีมแพทย์กองทัพเรือ พร้อมด้วยกระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค เข้าตรวจตราบริเวณโดยรอบ และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกองทัพเรือยืนเฝ้าทุกจุดรอบสถานที่ ปักป้ายและแนวเชือกห้ามเข้ารอบบริเวณอาคาร ขณะที่กลุ่มคนไทยจากอู่ฮั่นมีสภาพจิตใจดีขึ้น หลายคนออกมาชมวิวบริเวณระเบียงอาคาร สูดอากาศริมทะเล
          ต่อมานายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข แถลงว่าขณะนี้เหลือ 4 คน อยู่ในความดูแลของร.พ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดย 3 คน มีปัญหาทางปอด อีก 1 คนท้องเสีย และจาก 6 คนที่ต้องสงสัยนั้น ขณะนี้เหลือ 4 คน ทุกคนปลอดภัย ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้ง 4 คน เป็นผู้ชาย 2 คน และผู้หญิง 2 คน อยู่ในช่วงวัยทำงาน สำหรับการควบคุมโรคจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. เป็นวันแรก ใช้เวลาทั้งหมด 14 วัน จะครบกำหนดในวันที่ 18 ก.พ. ถ้าไม่มีใครป่วย หรือพบโรค จะส่งกลับภูมิลำเนาในวันที่ 19 ก.พ.
          เผยตอนอยู่จีนกินแต่มาม่า
          ส่วน นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 6 กล่าวว่า สำหรับนักบินและลูกเรือสวมชุดป้องกันขณะทำการบินไปรับ และขณะนี้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิมแล้ว สำหรับ 4 คน ที่ร.พ.สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ ขณะนี้ไม่มีไข้แล้ว อาการทั่วไปค่อนข้างดี กำลังติดตามอาการ และต้องตรวจซ้ำ ถ้าหายดีแล้วจะส่งกลับเข้าไปในอาคารรับรองต่อไป และจะจัดระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ให้พูดคุยกับญาติและครอบครัว
          ขณะที่ พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่าสำหรับในพื้นที่ อ.สัตหีบ ในด้านการจราจร และประชาชน ยังคงอยู่ในความสงบปกติ ไม่ปิดกั้นการจราจรแต่อย่างใด ขอให้ใช้ชีวิตตามปกติ สำหรับเจ้าหน้าที่กองทัพเรือที่ร่วมปฏิบัติการขนย้ายนั้น หลังจบภารกิจได้ฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ก่อนแยกย้ายกลับหน่วย ส่วนเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน 16 คน ก็สวมชุดป้องกันอย่างดี
          ด้าน พล.ร.ท.วิชัย มนัสศิริวิทยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ กล่าวว่า ส่วนมากจะมีอาการเครียด จึงส่งทีมจิตแพทย์เข้าไปดูแล้ว รวมถึงสุขภาพร่างกาย เพราะทั้งหมดค่อนข้างหิว ตอนอยู่ในจีนได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อประทังชีวิต
          แอร์เอเชียฆ่าเชื้อในเครื่องบิน
          ขณะเดียวกัน สายการบินแอร์เอเชียเปิดเผยภาพทำความสะอาดเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 นีโอ ที่นำคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่น โดยเริ่มจากพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อที่มีมาตรฐานสูงสุด และมีประสิทธิภาพ โดยพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้ออย่างละเอียดในทุกพื้นที่ของอากาศยาน ทั้งห้องโดยสาร ห้องน้ำ ห้องนักบิน พื้นที่เก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่อง รวมทั้งอบฆ่าเชื้อ โดยการปิดประตูเครื่องทั้งหมดอย่างน้อย 30 นาที เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพ กระจายทั่วทั้งห้องโดยสาร เพื่อเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง บริเวณเบาะที่นั่ง พนักวางแขน เข็มขัดนิรภัย ชั้นวางอาหาร นิตยสาร และคู่มือ รวมทั้งห้องน้ำสุขภัณฑ์ต่างๆ
          นอกจากนี้ยังเปลี่ยนกรองอากาศใหม่ทันที เป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกรองอากาศ และดักจับเชื้อโรคที่มีอนุภาคเล็กถึง 0.1-0.3 ไมครอน ได้มากกว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์ เมื่อผ่านกระบวนการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อแล้ว สายการบินจะบินนำเครื่องกลับท่าอากาศยานดอนเมืองในช่วงเย็นวันที่ 5 ก.พ.นี้
          'ไลอ้อนแอร์'ยินดีรับไทยกลับ
          ด้านนายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดเผยว่า ไลอ้อนแอร์ยังบินเหมือนเดิม และมีความยินดีที่จะนำคนไทยส่วนหนึ่งในแต่ละเมืองของจีน นอกจากเมืองอู่ฮั่น ปัจจุบันมีเส้นทางการบินไปยังจีน 15 เมือง รวม 25 เส้นทาง ตั้งแต่ทางตอนใต้ถึงตอนเหนือของจีน เดิมตั้งเป้าในวันที่ 5-8 ก.พ. แต่ตอนนี้ยินดีที่จะทำต่อ โดยต้องเป็นคนไทยที่มีพาสปอร์ตที่อยู่ที่เมืองจีน และมีความต้องการจะกลับประเทศ แจ้งความจำนงล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ก็พร้อมจะรับกลับมา อย่างวันที่ 5 ก.พ. วันแรกของการดำเนินการมีผู้แจ้งต้องการกลับ 10 กว่าคน
          ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่าผู้ที่เดินทางกลับมาจากจีนทุกไฟลต์ จะได้รับการตรวจคัดกรองคัดแยกโรคตามปกติ ไม่ได้ลดระดับ หรือลดจำนวนคน หรืออุปกรณ์แต่อย่างใด โดยไม่จำเป็นที่จะต้องนำเข้าไปอยู่ในสถานที่เฝ้าระวัง แบบกรณีคนไทยในอู่ฮั่นที่พากลับมา เพราะเราดูตามอาการ และคนเหล่านี้ไม่ได้มาจากเมืองอู่ฮั่น และประสานไลอ้อนแอร์ว่าให้แจ้งรายชื่อคนที่ลงทะเบียนกลับกับไทยไลอ้อนแอร์ ที่อาสานำกลับมาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายทุกคน กับทางศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินฯ เพื่อจะได้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ
          แท็กซี่ติดรายแรก-หายแล้ว
          ต่อมาที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทินแถลงว่ายังมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 25 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 1 ราย รวมกลับบ้านได้แล้ว 9 ราย และยังอยู่ใน ร.พ.อีก 16 ราย สำหรับผู้ป่วยที่หายดีเพิ่มอีก 1 ราย คือคนขับรถแท็กซี่ที่ติดเชื้อในประเทศไทยรายแรก รักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร โดยมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการล่าสุดไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว ถือว่าหายเป็นปกติให้กลับบ้านได้
          รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ส่วนญาติและผู้สัมผัสใกล้ชิดนั้น ได้ตรวจติดตามทุกรายมีอาการปกติ ถือเป็นข่าวดีอีกข่าวหนึ่งในสถานการณ์ตอนนี้ สำหรับผู้ป่วยชายไทยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และมีอาการรุนแรงมาก ก็ไม่ได้เจ็บป่วยมากขึ้น อาการทรงตัว แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้ป่วยรายอื่นๆ มีอาการดี
          หมอตรวจซ้ำ-ย้ำไม่มีเชื้อ
          ขณะที่ นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด รองผอ.สถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่าผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ และไอมากจนรู้สึกว่าทำไมผิดปกติ จึงไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ จนพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จึงส่งตัวมายังสถาบันบำราศนราดูเมื่อวันที่ 28 ม.ค. มีอาการไข้ต่ำๆ มีไออยู่บ้าง และมีความกังวลกับโรค ได้รับการรักษา โดยให้ยาปฏิชีวนะหลายชนิด เพราะไม่สามารถแยกได้ว่าการติดเชื้อไวรัสร่วมกับแบคทีเรียร่วมด้วยหรือไม่
          พญ.อนุตรา รัตน์นราทร แพทย์อายุรกรรมโรคปอด สถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่าช่วงที่มานอน ร.พ. วันที่ 28 ม.ค. ผู้ป่วยยังมีไข้ต่ำๆ ไอเหนื่อย ต้องใช้ออกซิเจนช่วยพักผ่อน ประมาณ 2-3 วัน อาการเริ่มดีขึ้น ผลเอกซเรย์ปอดดีขึ้น เราได้ตรวจยืนยันผลของเชื้อ คือ ไม่พบเชื้อตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.2563 และตรวจอีก 2 ครั้งก็ไม่พบเชื้อเช่นกัน อาการดีขึ้น จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้
          แท็กซี่วอนรัฐจ่ายเงินชดเชย
          ส่วนคนขับแท็กซี่กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ และมีน้ำตาคลอบางช่วง ว่าขอบคุณทุกคนที่ช่วยรักษาให้หาย ตอนนี้รู้สึกดีมาก แข็งแรง วิ่งรอบกระทรวงก็ยังได้ วันแรกที่ทราบว่าติดเชื้อ น้ำตาไหล ไม่คิดว่าจะเป็น และเครียด ขอฝากไปยังเพื่อนๆ แท็กซี่ หรือรถสาธารณะต่างๆ เป็นด่านแรกในการรับนักท่องเที่ยว อย่าลืมว่าอยู่ในรถแท็กซี่ บางทีติดไฟแดงอยู่กันเป็นครึ่งชั่วโมง หากมองว่านักท่องเที่ยวที่รับขึ้นมา ถ้าดูไม่ปลอดภัย เอาหน้ากากอนามัยให้เขาใส่เลย ขอร้องเขา ส่วนตัวเราก็วิงวอน จับพวงมาลัยเมื่อไหร่ให้ใส่หน้ากากอนามัย
          ผู้ติดเชื้อในไทยรายแรก กล่าวต่อว่า อยากฝากรัฐบาลให้ช่วยดูแลเรื่องของการจ่ายเงินชดเชย เพราะอาชีพคนขับรถสาธารณะ หากขาดรายได้ไปก็กระทบถึงทุกอย่างในครอบ ครัว อยากได้นโยบายที่ช่วยคนขับแท็กซี่ หรือรถรับจ้างสาธารณะว่า หากป่วยถูกกักตัว เข้ารับการรักษาตัวในร.พ. มีนโยบายชดเชย รายได้ให้ด้วย เพราะพวกเราหาเช้ากินค่ำ
          ผัวเมียคนไทย-อาการขึ้นลง
          ขณะเดียวกัน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงสามีภรรยาชาวไทยติดเชื้อ หลังกลับจากท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นว่า ภรรยารักษาที่ ร.พ.ราชวิถี ส่วนสามีรักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ภรรยาไข้มีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย การให้สูตรยาร่วมยาต้านไวรัสเอชไอวี และยาต้านไข้หวัดใหญ่นั้น ให้ 3 ราย คือคนจีนที่มีอาการรุนแรง ให้ผลดีขึ้น คนจีนอีกรายได้รับไปแล้วแพ้ยารักษาไข้หวัดใหญ่ จึงหยุดไป และอีกรายหญิงชาวไทย คนนี้ มีอาการปอดอักเสบน้อยกว่า จึงให้ยาโอเซลทามิเวียร์ที่ใช้รักษาไข้หวัดใหญ่โดสปกติ ต่างจากรายที่อาการรุนแรงที่ได้ดับเบิลโดส
          ส่วน นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด รองผอ.สถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่าในรายของสามี ไม่ได้รักษาด้วยยาเหมือนกรณีภรรยาที่ ร.พ.ราชวิถี โดยรักษาตามอาการ และไม่ได้ให้ยา เพราะรายนี้เคยได้รับโอเซลทามิเวียร์จาก ร.พ.อื่นมาแล้ว และครบโดสแล้วจึง ไม่ได้ให้เพิ่ม อาการขณะนี้มีไข้ขึ้นๆ ลงๆ ต่ำๆ ไม่เยอะ แต่อาการทางคลินิกดี ไม่มีปัญหาอะไร ก็กำลังติดตามผลแล็บอยู่
          ชาย 70 ปีป่วยหนัก-ยังทรงๆ
          ต่อข้อถามถึงอาการของคนขับรถชาวไทยอายุ 70 ปี ที่รับผู้โดยสารชาวจีนแล้วติดเชื้อและมีอาการรุนแรง นพ.กฤษฎา กล่าวว่า ผู้ป่วยขับรถบัสส่วนตัวรับส่งนักท่องเที่ยวชาวจีน อาการทรงๆ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ก็ใช้น้อยลง เพราะอาการดีขึ้น ไม่ได้แย่ลง แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีวัณโรคร่วมด้วย ทำให้การรักษาค่อนข้างซับซ้อน เมื่อมีไวรัสโคโรนาเข้ามาจึงทำให้ดูแย่หน่อย แต่ยังอยู่ในสิ่งที่เราควบคุมได้ ขณะนี้ให้การรักษาตามอาการ ไม่ได้ให้ยาต้านไวรัสเอชไอวี กับยาโอเซลทามิเวียร์ พร้อมติดตามไปที่ครอบครัวของผู้ป่วยแล้ว 4 ราย ติดตามทั้งโรควัณโรคและเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้ววัณโรคน่ากลัวกว่าอีก
          ขณะที่ พญ.อนุตรา รัตน์นราทร แพทย์อายุรกรรมโรคปอด สถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงอาการยังทรง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และออกซิเจนช่วยประคับประคอง ให้ยาฆ่าเชื้อรวม เพราะยังไม่รู้ว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แล้วติดเชื้อแบคทีเรียตัวอื่นร่วมด้วยหรือไม่ และขณะนี้ให้ยารักษาวัณโรคแล้ว

 pageview  1205111    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved