ท่ามกลางการเมืองที่เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสังคมโซเชี่ยล นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทางการเมืองท่ามกลางความเห็นที่แตกต่างและขัดแย้งมักจะกระตุ้นอารมณ์สูง ชวนให้คนติดตามไปเรื่อยๆ และเริ่มเสพติดข่าวสารที่มีลักษณะทางอารมณ์มากเกินไป และเกิดความเครียดที่แสดงออกผ่านการติดตามข่าวสารการเมืองหลายชั่วโมง เริ่มนอนไม่หลับ เริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียวมากโดยเฉพาะเมื่อเจอความเห็นต่าง ยิ่งปัจจุบันการสื่อสารง่าย มีส่วนร่วมได้ง่ายโดยการเข้าไปออกความเห็นผ่านโซเชี่ยลมีเดีย รวมถึงการส่งต่อข้อมูลต่างๆ ล้วนเป็นตัวทำให้เกิดการเสพข่าวสารทางการเมืองมากเกินไป กรมสุขภาพจิตค่อนข้างเป็นห่วง ในช่วงนี้
          "หลักการจัดการกับเรื่องนี้จึงเน้นเรื่องการจำกัดเวลาการรับและการสื่อสาร แค่ 1-2 ชั่วโมงควรพักหันไปทำกิจกรรมที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ ทั้งการงาน การเรียน เรื่องครอบครัว หากจัดการเรื่องเวลาได้ดีก็ไม่ค่อยมีปัญหา และเป็นวิธีการจัดการความเครียดที่ดีที่สุด ที่มีปัญหาเพราะไม่ค่อยจัดเวลา
          นอกจากนี้เราต้องรู้ว่าตัวที่ทำให้เกิดความเครียดมากคืออารมณ์ ดังนั้นสื่อประเภทไหนที่มีอารมณ์รุนแรงก็อย่าไปเสพ อย่าส่งต่อ เพราะคิดว่าการเมืองสร้างสรรค์คงไม่ต้องใช้สื่ออารมณ์ที่รุนแรงต่อกัน การสื่อสารควรเน้นที่การไม่ใช้อารมณ์ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนต้องสื่อสารอย่างสร้างสรรค์" นพ.ยงยุทธกล่าวสำหรับการแสดงความเห็นที่ แตกต่างกันทางการเมืองและค่อนข้างรุนแรงถือว่ายังอยู่ในบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยหรือไม่นั้น นพ.ยงยุทธมองว่า เป็นประชาธิปไตยแบบอ่อนหัด ที่เริ่มต้นก็แสดงความเห็นรุนแรงต่อกัน แต่พอประชาธิปไตยสุกงอม มีวุฒิภาวะมากขึ้นก็จะเริ่มมองความเห็นต่างเป็นโอกาสมากกว่าศัตรู
          "สังคมไทยเผชิญความขัดแย้งกันมานาน เรามีการเรียนรู้แน่นอน คนเริ่มลดความรุนแรงในการแบ่งขาวกับดำ มองเป็นเรื่องความแตกต่างมากกว่าความถูกผิด แต่แน่นอนว่าทุกประเทศที่เพิ่งผ่านวิกฤตมาต้องใช้เวลาทั้งสิ้น ขอย้ำว่าแม้ว่าเราจะมีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน ไม่ว่าเราจะอยู่ฝ่ายไหน ต้องการให้เกิดการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้สังคมไทยมีทางออก" จิตแพทย์กล่าวทิ้งท้าย