Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 30/04/2555 ]
นครสวรรค์แล้งวิกฤตเจ้าพระยาเแห้งขอด!โคราชร้อนตาย2ราย

'ภูหินร่องกล้า'แล้งจัด อ่างเก็บน้ำแห้ง ไม่มีน้ำดื่ม-ใช้เล็งเสนอปิดห้องพักบนอุทยานชั่วคราว ที่นครสวรรค์แม่น้ำเจ้าพระยาแห้งขอดเดินข้ามฝั่งได้
          ภูหินร่องกล้าเล็งปิดบ้านพัก
          เมื่อวันที่29 เมษายน ที่ จ.พิษณุโลก นายครรชิต ตันตระวาณิชย์  ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดติดต่อกันกว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำบนอุทยานแห่งชาติที่มีเนื้อที่กว่า 3 ไร่ ซึ่งเป็นแอ่งกระทะขนาดใหญ่กักเก็บน้ำใช้ทางธรรมชาติของอุทยานฯมีสภาพแห้งขอด ปีนี้มีน้ำน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะน้ำจากลำน้ำสาขาแห้งขอด ไม่มีน้ำจากซับต่างๆ ไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำมานานแล้ว ประกอบกับที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวและกรุ๊ปทัวร์มาจำนวนมากทำให้น้ำที่อุทยานฯกักเก็บไว้ตามแท็งก์น้ำขนาด50,000 ลิตร กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ แห้งขอดทำให้น้ำใช้ตามห้องสุขา และบ้านพัก หมดลงอย่างรวดเร็ว และไม่มีน้ำมาทดแทน
          "อุทยานฯขาดแคลนน้ำอย่างหนัก น้ำที่ใช้อุปโภค อุทยานฯและร้านอาหารต้องสั่งซื้อจากทางอำเภอให้นำขึ้นมาส่งวันเว้นวัน สร้างความลำบากให้เจ้าหน้าที่และร้านค้า ตลอดจนนักท่องเที่ยวอย่างมาก หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้และภายในสัปดาห์นี้ยังไม่มีฝนตกลงมาอุทยานฯจำเป็นต้องประสานกรมอุทยานฯ เพื่อแจ้งงดการให้บริการบ้านพัก เนื่องจากไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค โดยจะขอปิดการสั่งจองบ้านพักทางออนไลน์ และไม่สามารถเปิดบริการห้องพักให้แก่นักท่องเที่ยวได้" นายครรชิตกล่าว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศบนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าค่อนข้างเงียบเหงาไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม เนื่องจากสภาวะอากาศร้อนจัด
          นครสวรรค์เจ้าพระยาแห้ง
          ที่ จ.นครสวรรค์ นายหรรณพ พุกจันทร์รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า หลังฝนทิ้งช่วงหลายเดือน ทำให้สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มเข้าสู่ภาวะรุนแรงในหลายอำเภอ โดยจังหวัดประกาศพื้นที่ภัยแล้งแล้ว 5 อำเภอ คือ อ.เมือง,ตากฟ้า, หนองบัว, ไพศาลี และ อ.ลาดยาว มีพื้นที่ภัยแล้ง 27 ตำบล 230 หมู่บ้าน ราษฎรจำนวน 6,260 ครัวเรือน 21,471 คน เดือดร้อนหากฝนยังคงทิ้งช่วงต่อไปต้องประกาศพื้นที่ภัยแล้งเพิ่มขึ้นอีกหลายอำเภอ เบื้องต้นส่งรถน้ำกระจายไปยังพื้นที่เพื่อแจกจ่ายประชาชนแล้ว
          นายสุบิน รอดทิม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพนมเศษ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งใน 11 หมู่บ้านทำให้ลำห้วยและคลองต่างๆ แห้งขอด ไม่มีน้ำอุปโภคบริโภคจึงนำรถบรรทุกน้ำบรรจุไปรับน้ำจาก ต.ทับกฤช อ.ชุมแสง ซึ่งอยู่ห่าง 50 กิโลเมตร เพื่อนำน้ำมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านทุกวัน แต่ละวันแจกน้ำได้เพียง 3-4 เที่ยว หรือวันละ 21,000-28,000 ลิตรเท่านั้น เนื่องจากเสียเวลาเดินทาง
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพื้นที่ที่ประสบภัยแล้งค่อนข้างรุนแรง อาทิ อ.ลาดยาว แม่เปิน ชุมตาบง แม่เลย์ และ อ.แม่วงก์ ทำให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค ต้องซื้อน้ำกินน้ำใช้ และน้ำให้สัตว์เลี้ยงจากรถตระเวนขายน้ำเที่ยวละ 300-500 บาท ส่วนสภาพแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ มีสภาพแห้งจนเห็นเนินทราย บางช่วงสามารถเดินข้ามได้ ส่งผลต่อแพร้านอาหารในแม่น้ำเจ้าพระยาต้องเกยตื้นรวมทั้งเรือแพที่ล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่สามารถล่องเรือให้บริการนักท่องเที่ยวได้
          คาดร้อนหน้ามืดลุงจมน้ำดับ
          ที่จ.นครราชสีมา  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสภาพอากาศร้อนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้สูงอายุเป็นลมและเสียชีวิต 2 ราย โดยรายแรกทาง
          ร.ต.ต.ปัญญา ปะตังเวสา พนักงานสอบสวนสภ.พิมาย ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่สระน้ำ 4 ด้านหลังรีสอร์ตที่เพิ่งสร้างใหม่ ที่หมู่ 8 บ้านวังหิน ต.ในเมือง อ.พิมาย จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นสวนปลูกพืชผักสวนครัว มีกระท่อมไม่มีเลขที่ ข้างกระท่อมมีสระน้ำพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายลัด ป้อมหิน อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 286 หมู่ 8 ต.ในเมือง อ.พิมายสภาพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีกรมท่า กางเกงขายาวนอนคว่ำหน้า มือขวาถือถุงยาเส้น 1 ถุง
          จากการสอบปากคำนายประจวบ ป้อมหินบุตรชายผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเดินมาหาบิดาที่พักอาศัยในสวนคนเดียว และเห็นร่างบิดาลอยอยู่ในสระน้ำข้างกระท่อม คาดว่าเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดและอาจก้มล้างหน้าในสระแต่เกิดอาการหน้ามืดจนเป็นเหตุให้จมน้ำเสียชีวิต
          สาวเมา-ร้อนชักดับกลางแดด
          อีกราย พ.ต.ต.ปรัญชา นิมาลา สารวัตรเวรสภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุหญิงวัยกลางคนเสียชีวิตภายในชุมชนแออัดข้างทางรถไฟ ตรอกไบเล่ย์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบพบศพนางนกเขา กิ่งนอก อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่5 ต.หนอง บัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
          สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำนอนเสียชีวิตบนแคร่กลางแจ้งหน้าบ้านไม้มุงด้วยสังกะสีท่ามกลางอากาศร้อนจัด สภาพศพนอนหงายแขนขาเกร็ง คล้ายมีอาการชักจนขาดใจ บนแคร่พบข้าวสวยและปลากระป๋อง
          จากการสอบสวนนางเดือน นาคริน อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านให้การว่านางนกเขาเคยเป็นอดีตแม่บ้านประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเทศบาลนครนครราชสีมา แต่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากติดสุราเรื้อรัง ปัจจุบันเก็บของเก่าขายอาศัยอยู่กับสามีที่ทำงานกับทีมตั้งเวทีลิเก ก่อนเกิดเหตุผู้ตายนั่งดื่มสุราที่ร้านค้าภายในชุมชนก่อนซื้อข้าวและปลากระป๋องมานั่งรับประทานในที่เกิดเหตุ ช่วงนั้นอากาศร้อนจัดและแดดแรงมากกระทั่งออกมาจากบ้านพบผู้ตายนอนกลางแดดเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายเป็นลมแดดและเกิดอาการชักเกร็งจนเสียชีวิตเนื่องจากอยู่ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน
          หมอยันไทยไม่มีตาย'ฮีตสโตรก'
          ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) เปิดเผยถึงโรคความร้อนที่เรียกว่าโรคลมแดด หรือฮีตสโตรก(Heat Stroke) ว่า ที่ผ่านมาไม่พบผู้เสียชีวิตจากภาวะดังกล่าวโดยตรงในไทย แต่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เสียชีวิต เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ตัวเลขผู้ป่วยจากโรคลมแดดไม่มีรายงานชัดเจน แต่มีรายงานในลักษณะอาการที่ใกล้เคียง ส่วนใหญ่จะพบในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงอย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในปี 2552 มีผู้ป่วยโรคจากความร้อน 18 ราย ปี 2553 พบ 5 รายปี 2554 พบ 9 ราย ทั้งหมดไม่พบผู้เสียชีวิตที่เกิดจากโรคนี้ชัดเจน สำหรับปี 2555 พบว่ามีผู้เสียชีวิตที่คาดว่ามาจากความร้อน เพราะอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงนั้น จากการสอบสวนช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบ 4 ราย แต่ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคลมแดด
          "กลุ่มเสี่ยงเกิดโรคนี้ ได้แก่ ทหารที่เข้ารับการฝึกโดยไม่เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมเผชิญสภาพอากาศร้อน รวมถึงนักกีฬาสมัครเล่นและผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศที่ร้อน รวมทั้งผู้สูงอายุเด็ก คนอดนอน คนดื่มเหล้าจัดและผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย ล้วนมีความเสี่ยงทั้งสิ้น"นพ.สุวรรณชัยกล่าว และว่า การดูแลต้องนำผู้ป่วยที่เข้าข่ายภาวะดังกล่าวต้องรีบนำเข้าที่ร่มทันที ทำให้อุณหภูมิของร่างกายเย็นลงโดยเร็วที่สุด โดยใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัวให้ทั่ว โดยเฉพาะซอกคอ ใต้รักแร้ แช่ในน้ำหรือใช้ผ้าชุบน้ำเย็นห่อให้ทั่วตัวในรายที่อาการหนัก ไม่ควรให้ดื่มน้ำในรายที่ไม่รู้สึกตัว เพราะจะยิ่งทำให้อาเจียนสำลักได้ จากนั้นนำส่งแพทย์ทันที

 pageview  1205849    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved