แฉพบข้อมูลบริษัทยูแทคฯสั่งซื้อ  ซูโดฯจากจีน 1 หมื่นล้านเม็ดอย.พักใบอนุญาตขายยา 33 ร้านมีผล 1 พ.ค.นี้
          ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เมื่อวันที่ 25 เมษายน ลงมติรับคดีการนำเข้ายาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจากประเทศเกาหลีใต้จำนวน 40 ตัน เป็นคดีพิเศษ โดยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่าที่ประชุม กคพ.มีมติให้รับคดีนำเข้ายาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจากประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 40 ตัน เป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้ จะจัดชุดพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการคดีอย่างเป็นระบบ ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างดีเอสไอ อัยการสูงสุด องค์การอาหารและยา (อย.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)เพราะคดีดังกล่าวมีการนำเข้าของยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจำนวนมาก ตนจะรับหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และมอบหมายให้พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รักษาการผู้เชี่ยวชาญ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านคดีระหว่างประเทศ และนายวรวุฒิ มีจิตต์รักษาการผู้เชี่ยวชาญ เป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน รับผิดชอบตรวจสอบขั้นตอนการนำเข้าพิธีการศุลกากรต่างๆ รวมทั้งภาษีศุลกากร
          "จากนี้ดีเอสไอจะจัดทีมเพื่อประชุมเปิดคดีรวมทั้งจัดชุดเดินทางไปเกาหลีใต้และจีน เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทต้นทาง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสอบข้อมูลในทุกมิติทุกประเด็น เพื่อความชัดเจนมากที่สุด" นายธาริตกล่าว และว่าพบเอกสารสำคัญจาก อย.ประเทศไทย ได้รับจากกอย.ประเทศเกาหลีใต้ พบว่ามีข้อมูลการจัดซื้อยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจากจีน อีก 10,000 ล้านเม็ด โดยบริษัท ยูแทค ไทย เป็นผู้สั่งซื้อ เมื่อปี 2552 สัญญาระบุว่าเริ่มส่งสินค้าล็อตแรกวันที่31 กรกฎาคม 2552 จำนวน 2 ล้านเม็ด
          ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายธาริตนำเอกสารที่เป็นข้อมูลการซื้อขายนำเข้า 1 หมื่นล้านเม็ด ที่ดิเอสไอตรวจสอบ มาแสดงว่ามีสัญญาการซื้อขายจริง
          สำหรับหลักฐานตกลงซื้อขายระหว่างบริษัทยูแทคฯกับบริษัท จุน อี้ อินดัสเทรียล มีรายละเอียดดังนี้ บริษัทยูแทคฯ (จะถูกเรียกว่าเป็น"เฟิร์สต์ ปาร์ตี้" ) กับ บริษัท จุน อี้ อินดัสเทรียล(จะถูกเรียกว่าเป็น "เซคกันด์ ปาร์ตี้") ตกลงที่จะทำความตกลงซื้อขายดังนี้
          1.ซูโดเอฟิดรีน ไฮโดรคลอไรด์ 60 มก. ไตรโพรลิดีน ไฮโดรคลอไรด์ โมโนไฮเดรต 2.5 มก.เฟิร์สต์ ปาร์ตี้ ทำตกลงกับ เซคกันด์ ปาร์ตี้ เพื่อซื้อเวชภัณฑ์ 10,000 ล้านเม็ด มีตัวยาในระดับ150 มก.ต่อเม็ด โดยมีตัวยาหลักดังต่อไปนี้ ซูโดเอฟิดรีน ไฮโดรคลอไรด์ 60 มก.ไตรโพรลิดีน ไฮโดรคลอไรด์ โมโนไฮเดรต 2.5 มก. 2.ราคาที่ตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย จะใช้ราคาลอยตัว จะชี้ขาดกันก่อนเฟิร์สต์ ปาร์ตี้ จะฝากเงินเพื่อเป็นการชำระ 3.กรรมวิธีในการชำระ ให้ชำระล่วงหน้า15 เปอร์เซ็นต์ อีก 45 เปอร์เซ็นต์ชำระโดยเฟิร์สต์ ปาร์ตี้ ก่อน เซคกันด์ ปาร์ตี้ ส่งมอบสินค้าผ่านกระบวนการศุลกากร ส่วนที่เหลือเฟิร์สต์ปาร์ตี้ ต้องชำระครั้งเดียวทั้งหมดเมื่อได้รับเอกสารการจัดส่งสินค้า
          4.กรรมวิธีบรรจุ 5,000 เม็ดต่อ 1 ถุง หรือ 1 กล่อง (ถุงพลาสติกหรือกล่อง) 5.สถานที่จัดส่งคลังสินค้าศุลกากรท่าเรือเกาเสียง ของไต้หวัน6.กำหนดวันส่งมอบ 31 กรกฎาคม 2009 สำหรับการจัดส่งล็อตแรก 2 ล้านเม็ด 7.ถ้าเซคกันด์ปาร์ตี้ ขอให้ชะลอการจัดส่งก่อนกำหนดส่งสุดท้าย จำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยวันละ 0.5 เปอร์เซ็นต์ของเงินชำระล่วงหน้าที่เฟิร์สต์ ปาร์ตี้ชำระไว้ 8.เวชภัณฑ์ที่ซื้อโดยเฟิร์สต์ ปาร์ตี้ จากเซคกันด์ ปาร์ตี้ ต้องประกอบด้วยส่วนผสมมาตรฐานที่ได้รับการอนุมัติโดยสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติ หากส่วนผสมมาตรฐานเบี่ยงเบนไปกว่าบวกหรือลบ 3 เปอร์เซ็นต์ เซคกันด์ ปาร์ตี้ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาเพิ่มเติมและชดใช้ความสูญเสียในทางธุรกิจที่เกิดขึ้นกับเฟิร์สต์ ปาร์ตี้
          9.เวชภัณฑ์ที่ซื้อโดยเฟิร์สต์ ปาร์ตี้ จากเซคกันด์ ปาร์ตี้ จะต้องไม่นำออกจำหน่ายในไต้หวัน10.หากจำเป็นต้องมีความตกลงอื่นใดนอกเหนือจากความตกลงที่กำหนดไว้ในความตกลงฉบับนี้ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องทำความตกลงแยกอีกต่างหาก โดยแต่ละฝ่ายจะถือสำเนาหนังสือนี้ไว้คนละฉบับ
          วันเดียวกัน พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พบแผงและซองยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนที่ถูกนำมาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานเขตอ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ทั้ง 2 จุด คือกองขยะและป่าละเมาะ และบ้านเช่าที่ขบวนการลักลอบนำยาซูโดฯ จัดส่งไปผลิตเป็นยาเสพติดเช่าไว้เป็นจุดรับยาและแกะยาออกจากแผง
          พ.ต.ท.พงศ์อินทร์กล่าวว่าจะสอบปากคำพยานเดิมที่ตำรวจได้สอบปากคำไว้แล้วเบื้องต้นรวมถึงสอบพยานใหม่ที่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับแผงยาที่พบทั้ง 2 จุดใน อ.สันกำแพง ในแง่การสอบสวนของดีเอสไอพบว่า ตัวการสำคัญของขบวนการดังกล่าว คือตัวแทนบริษัทยา จะมีความเชื่อมโยงกันเกือบทั้งหมด
          นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย.เปิดเผยว่าหลังจากยกระดับการควบคุมซูโดอีเฟดรีนและยาแก้หวัดทุกสูตรที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ซึ่งร้านขายยาทุกแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งสถานพยาบาลและคลินิกที่ไม่ประสงค์จะครอบครองยาต้องส่งคืนยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรให้กับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 พฤษภาคม อย.ได้เก็บข้อมูลจนถึงเมื่อวันที่ 24 เมษายน พบว่ามียาเม็ดที่รับคืนจากร้านขายยาและคลินิก 3,614,020 เม็ด ยาน้ำ 2,393.91 ลิตร โดยผู้ผลิตและผู้นำเข้าจะต้องรายงานตัวเลขการรับคืนทั้งหมดไปที่ อย.ภายในวันที่ 3 พฤษภาคม
          "เมื่อวันที่ 23 เมษายน อย.ได้ประชุมคณะกรรมการยา ครั้งที่ 2/2555 เพื่อพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตร้านขายยาที่ปล่อยปละละเลย ไม่ให้ความร่วมมือในการดูแลการจัดทำบัญชี และซื้อขายยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม ซึ่ง อย.ได้ดำเนินการออกตรวจสอบร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พบร้านขายยาที่ยังจำหน่ายยาชนิดนี้ ที่ได้ออกประกาศห้ามจำหน่ายมาตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2554 ก่อนที่จะประกาศให้ยากลุ่มนี้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมาคณะกรรมการยาได้พิจารณาจากข้อมูลที่ อย.เสนอและมีมติให้พักใช้ใบอนุญาตขายยาในกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 27 แห่ง โดยพักใบอนุญาตเป็นเวลา 30 วัน รวม 9 แห่ง ได้แก่ร้านเรือ นย, ร้านดรักส์แคร์ 2 เขตดินแดง ร้านรวมเภสัช ร้านยา หมอยารามฯ บริษัท ศิรภักดิ์จำกัด (สาขา 3) และร้าน บี.เอ็ม.ฟาร์มาซีเขตบางกะปิ ร้านเตียเจริญ 14 เขตบางเขน ร้านวุฒิศักดิ์ ฟาร์มาซี สาขาตลาดอมรพันธุ์ (แยกเกษตร) เขตจตุจักร, และร้านขายยา อโรคยาเขตวังทองหลาง" นพ.พิพัฒน์กล่าว
          นพ.พิพัฒน์กล่าวอีกว่า พักใบอนุญาต 60 วันรวม 18 แห่ง ได้แก่ บริษัท เฟลก ซอน (ประเทศไทย) จำกัด เขตประเวศ ร้านชุมชนเภสัช และร้านดารณีเภสัช เขตบางขุนเทียน ร้านยาหนึ่งเขตบางเขน, บริษัท สยามฟาร์มาซีดรัก เซ็นเตอร์จำกัด เขตจตุจักร ร้านณัฐพงศ์เภสัช เขตบางบอนร้านขายยา เอส พี สาขาตลาดเกรียงไกร และร้านขายยา เอส พี สาขาเคหะร่มเกล้า (SP Drug Store) เขตลาดกระบัง บริษัท ซี.เอส.วี.เมดิซีนจำกัด เขตบางพลัด ร้านรัตนพรเภสัช และร้านเพ็ญเภสัช เขตบางซื่อ ร้านธีระเภสัช เขตห้วยขวาง ร้านแก้วตุ๋ยพานิช และร้าน เค.พี.ฟาร์มาซีเขตดินแดง ร้านธนวัฒน์เภสัช เขตสายไหม ร้านบ้านยา และร้านสวนเภสัช เขตบางกะปิ และห้างขายยา เหรียญทองเภสัช เขตพญาไท
          "นอกจากนี้ได้พักใช้ใบอนุญาตร้านขายยาอีก6 แห่ง ที่เป็นเครือข่ายกัน ใน อ.เมือง จ.ราชบุรีเป็นเวลา 120 วัน ได้แก่ ร้านพรเพ็ญเภสัช ร้านพรเพ็ญเภสัช 2 ร้านพรเพ็ญเภสัช 3 ร้านพรเพ็ญเภสัช 4 ร้านพรเพ็ญเภสัช 5 และ ร้านพรเพ็ญเภสัช 6 เพราะมีพฤติกรรมซื้อยาแก้หวัดสูตรที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน โดยไม่จัดทำบัญชี รวมทั้งขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน โดยเริ่มพักใช้ใบอนุญาตทุกแห่งตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป" นพ.พิพัฒน์กล่าว
          ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคืนยาไม่ทันจะผ่อนผันหรือไม่ นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า หากผ่อนผันอาจทำให้เกิดความสับสนได้ ดังนั้น ยังคงยืดประกาศเดิมให้ส่งคืนภายในวันที่ 3 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม วันที่ 4 พฤษภาคมเป็นต้นไป อย.จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วคาดว่าการส่งคืนไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากปัจจุบันระบบขนส่งมีหลายรูปแบบ และมีความรวดเร็วมาก ทั้งนี้ ร้านขายยาต้องไม่มียาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรในครอบครอง และห้ามจำหน่ายยานี้หากฝ่าฝืนครอบครองซูโดอีเฟดรีนคำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์ ไม่เกิน 5 กรัม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท แต่หากเกิน 5 กรัม จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท จึงขอให้ร้านขายยาทุกแห่งปฏิบัติตาม
          ด้าน นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ โฆษกคณะทำงานป้องกันและปราบปราบ ฟื้นฟู และเยียวยาด้านยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน คณะทำงานนำโดย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เพราะพบข้อมูลจาก อย.ว่าคลินิกแห่งนี้มียอดการสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวมากถึง 442,000 เม็ดเป็นยอดการสั่งซื้อเมื่อปี 2554 จากการตรวจสอบพบว่าคลินิกดังกล่าวสั่งซื้อจริง ทั้งยังขายยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวโดยที่ไม่ต้องพบแพทย์ก่อน และยังไม่มีการรายงานการจ่ายยาในเวชระเบียนด้วยเมื่อคณะทำงานตรวจสอบสต๊อกยาของคลินิกแห่งนี้ก็พบว่าไม่เหลือยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวที่สั่งมาแล้ว ดังนั้น คณะทำงานได้รวบรวมข้อมูลส่งดีเอสไอแล้ว เพื่อสืบสวนว่าคลินิกแห่งนี้ขายยาให้ใครไปบ้าง
          ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัยส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร แถลงหลังการประชุม กมธ.ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนออกจากระบบโรงพยาบาลว่า กมธ.มอบเอกสารที่รวบรวมมาให้ดีเอสไอดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อ โดยเฉพาะกรณีเอกสารที่ระบุถึงการแบ่งเปอร์เซ็นต์ที่โรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ที่ระบุถึงบุคคลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำยาซูโดออกจากโรงพยาบาล โดย กมธ.เชิญบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในเอกสารดังกล่าวมาชี้แจง อาทิ นายชวนนท์อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายอนุชา บุรณชัยศรี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ได้ยืนยันตรงกันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว และไม่รู้จักโรงพยาบาลกมลาไสยเลยพร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการที่มีชื่อตัวเองปรากฏในเอกสารแผ่นนี้นั้น เป็นเพราะเคยรู้จักกับนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมัยที่ยังเป็นเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ
          "นอกจากนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันด้วยว่า เลขานุการที่มีรายชื่อด้วยนั้น ไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้นอย่างแน่นอน ดังนั้น กมธ.ขอให้ดีเอสไอตรวจสอบในประเด็นเอกสารปลอมที่ทำขึ้น เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นหลังจากที่การสืบสวนสอบสวนสาวใกล้ถึงผู้ผลิตตัวจริงหรือไม่" นายวิทยากล่าว และว่า นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการนำเข้ายาซูโดจากเกาหลีด้วย โดย กมธ.จะเรียกตัวแทนจากกรมศุลกากรมาชี้แจงถึงตัวแทนที่เป็นผู้รับยาจากสนามบินในการประชุมสัปดาห์หน้า หากข้อมูลตรงนี้ได้รับการเปิดเผยจะทำให้การสาวถึงต้นตอผู้ค้าจะทำให้ง่ายขึ้น
          วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกกรุงเทพฯ ศาลพิพากษาจำคุก นางฮุสนา จันทร์ปรุงตน อายุ 43 ปี อาชีพรับจ้าง ชาว กทม.จำเลยฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน เป็นเวลา 17 ปี ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง สรุปว่าระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน -15 ธันวาคม 2554 จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างทำความสะอาดของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ได้รับสัมปทานเข้าทำความสะอาดที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้ขโมยยาเซเลเบร็กซ์ 200 (CELEBREX 200-ยาบรรเทาอาการปวด) และยา แอคติเฟด แท็บ(ACTIFED TAB-ยาแก้หวัดซึ่งมีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน) รวม 17 ครั้ง เป็นเงินมูลค่า 58,898 บาท ไปจากห้องจ่ายยา ผู้ป่วยนอก 1 อาคารเพชรรัตน์ ชั้น G โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยทุจริต ก่อนถูกตำรวจ สน.สามเสน นำหมายจับศาลอาญาที่ 91/2555 ลงวันที่ 26 มกราคม2555 จับกุมได้เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2555 จำเลยให้การรับสารภาพ
          ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมจำคุกกระทงละ 1 ปี 17 กระทง รวม 17 ปีคำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 8 ปี 6 เดือน ให้จำเลยชดใช้เงิน 58,898 บาท คืนแก่ผู้เสียหายและเมื่อพิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจแล้วไม่สมควรรอการลงโทษ
          บรรยายใต้ภาพ
          โชว์หลักฐาน - นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โชว์สัญญาการตกลงซื้อขาย โดย บริษัท ยูแทค ไทย จำกัดสั่งซื้อยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน จากบริษัท จุน อี้ อินดัสเทรียล จำกัด จำนวน1 หมื่นล้านเม็ด เมื่อวันที่ 25 เมษายน