หลายๆ คนอาจจะได้ยินคำว่า ออฟฟิศซินโดรม กันจนชินหู จากอาการนั่งทำงานนานอยุ่หน้าจอคอมพ์ อยู่หน้ากองเอกสาร ไม่ได้ลูกไปไหนจนปวดร้าวไปทั่วร่าง แต่ตอนนี้มีโรคเกี่ยวกับการทำงานที่ (ชื่อ) ใหม่กว่า และเฉพาะเจาะจงไปที่ต้นเหตุกันเลยคือ โรคคอมพิวเตอร์วิชชั่นซินโดรม หรือเรียกสั้นๆ ว่า โรคซีวีเอส ซึ่งเจ้าโรคนี้มักจะเกิดกับผู้ที่ต้องใช้สายตาอยู่หน้าคอมพ์เป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดอาการแสบตา ปวดตา ตาพร่ามัว และอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย โดยสาเหตุส่วนใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ประการ
1 ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เรียกว่าเพ่งหรือจ้องจนตาแทบไม่กะพริบ ปกติแล้วคนเรามักจะต้องกะพริบตาอยู่เสมอ เพื่อเป็นการเกลี่ยน้ำตาให้คลุมทั่วผิสตา โดยมีอัตราเฉลี่ยกะพริบตา 20 ครั้งต่อนาที ซึ่งในช่วงที่เราอ่านหนังสือหรือจ้องคอมพ์นานๆ จะทำให้อัตราเฉลี่ยการกะพริบตาลดลง ทำให้ผิวตาแห้ง เกิดอาการตาแห้ง รู้สึกฝืด
2 แสงจ้า แสงสว่างจากนห้าจออาจทำให้ดวงตาเมื่อยล้า หรือการใช้คอมพ์ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอก็มีส่วน แสงจากหน้าต่างที่ส่องหน้าจออาจสะท้อนเข้าตาผู้ใช้ ทางที่ดีควรจัดห้องทำงานไม่ให้มีแสงจ้าส่องหน้าจอ
3 ระยะห่าง ระยะห่างของสยตากับหน้าจอ ควรจัดให้อยู่ในระยะที่เหมาะสมประมาณ 45-50 ซม. และตาจะต้องอยู่สูงกว่าจอภาพ โดยเฉพาะผุ้ที่สวมแว่นสายตา จะสามารถมองจอผ่านแว่นสายตาได้ในระดับที่พอดี
ข้อแนะนำ สำหรับผู้ที่มีความผิดปกติของสายตาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะสายตาสั้น เอียง หรือยาว แนะนำว่าควรแก้ไขสายตาให้มองเห็นได้ชัดที่สุดจะได้ไม่ต้องเพ่งสายตา ทำให้เกิดอาการตาล้าได้ หลังจากทำงานอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานๆ ควรจะหาเวลาพักสายตาทุกๆ 5-10 นาที กะพริบตาบ่อยๆ ให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาป้องกันอาการตาแห้ง ปรับแสงสว่างของหน้าจอไม่ให้แสงจ้ามากเกินไป ปรับให้มองแล้วรู้สึกสบายตาที่สุด นอกจากการดูแลดวงตาด้วยปัจจัยภายนอกแล้ว ก็อย่าลืมที่จะดูแลดวงตาคู่สวยด้วยการกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาอย่างผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย |