เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ปีนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าทุกปี ล่าสุด กรมวิทยาศาสตร์ฯร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิจัยพบว่าทุกภาคของประเทศไทย มีทั้งยุงลายบ้านและยุงลายสวนที่ติดเชื้อไข้เลือดออก โดยเฉพาะภาคใต้พบยุงทุกชนิดติดเชื้อสูงสุด โดยมีอัตราการติดเชื้อในยุงลายบ้าน ร้อยละ 38 และยุงลายสวน ร้อยละ 24 และยัง พบอีกว่ายุงลายมีการถ่ายทอดเชื้อจากแม่ยุงไปสู่ลูกได้โดยไม่จำเป็นต้องไปนำเชื้อจากผู้ป่วย
"สิ่งที่จำเป็นที่สุดขณะนี้คือ ป้องกันตัวเองและคนในครอบครัวไม่ให้ยุงกัด โดยใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงที่มีประสิทธิภาพดี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า สารออกฤทธิ์ที่ดีที่สุดในช่วงการระบาด คือ ดีท (deet) หรือไดเอททิล ทูลูอาไมล์ (diethyl toluamide) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้ โดยใช้ได้ในเด็กที่อายุเกิน 4 ขวบขึ้นไป สำหรับเด็กเล็กให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารออกฤทธิ์ชนิดไออาร์ หรือ IR-3535 แต่ระวังอย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่เก็บไว้เป็นเวลานานเพราะอาจไม่ได้ประสิทธิภาพ" นพ.นิพนธ์กล่าว
นพ.สมชาย แสงกิจพร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรม วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ประชาชนยังสามารถนำสมุนไพรไทยมาใช้ทาป้องกันยุงกัดได้ สำหรับสารออกฤทธิ์ที่เป็นสมุนไพรหากเป็นสารชนิดเดียว เช่น น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้หอมต้องทาซ้ำทุกครึ่งชั่วโมง แต่จากการศึกษาวิจัยพบว่า การใช้สมุนไพรหลายชนิดรวมกันจะให้ผลในการป้องกันยุงได้ดีกว่าชนิดเดียว |