Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 19/10/2555 ]
คางทูม

  รศ.นพ.ชิษณุ พันธุ์เจริญ
          ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
          "คางทูม" เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของต่อมน้ำลาย ทำให้เกิดการบวมและปวดที่ต่อมน้ำลายในคอและขากรรไกร ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่ต่อมน้ำลายข้างหู พบมากในเด็กอายุ 6-10 ปี และในวัยผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี หรืออาจพบระบาดได้เป็นครั้งคราว
          โรคคางทูมเกิดจากเชื้อไวรัสคางทูม ซึ่งอยู่ในน้ำลายและเสมหะของผู้ป่วย ติดต่อได้ง่ายและสามารถแพร่เชื้อทางอากาศโดยการไอ จาม หายใจ สัมผัสถูกมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ จาน ชามที่ปนเปื้อนน้ำลายของผู้ป่วย เช่นเดียวกับการติดต่อของไข้หวัดมีระยะฟักตัว 14-20 วัน
          อาการมักมีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลียและปวดในรูหูหรือหลังหูขณะเคี้ยวหรือกลืนจะเป็นอยู่ 1-3 วัน ต่อมาพบว่าบริเวณข้างหูหรือขากรรไกร มีอาการปวด บวม และกดเจ็บ ผิวหนังบริเวณนั้นอาจแดง ร้อน และตึง ปวดร้าวไปที่หูขณะกลืน เคี้ยว หรืออ้าปาก หรือบางรายอาจมีอาการบวมที่ใต้คางร่วมด้วย ผู้ป่วย 2 ใน 3 จะมีอาการอักเสบของต่อมน้ำลายทั้ง 2 ข้าง อาการบวมจะค่อยๆ ยุบหายภายใน 7-10 วัน
          โรคนี้ส่วนมากจะหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่ส่วนน้อยที่พบภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ อัณฑะอักเสบ ทำให้ผู้ป่วยมีไข้สูง หนาวสั่น อัณฑะปวดและบวมซึ่งจะปวดมากใน 1-2 วันแรก มักพบหลังเป็นคางทูม 7-10 วัน แต่อาจพบก่อนหรือพร้อมๆ กับคางทูมได้ ส่วนใหญ่เป็นเพียงข้างเดียวและน้อยรายที่จะกลายเป็นหมัน ภาวะแทรกซ้อนที่พบไม่บ่อยนักได้แก่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบซึ่งมักมีอาการเพียงเล็กน้อยและหายได้เอง ส่วนสมองอักเสบอาจพบได้น้อยแต่มีอาการรุนแรง นอกจากนี้ อาจพบตับอ่อนอักเสบ หูชั้นในอักเสบ ประสาทหูอักเสบ ซึ่งอาจทำให้หูตึงหูหนวกได้ ไตอักเสบ ต่อม ธัยรอยด์อักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
          เนื่องจากยังไม่มียาชนิดใดที่ทำให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว การรักษาจึงเป็นเพียงการบรรเทาอาการ ซึ่งสามารถดูแลได้เองที่บ้าน ดังนี้ 1.ดื่มน้ำมากๆ เช็ดตัวเมื่อมีไข้สูง กินยาลดไข้แก้ปวด นอนพักผ่อน อาจประคบบริเวณที่เป็นคางทูมดัวยความร้อน 2.ถ้ามีอัณฑะอักเสบแทรก ให้ประคบด้วยความเย็น กินยาลดไข้แก้ปวด 3.ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรงหรือซึมไม่ค่อยรู้สึกตัว ให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาทางการแพทย์โดยเร็ว 4.ควรหลีกเลี่ยงน้ำส้ม หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งจะไปกระตุ้นต่อมน้ำลายและทำให้ปวดมากขึ้น
 

 pageview  1205867    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved