Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 09/08/2555 ]
'เวลากับชีวิต'

 นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข
          พุทธพจน์แห่งไตรลักษณ์ว่าด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เตือนให้มนุษย์ได้ตระหนัก รู้ถึง "สังขาร" ย่อมมีการเสื่อมสลายเป็นธรรมดาได้ทุกเมื่อ
          ดังนั้น การใช้ชีวิตประจำวันจึงอย่าประมาท หลายคน รู้ทั้งรู้ก็ยังทำ รู้ทั้งรู้ก็ยังทำไม่ได้ รู้ทั้งรู้ก็ปล่อยปละละเลย แต่ถ้าไม่รู้แล้วไม่ทำยังพอจะให้อภัยได้
          ในอดีตคนไทยมีวิถีชีวิตเรียบง่าย ส่วนใหญ่ กว่า 80% อยู่ในชนบท ใช้ชีวิตอยู่ในท้องไร่ท้องนา การศึกษาก็เป็นไปตามอัตภาพและความสามารถของครอบครัวที่จะช่วยถักทอและต่อยอด
          รูปแบบการใช้ชีวิต และการกินอยู่ของคนไทย ตามวิถีชุมชน แม้ยากจนแต่ไม่ขัดสน เพราะอาหารการกินส่วนใหญ่เป็นผักพื้นบ้านตามท้องนา ที่เกิดและเติบโตเองตามธรรมชาติ หรือถ้าอาหารประเภทเนื้อสัตว์ก็ไม่อัตคัด เพราะมีโปรตีนจากปลา กุ้งตัวเล็กตัวน้อย ที่ได้จากท้องนา ด้วยการทอดแห งมสุ่ม ตกเบ็ด ยกยอ เป็นต้น มองสังคมสมัยก่อนในมุมสุขภาพ จะพบว่า ความเจ็บป่วยอันเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต มักเกิดจากโรคระบาด โรคห่า หรือโรคจากความเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจ
          ในเรื่องคุณภาพชีวิต ด้วยวิถีที่เรียบง่าย ไม่ ซับซ้อนยุ่งยาก สิ่งแวดล้อมไม่มีมลพิษ ชีวิตที่ เปี่ยมปริ่มด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีทางศาสนา และวัฒนธรรม ชีวิตครอบครัว จะเป็นครอบครัวใหญ่ ลูกหลานอยู่ด้วยกันหลายคน แม้แต่งงานก็มักจะเอาเขยหรือสะใภ้มาอยู่ในบ้าน และลูกหลานที่คลอดใหม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จะอยู่ด้วยกัน ช่วยกันเลี้ยงดูจนเติบโต
          ลักษณะพิเศษของครอบครัวไทยสมัยเก่าๆ ปู่ ย่า ตา ยาย จะอยู่กับลูกหลาน อีกทั้งแรงกตัญญูกตเวทีของบุตรหลานที่มีต่อญาติผู้ใหญ่ ทำให้เป็นสังคมเอื้ออาทร จิตใจผุดผ่อง โอบอ้อมอารี มีวินัย เชื่อพ่อแม่ เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นพื้นฐานอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวสุขสันต์
          วันเวลาหมุนผ่าน วิถีคนไทยก็ปรับตามกาลเวลา การโหยหาอดีตจึงทำได้เพียงคิดคำนึง
          โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน วิถีของคนก็เปลี่ยน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิม แม้การรับรู้จะเปลี่ยนไปนั่นคือ "เวลา" พระเจ้าหรือฟ้า ท่านประทานให้ "มนุษย์" ทุกคนเท่ากัน...แต่
          โลกยุคใหม่ "Modern" ที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่ยุคหลังสมัยใหม่ "Post modern" การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เดิมพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ก็กลายเป็นพื้นที่แคบลง เวลากระชับ เร่งรีบรีบกิน รีบเดินทาง รีบสะสมเงินทอง ทำงานกันมากมาย บ้างต้องกินในรถ ยุ่งเหยิงไปหมด เห็นแก่ตัว กอบโกย ขาดศีลธรรม จิตใจเสื่อม ลืมตัว ลืมตน มีการแข่งขันสูง เหมือนบีบคั้นให้ ทุกชีวิตไม่มีทางเลือก ไม่มีเวลาทบทวน ต้องยอมรับกับสภาพ และเดินไปตามสิ่งแวดล้อมกำหนดตัวเรา กำหนดจิตใจเราให้ยอมรับและทำตาม กระแสโลกดูเหมือนสิ่งนั้นมันใช่ มันถูก ซึ่งความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่
          มนุษย์เราเกิดมามีทางเลือกเสมอ
          หากเราเข้าใจปัจจัยแห่งเหตุว่า "วันนี้เป็นทั้งเหตุและเหตุผล" หากชีวิตในปัจจุบันดี ย่อมเกิดจากผลแห่งกรรมดีในอดีต แต่ถ้าวันนี้ เดี๋ยวนี้เราขาดการปฏิบัติดี ยังประมาท หลงใหล ลืมตัว ขาดความรับผิดชอบ แน่นอนว่า ท่านเองย่อมรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น
          ดังนั้น หากเราตระหนักว่าสิ่งต่างๆ ที่ดำรงอยู่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ขอเพียงแต่ให้เราทุกคน "ให้เวลากับตัวเอง" ทบทวน ตั้งสติกำหนดรู้สาเหตุแห่งปัญหา แท้จริงแล้วคือ "ให้เวลากับตัวเอง" หรือให้เวลากับ "ร่างกาย" ที่เราอาศัยอยู่ ให้ร่างกายเราแข็งแรง มีความสุขด้วยการบำรุงรักษา ทั้งกาย ใจให้แข็งแรง
          นอกจากปัจจัย 4 คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และเครื่องนุ่งห่มแล้ว ร่างกายต้องการสารหลั่งความสุข "Serotonin" หรือปีติสุข ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ต่อเนื่องเป็นประจำ ร่างกายต้องการอาหารครบ 5 หมู่ ที่มีคุณภาพอย่างเหมาะสม พอเพียง ปรุงและบริโภคอย่าง ถูกสุขอนามัย ร่างกายต้องการความสงบ ความรื่นเริง อารมณ์สุนทรียะ ต้องการความสงบ มีการพักผ่อนที่พอเพียง
          บางคราวร่างกายต้องการความสงบของจิตใจ ปฏิบัติธรรมเพื่อรักษาสติ สมาธิ ปัญญา ร่างกายไม่ต้องการสิ่งเผาผลาญชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ เพราะทำลายชีวิตแบบตายผ่อนส่ง ร่างกายไม่ต้องการความอ้วน เพราะบุคลิกภาพดังกล่าวอืดอาด ยืดยาด ไม่กระฉับกระเฉง ไม่สง่างาม อีกทั้งยังเป็นรังโรคภัยไข้เจ็บได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน โรคไขมันในเลือดสูง
          และมักจะยุติชีวิตก่อนวัยอันควรด้วย "โรคหัวใจขาดเลือด โรคเส้นเลือดสมองตีบหรือแตก โรคไตวาย"
          รถใหม่ป้ายแดงเครื่องแรง อุปกรณ์ใหม่ ย่อมไม่มีปัญหาในการขับขี่ แต่เมื่อใช้ไปนานๆ เริ่มเข้าสู่ปีที่ 4 ปีที่ 5 อายุการใช้งานมากขึ้น หากผู้ใช้ขาดการบำรุงรักษา ไม่หมั่นตรวจตราระบบไฟ ระบบยาง หม้อกรองอากาศ หม้อน้ำ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ หรืออุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพที่ดีย่อมมีปัญหาในการใช้งาน เจ้าของรถอาจเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง
          "ร่างกาย" เหมือนรถยนต์ หากคนไม่ใส่ใจ ใช้งานโดยขาดการดูแลรักษาย่อมนำมาซึ่งความเสื่อมถอยและหมดสภาพ ยากจะบอกว่า รถยนต์กับคน ไม่ต่างกัน คนก็ประกอบด้วย ธาตุ 4 ดิน น้ำ ลมไฟ ตัวรถเหมือนร่างกาย คนขับรถเหมือนจิตวิญญาณ เป็นผู้ขับ เป็นผู้คิดและเป็นผู้สั่งให้ตัวรถหรือร่างกายไปตามความต้องการ
          เราใช้ "เวลา" ในการแสวงหาเงินทอง ความสะดวกสบาย แต่ลืม "เวลา" ที่ต้องให้กับชีวิต ให้กับ "ร่างกาย" ที่จิตใจอาศัยอยู่ การละเลย ทำให้ร่างกายต้องอ่อนล้า ถึงเวลาที่ต้องหันกลับมามองทบทวน ตั้งสติให้ "เวลา" กับ "ร่างกาย" ยอมเสียเวลาสักนิดเพื่อชีวิตที่ยืนยาว ด้วยการสร้างสุขภาพตามหลัก "3 อ"
          ออกกำลังกายให้ร่างกายได้หลั่งสารแห่งความสุข "Endorphins" อย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคที่บั่นทอนสุขภาพได้
          กินอาหารที่เป็นคุณต่อสุขภาพ เพื่อสร้าง Serotonin "กินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นพื้น เนื้อสัตว์อื่นๆ พอประมาณ" เพราะการกินผัก ผลไม้ จะทำให้จิตใจเยือกเย็น มีพลัง อายุยืน ผู้เขียนลองสังเกตสัตว์ที่กินพืช และเนื้อสัตว์ด้วยกัน จะพบว่าพวกที่กินพืชผัก เช่น เต่า ช้าง ยีราฟ จะดูเยือกเย็น ไม่ดุร้าย และที่สำคัญ คือ แข็งแรง อายุยืน ในขณะที่สัตว์กินเนื้อ จำพวกเสือ สิงโต จระเข้ จะมีนิสัยดุร้าย อายุขัยก็สั้นกว่า หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างน้องหมา น้องแมว เป็นสัตว์กินเนื้อ แต่ในยามเจ็บไข้ก็ได้อาศัยใบหญ้าในการ คลายพิษ
          ทำอารมณ์ให้แจ่มใส ไม่เครียด หงุดหงิด ประเภทขี้วีน ขาเหวี่ยง จะเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง คนปกติย่อมมีบ้างกับอารมณ์โกรธ โมโห แต่ต้องรู้จักจัดการกับอารมณ์ เพราะการสะสมอารมณ์เครียด ขุ่นมัวตลอดเวลา จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรค
          ดังนั้น หากท่านต้องการให้ชีวิตยืนยาว ก็ต้องให้ "เวลา" กับร่างกายของท่าน
          ประการสำคัญ ต้องเริ่มวันนี้ เดี๋ยวนี้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง สร้างความสมดุลทางธรรม เข้ามาขัดเกลา และใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตระหว่าง "ร่างกาย" "ชีวิต" และ "เวลา" ให้สม กับพุทธวัจน์ที่ว่า "ขออย่าให้ชีวิตประมาท จงทำหน้าที่ให้มีความถูกต้องกับชีวิตของเรา...รักร่างกายเขาบ้าง" ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและบุคคลอื่น เพื่อเข้าถึงความสุข สูงสุดแห่งชีวิต ด้วยการให้ "เวลา" กับ "ร่างกาย" ปัจจัยพื้นฐานในการมี "ชีวิต" ของเรา
          ดังคำที่พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) ได้เทศน์ไว้ว่า "มนุษย์ได้เวลา เท่ากัน...แต่ชีวิต สั้น ยาว ไม่เท่ากัน"...สาธุ

          "เราใช้ 'เวลา' ในการแสวงหาเงินทอง ความสะดวกสบาย แต่ลืม 'เวลา' ที่ต้องให้กับชีวิตให้กับ 'ร่างกาย' ที่จิตใจอาศัยอยู่ การละเลยทำให้ร่างกายต้องอ่อนล้า ถึงเวลาที่ต้องหันกลับมามองทบทวน ตั้งสติให้ 'เวลา' กับ 'ร่างกาย' ยอมเสียเวลาสักนิดเพื่อชีวิตที่ยืนยาว"

 pageview  1205841    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved