ผู้ร้ายเบอร์ 1 ที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทย กลับกลายมาเป็น มะเร็งเต้านมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมะเร็งปากมดลูกครองแชมป์ไปได้ยาวนานพอสมควรไม่ว่ามะเร็งชนิดไหนจะขึ้นแท่นอันดับ 1 ตอนนี้ เราต่างก็รู้ดีว่า มะเร็งทั้งสองชนิด ได้กลายเป็นมัจจุราชที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยไปอย่างน่าตกใจ ในช่วงวันแม่ที่กำลังจะมาถึง นอกจากของขวัญชิ้นโตที่จะมอบให้คุณแม่แล้ว เรื่องสุขภาพยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ลูกๆ น่าจะมอบให้เช่นกัน
          จูงมือคุณแม่แล้วพาท่านไปตรวจคัดกรอง "มะเร็ง" น่าจะเป็นของขวัญชิ้นพิเศษอีกชิ้นหนึ่งที่ลูกๆ สามารถทำได้
          เพราะถ้าหากพบตั้งแต่เนิ่นๆ โรคนี้ ก็จะสามารถรักษาให้หายได้ แต่หากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรัง คนที่เรารักก็จะนับวันลาจากโลกใบนี้ไปได้ง่ายๆ
          มะเร็งเต้านม
          มีแนวโน้มของผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งชนิดนี้เพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ โดยพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก 25.4 ต่อประชากร 100,000 คน
          สำหรับปัจจัยเสี่ยงนั้น เกิดจากพันธุกรรม และการใช้ชีวิตในปัจจุบันซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่น การมีประจำเดือนครั้งแรกเมื่ออายุยังน้อย การหมดประจำเดือนช้าลง ผู้หญิงที่ไม่มีลูกหรือมีลูกคนแรกหลังอายุ 35 ปี เมื่อบวกกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ เช่น การใช้ฮอร์โมนเป็นเวลานาน การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทานอาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน น้ำหนักตัวมาก เหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ง่ายขึ้น
          สำหรับมะเร็งเต้านม อุบัติการณ์การเกิดโรคจะแปรผันไปตามอายุ ยิ่งอายุมากก็ยิ่งเสี่ยงมาก โดยเฉพาะคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป  แนวทางที่สำคัญจึงอยู่ที่การหมั่นสังเกตตนเอง  ด้วยการคลำ ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังที่ดี อย่างไรก็ตามอาจได้ผลเพียง 50% เท่านั้น ทางที่ดีจึงควรเดินทางไปตรวจคัดกรอง และการตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ การทำอัลตราซาวนด์ และแมมโมแกรมในทุกๆ 1-2 ปี โดยเฉพาะในคนที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นมะเร็งจูงมือคุณแม่ไปตรวจเต้านม เพื่อหาความผิดปกติด้วยกัน ก็น่าจะเป็นของขวัญที่ดีอีกชิ้นหนึ่ง
          มะเร็งปากมดลูก
          แม้ว่าจะลดอันดับมาเป็นที่ 2 รองจากมะเร็งเต้านม แต่อัตราของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกก็ยังถือว่าสูงอยู่ ผู้หญิงส่วนใหญ่ อายที่จะตรวจภายใน  แต่รู้หรือไม่ว่า ทุกๆ 2 นาที ทั่วโลกจะมีผู้หญิงเสียชีวิตจากมะเร็งชนิดนี้ 1 คน ขณะที่ไทยมีผู้ป่วยใหม่ ราว 10,000 คน/ปี หรือเฉลี่ยวันละ 27 คน กว่าครึ่งจะ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ก็เพราะความอาย ละเลย ไม่สนใจนี่เอง ที่ทำให้ผู้หญิง ต้องเสียชีวิตด้วยโรคนี้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แนวทางที่สำคัญที่จะหยุดยั้งโรคนี้ได้ ก็คือจูงมือคุณแม่ไปตรวจคัดกรองะตรวจมะเร็งปากมดลูก  ด้วยการตรวจภายใน แป๊บสเมียร์ คอลโปสโคป หรืออื่นๆ ตามที่คุณหมอแนะนำทุกๆ ปี ในรายที่ไม่พบก็สามารถฉีดวัคซีน (ที่ต้นแขน) ป้องกัน ไวรัส HPV ตัวการสำคัญของมะเร็งปากมดลูกได้อีกด้วย
          สำหรับปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกนั้นมาจากการมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย สำส่อนทางเพศ มีภูมิต้านทานน้อย มีเชื้อโรค HPV ตัวการสำคัญ มีอาการผิดปกติทางช่องคลอด เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีอาการตกขาวในปริมาณมาก มีกลิ่นและสีผิดปกติ  ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าคุณแม่ (รวมทั้งคุณลูก) จะมีอาการปกติ หรือผิดปกติ จำเป็นจะต้องให้แพทย์ตรวจภายใน รวมทั้ง  ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อย่าอายที่จะตรวจ เพราะความอายไม่สามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ถึงวันแม่แล้ว รักแม่จริง อย่าลืมดูแลสุขภาพคุณแม่ ด้วยการจูงมือไปตรวจสุขภาพ "กันไว้ก่อนสาย"  ดีกว่ามาฟูมฟายในภายหลัง ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับคุณแม่ (และคุณลูก) ในช่วงวันแม่ที่กำลังจะมาถึงนะครับ