ทั่วโลกป่วยโควิดพุ่งกว่า 174 ล้านคน ตายทะลุ 3.76 ล้านศพ สหรัฐฯผ่อนคลาย คำแนะนำการเดินทางไปกว่า 110 ประเทศและดินแดน"อุรุกวัย" ชี้วัคซีนซิโนแวค ลดป่วย-ตายร้อยละ 90 ขณะที่จีนเผยผลทดลอง ใช้ ซิโนแวค เข็ม 3 สร้างภูมิคุ้มกันได้ 10 เท่า ใน 7 วันและ 20 เท่าใน 15 วัน ด้านสหรัฐเผยทดสอบวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอได้ผลดี
          เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน สำนักข่าว ต่างประเทศ รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ว่ามี ผู้ติดเชื้อรวม 174,726,362 คน มีผู้เสียชีวิต รวม 3,762,094 คน รักษาหายรวม 158,121,397 คน
          ที่ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐ อเมริกา โฆษกศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือซีดีซี ยืนยันว่าได้ลดระดับคำแนะนำการเดินทางไปยัง 61 ประเทศ จากระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และไม่แนะนำให้เดินทาง ยกเว้นผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 แล้วพร้อมกับระบุว่ามีอีก 50 ประเทศและดินแดน ที่ปรับลดอยู่ในระดับ 2 มีความเสี่ยงปานกลาง หรือระดับ 1 มีความเสี่ยงต่ำ โดยประเทศที่ระดับความเสี่ยงต่ำ ได้แก่ สิงคโปร์ อิสราเอล เกาหลีใต้ ไอซ์แลนด์ เบลีซ และแอลเบเนีย
          ขณะที่ประเทศที่อยู่ในระดับ 3 มีความเสี่ยงสูง เช่น ฝรั่งเศส เอกวาดอร์ ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ แคนาดา เม็กซิโก รัสเซีย สเปน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี ยูเครน ฮอนดูรัส ฮังการี อิตาลีและญี่ปุ่น ส่วนไทยยังอยู่ในระดับ 3 เช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ปรับระดับคำแนะนำการเดินทางไปประเทศและดินแดนต่างๆ แต่ไม่ได้ปรับคำแนะนำทั้งหมดเพราะปัจจัยต่างๆ อาทิ ความพร้อมของเที่ยวบินพาณิชย์ ข้อจำกัดการเข้าประเทศต่างๆ ของพลเมืองสหรัฐหรือข้อกำหนดที่ต้องแสดงผลตรวจเชื้อภายใน 3 วัน ทั้งนี้ได้ประกาศลดระดับคำแนะนำการเดินทางใน 85 ประเทศและดินแดน
          สำนักข่าวรอยเตอร์ส เสนอข่าวโดยอ้างการเปิดเผยจากรัฐบาลอุรุกวัย ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของซิโนแวค มีประสิทธิภาพลดความเสี่ยงการเสียชีวิตได้ 95% และลดการป่วยหนักระดับที่ต้องรักษาในโรงพยาบาล 92% อย่างไรก็ดี ประสิทธิภาพการป้องกันการติดเชื้ออยู่ที่ 61% โดยรัฐบาลอุรุกวัย อ้างผลการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18-69 ปี 795,684 คน เก็บข้อมูลอย่างน้อย 14 วัน หลังจากรับวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 เปรียบเทียบกับ ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
          ขณะเดียวกัน วัคซีนไฟเซอร์ เป็นอีกชนิดที่ใช้ในอุรุกวัย มีการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 162,047 คน มีทั้งบุคลากรสาธารณสุขและบุคคลอายุ 80 ปีขึ้นไป พบว่าลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการป่วยหนักได้ 94% และป้องกันการติดเชื้อได้ 78% ปัจจุบันอุรุกวัยใช้วัคซีนในโครงการโคแว็กซ์ โดยได้รับวัคซีน 3 ยี่ห้อ คือซิโนแวค ไฟเซอร์และแอสตราเซเนกา ประชากร 52% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 318,783 คน เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4,692 คน
          ที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งชาติ(ซีซีทีวี) เผยแพร่การให้สัมภาษณ์ของ นพ.อิน เว่ยตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 2 เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ซิโนแวค เข็ม 3 เพื่อเพิ่มการกระตุ้น ภูมิคุ้มกันหรือ บูสเตอร์ปรากฏว่ากลไกการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น 10 เท่า ภายใน 7 วัน และ 20 เท่า ภายใน 15 วัน แต่การทดสอบยังต้องได้ความชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาที่เหมาะสม และปลอดภัย ก่อนเสนอให้ประชาชนได้รับวัคซีนเข็มที่ 3
          ด้านนายหลิว เป่ยเฉิง โฆษกของซิโนแวค กล่าวว่า โดยหลักการแล้ววัคซีนที่ผลิตจากเชื้อตายมีกระบวนการทำงานที่มั่นคงและเป็นขั้นตอน แต่ซิโนแวค กำลังศึกษาอย่างละเอียดเกี่ยวกับการที่วัคซีนจะสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสกลายพันธุ์มากน้อยเพียงใด เพื่อพัฒนาวัคซีนต่อไป
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานผลการศึกษาใหม่พบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐ อนุมัติ ได้แก่ วัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นา สามารถลดความเสี่ยงติดเชื้อได้ 91% ในผู้ฉีดครบโดส โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ระบุว่าเป็นการศึกษา ฉบับแรกที่เผยว่าวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ เป็นประโยชน์ต่อผู้ติดเชื้อ ซึ่งข้อมูล ข้างต้นมาจากการศึกษาฮีโรส์-รีคัฟเวอร์ ที่เก็บข้อมูลนาน 4 สัปดาห์ ครอบคลุมบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า และบุคลากรที่ จำเป็นอื่นๆ ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อสูง
          นายโรเชลล์ วาเลนสกี ผอ.ศูนย์ฯ กล่าวว่า สิ่งที่พบเป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ มีประสิทธิภาพและสามารถป้องกันการติดเชื้อส่วนใหญ่ได้ แม้ในผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสจะป่วย แต่เขาจะมีอาการน้อยกว่า หายได้ไว และมี โอกาสแพร่เชื้อให้ผู้อื่นในระดับต่ำกว่าปกติ