"อดีตเภสัชกร" เยือนบุรีรัมย์ หาแหล่งวัตถุดิบ ชวนให้มอง "กัญชา" มุมใหม่ เผยผู้ปวยพาร์กินสัน หายดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มะเร็ง ใช้แล้วโรคหยุดลาม-มีแรง
วานนี้ (7 มี.ค.) ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ มีการจัดงาน "มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน" เป็นวันสุดท้าย ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ (สสจ.) และสถาบันการศึกษา ตลอดจนภาคเอกชนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขานรับนโยบายปลดล็อกกัญชา-กัญชง ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมการทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตลอดจนใช้ในการประกอบอาหาร เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานยังคงคึกคัก มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำ หมู่บ้าน แพทย์ พยาบาล นักธุรกิจ ผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร ไปจนถึงประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค เดินทางมาลงทะเบียน เข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด พญ.วนิดา จันทรเทพเทวัญ อายุ 67 ปี อดีตนักวิจัยองค์การเภสัชกรรม ด้านแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน เดินทางจาก จ.นนทบุรี ไป จ.บุรีรัมย์ บอกว่าเหตุที่สนใจงานนี้เนื่องจากตนเป็นหนึ่งในวิสาหกิจชุมชน จ.นนทบุรี เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสมุนไพร รวมถึงทำเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และยาจากสมุนไพร จึงมาหาแหล่งวัตถุดิบที่จะซัปพลายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ว่าจะสามารถซื้อจากที่ไหนได้บ้าง เพื่อมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เหล่านี้
"การปลดล็อก ราก ลำต้น และใบ ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้กัญชาและกัญชง ได้มากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ตลาดของไทยโตขึ้น และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะผู้ปวยที่เป็นโรค กัญชา จะมีประโยชน์ดีมากในการรักษา เป็นอีกทางเลือกที่ดี ส่วนตัวมีเพื่อนที่เป็นโรคพาร์กินสัน เมื่อได้ใช้น้ำมันกัญชา
ก็เกือบจะหายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่หยดน้ำมันกัญชาสองหยดที่ใต้ลิ้น ซึ่งเป็นตัวที่มีสาร CBD อย่างเหมาะสม แต่คนใช้ก็ต้องเลือกใช้ให้เป็นว่ากัญชาชนิดนี้เหมาะกับผู้ปวยชนิดไหน ล่าสุดมีน้องที่เป็นโรคมะเร็ง ก็ใช้น้ำมันกัญชาชนิดที่มีสาร THC สูง ซึ่งช่วยบรรเทาโรคของเขาได้ ทำให้นอนหลับสบาย มะเร็งที่กำลังจะลามไปยังจุดอื่นก็สามารถหยุดยั้งได้ ทำให้ผู้ปวยมีแรงมากขึ้น จนตอนนี้ขับรถได้แล้ว"
พญ.วนิดา กล่าวต่อว่า อยากให้มองข้อดีของกัญชา ต่างออกไปจากภาพลักษณ์เดิมที่มองว่าเป็นยาเสพติด เพราะส่วนตัวก็ใช้เวลาที่นอนไม่หลับ แต่ไม่รู้สึกว่าเสพติดแต่อย่างใด วันไหนที่ไม่อยากใช้ เราก็ไม่ต้องใช้ ไม่มีความรู้สึกเสพติดเลย
"จะไปฟังสัมมนาด้วยเพราะสนใจเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ซึ่งเวลานี้ มีข้อกฎหมายออกมาอยู่เรื่อยๆ เราต้องตามให้ทันจะได้รู้ว่าเราจะไปขึ้นทะเบียนอย่างไร ทั้งในแง่อาหารเสริม และในแง่ยา มีกี่ทะเบียน ซึ่งปัจจุบันมี 5 ตำรับยา ที่สามารถขึ้นทะเบียนได้ ณ ตอนนี้ แต่ในรายละเอียดจะต้องติดตามต่อไป ว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา (อย.) ได้อย่างแท้จริงเมื่อไหร่ เพราะในปัจจุบัน ส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ก็ใช้ได้เฉพาะส่วนของเมล็ดจากพืชกันชง ยังไม่สามารถใช้กัญชาได้ จึงติดตามมาโดยตลอด" พญ.วนิดา กล่าว. |