Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 15/10/2563 ]
เมียนมายังอ่วมหนักติดไวรัสทะลุ3หมื่นเสียชีวิตเฉียด700คน

เมียนมายังอ่วมหนักติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 3 หมื่นราย ยอดเสียชีวิตเฉียด 700 ราย ฝรั่งเศสมีผู้ป่วย เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สื่อคาดอาจใช้มาตรการเคอร์ฟิวในพื้นที่ระบาดหนัก ธนาคารโลกอนุมัติงบประมาณ 374,552 ล้านบาท ช่วยประเทศกำลังพัฒนา จัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ตั้งเป้าช่วยให้คนได้รับวัคซีนมากถึง 1,000 ล้านคน
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ว่ากรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองปุตราจายา รัฐสลังงอร์ และรัฐซาบาห์ ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมทางสังคม ครั้งใหม่ เป็นเวลา 14 วัน หรือจนถึงวันที่ 27 ตุลาคมนี้ เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ในรอบ 24 ชั่วโมง ล่าสุดมีผู้ป่วยใหม่ 660 คน และผู้เสียชีวิตอีก 4 คน โดยมาตรการส่วนใหญ่ยังคงเดิม ร้านอาหารยังคงเปิดได้ตามปกติ แต่จำกัดการนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันไม่เกิน 2 คน การรักษา ระยะห่างอย่างเคร่งครัด และการต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน ตลอดจนการทำงานจากที่บ้าน และการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์
          ขณะที่การเดินเข้าและทางออกจากกัวลาลัมเปอร์ เมืองปุตราจายา รัฐสลังงอร์ และรัฐซาบาห์ ทั้งทางบก ทางเรือ หรือทางอากาศ อนุญาตเฉพาะบุคคลซึ่งต้องมีเอกสารยืนยันอย่างเป็นทางการ ที่ระบุ "ความจำเป็น" ของการเดินทาง และการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจถือเป็นที่สิ้นสุด
          ปัจจุบันมาเลเซียมีสถิติสะสมของ ผู้ป่วยอยู่ที่อย่างน้อย 16,880 คน เป็นอันดับ 5 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเมียนมา รักษาหายแล้ว 11,372 คน เพิ่มขึ้น 350 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 163 คน
          เมียนมาติดเชื้อทะลุ3หมื่นราย
          สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนอ้างกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาเมียนมาว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พบผู้ป่วยใหม่ 1,123 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 30,437 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 29 คน รวมเป็น 693 คน มีผู้ป่วยหายแล้ว 11,769 คน และมีผู้รับการตรวจหาเชื้อแล้วทั้งหมด 441,926 คน
          สำนักข่าวอิรวดีเปิดเผยผลสำรวจที่ธนาคารโลกสอบถามธุรกิจ 500 แห่ง ในภาคบริการ ค้าปลีก ค้าส่ง การผลิต และเกษตรกรรมเมื่อเดือนพฤษภาคม กรกฎาคม และสิงหาคม ร้อยละ 35 เป็นธุรกิจรายย่อย ร้อยละ 40 เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ร้อยละ 19 เป็นธุรกิจขนาดกลาง และร้อยละ 6 เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้ตอบร้อยละ 81 เผยว่าได้รับผลกระทบหนักในเดือนพฤษภาคม และลดลงเล็กน้อยเหลือร้อยละ 79 ในเดือนกรกฎาคม ในภาพรวมแล้วไวรัสโควิด-19 ยังคงมีผลกระทบเชิงลบ แต่ส่วนใหญ่ดีขึ้น ผลกระทบหนักที่สุดคือ ยอดขายลดลง รองลงมาคือการผลิตลดลง ปัญหาในการจัดหาสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้าและขาดกระแสเงินสด
          เวียดนามพบป่วยใหม่3ราย
          เว็บไซต์เวียดนามนิวส์ รายงานว่า สตรีวัย 20 ปี และ 26 ปี เดินทางจากรัสเซียมาถึงท่าอากาศยานเกิ่นเทอ เมือง เกิ่นเทอ บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เมื่อวันที่ 26 กันยายน ถูกกักโรคทันทีที่เดินทางถึงส่วนชายมาเลเซียวัย 37 ปี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน มีผลตรวจเป็นบวกเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติ เตินเซินเญิตในนครโฮจิมินห์เมื่อวันเสาร์ ถูกส่งไปกักโรคในจังหวัดบ่าเสียะ-หวุงเต่าแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามแจ้งว่า ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 1,113 คน มี ผู้ป่วยหายเพิ่มขึ้นหนึ่งคน รวมผู้ป่วยหายแล้ว 1,026 คน และมีผู้ถูกกักโรคตาม สถานพยาบาล สถานเฉพาะด้านและบ้านพักรวมกว่า 13,845 คน
          ฝรั่งเศสติดเชื้อเพิ่มเกือบ1.3หมื่นราย
          ที่ประเทศฝรั่งเศส จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ ผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิต จากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน วันอังคาร ในขณะที่ฝรั่งเศสกำลังจะใช้มาตรการจำกัดเพิ่มเติม ซึ่งประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง จะแถลงทางโทรทัศน์ ขณะที่หน่วยงานด้านสุขภาพของฝรั่งเศสรายงานว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ 12,993 คน จากที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,505 คน เมื่อวันจันทร์ ขณะที่ค่าเฉลี่ย 7 วัน อยู่ที่ 17,816 คน หรืออยู่เหนือระดับ 17,000 คน เป็นวันที่สองติดต่อกัน และมีจำนวนผู้ติดเชื้อ สะสมอยู่ที่ 756,472 คน
          สื่อคาดอาจใช้มาตรการเคอร์ฟิว
          ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีฌอง กัสเต็กซ์ ได้ปฏิเสธที่จะใช้มาตรการปิดเมือง ในบางพื้นที่ ขณะที่สื่อฝรั่งเศสรายงานว่ากำลังมีการพิจารณาจะใช้มาตรการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวในพื้นที่ที่มีการระบาดสูง โดยขณะนี้ 5 เมืองใหญ่สุดของฝรั่งเศส ได้แก่ ปารีส มาร์กเซย ลียง ตูลูส และลีลล์ และเมืองใหญ่อื่นๆ อีก 4 เมือง กำลังอยู่ภายใต้การเตือนภัยในระดับสูงสุด โดยมีการปิดบาร์และโรงยิมแล้ว ขณะที่ร้านอาหารยังเปิดได้ภายใต้เงื่อนไข ด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด
          ธนาคารโลกอนุมัติงบช่วยซื้อวัคซีน
          ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกมีแถลงการณ์ว่า ได้อนุมัติงบประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 374,552 ล้านบาท) ช่วยประเทศกำลังพัฒนาจัดซื้อและจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งเป้าช่วยให้คนได้รับวัคซีนมากถึง 1,000 ล้านคน โดยงบประมาณนี้ เป็นส่วนหนึ่งของงบรวม 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5 ล้านล้านบาท) ที่จะใช้จนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า สำหรับช่วยประเทศกำลังพัฒนารับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นการส่งสัญญาณถึงวงการวิจัยและเภสัชภัณฑ์ว่า ประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาก็ต้องการเข้าถึงวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนทางการเงินและเทคนิคเพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนาใช้วัคซีนในอัตราที่สอดคล้องกับหุ้นส่วนสากล
          ทั่วโลกเสียชีวิต1.09ล้านราย
          สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก นับจนถึงช่วงเย็นวันที่ 14 ตุลาคม 2563 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 38,426,539 ราย เสียชีวิตรวม 1,091,759 ราย รักษาหาย 28,883,947 ราย สหรัฐ มีผู้ติดเชื้อ 8,093,600 ราย เสียชีวิต 220,900 ราย อินเดีย ติดเชื้อ 7,241,517 ราย เสียชีวิต 110,645 ราย บราซิล ติดเชื้อ 5,114,823 ราย เสียชีวิต 151,063 ราย รัสเซีย ติดเชื้อ 1,340,409 ราย เสียชีวิต 23,205 ราย สเปน ติดเชื้อ 925,341 ราย เสียชีวิต 33,204 ราย

 pageview  1205102    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved