Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 21/02/2563 ]
เที่ยวป่า-ปีนเขา ระวัง ตัวไรอ่อน

ก่อโรค'ไข้รากสาดใหญ่'ลุกลามปอดอักเสบ
          หมอชี้'ตัวไรอ่อน'มีขนาดเล็กมองไม่ค่อยเห็น แต่ร้ายกาจหลังถูกกัด 10-12 วัน มีไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ปอด-เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ตายได้เลย
          เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิน รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง ทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง และจากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าทางตอนบนของประเทศจะมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง และป่าไม้ จึงขอเตือนนักท่องเที่ยวที่เดินทางรับลมหนาวและกางเต็นท์นอนในป่า ระวังถูกตัว ไรอ่อนกัดได้ ทำให้เสี่ยงป่วยด้วยโรคไข้รากสาดใหญ่
          นพ.อัษฎางค์กล่าวว่า โรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับไทฟัส (Scrub typhus) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งมีตัวไรอ่อนเป็นพาหะ ติดต่อโดยถูกไรอ่อนที่มีเชื้อกัด ไรอ่อนจะอาศัยอยู่ตามใบไม้ ใบหญ้า ใกล้กับพื้นดิน ไรอ่อนจะกระโดดเกาะตามเสื้อผ้าของคนและกัดผิวหนังที่สัมผัสกับเสื้อผ้า ปกติจะมองไม่เห็นตัวไรอ่อน เนื่องจากมีขนาดเล็กมาก ส่วนใหญ่บริเวณที่ถูกกัด คือ รักแร้ ขาหนีบ รอบเอว หลังถูกไรอ่อนกัดประมาณ 10-12 วัน อาการที่พบ ปวดศีรษะ มีไข้ หนาวสั่น ไอ ตาแดง คลื่นไส้อาเจียน ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย และบริเวณที่ถูกกัดอาจจะมีผื่นแดงขนาดเล็กค่อยๆ นูนหรือใหญ่ขึ้น และอาจจะพบแผลคล้ายบุหรี่จี้ (Eschar) แต่จะไม่ปวดและไม่คัน ผู้ป่วยบางรายอาจหายได้เอง แต่บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ เช่น ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ อาจทำให้เสียชีวิตได้
          นอกจากนี้ นพ.อัษฎางค์กล่าวว่า ข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-10 กุมภาพันธ์ มีรายงานพบผู้ป่วยโรคไข้รากสาดใหญ่ 445 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต ภาคที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุด คือ ภาคเหนือ จำนวน 227 คน คิดเป็นร้อยละ 51 ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ระนอง น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย สุราษฎร์ธานี ตามลำดับ กรมควบคุมโรคจึงขอแนะนำให้ประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวตั้งแคมป์ กางเต็นท์นอนในป่า ควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และทาโลชั่นกันยุงที่มีส่วนผสมของสาร DEET หรือใช้สมุนไพรทากันยุงซึ่งสามารถป้องกันตัวไรอ่อนกัดได้
          "ทั้งนี้ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีตัวไรอ่อนชุกชุม ไม่ว่าจะเป็นป่าโปร่ง ป่าละเมาะ บริเวณที่มีการปลูกป่าใหม่หรือตั้งรกรากใหม่ ทุ่งหญ้า ชายป่าหรือบริเวณต้นไม้ใหญ่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง หลังออกจากป่าให้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย และนำเสื้อผ้าที่สวมใส่มาซักให้สะอาด ด้วยผงซักฟอกเข้มข้น เพราะอาจมีตัวไรอ่อนติดมากับร่างกายหรือเสื้อผ้าได้ หากมีอาการไข้และอาการข้างต้น ภายใน 2 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเข้าป่าให้แพทย์ทราบ เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว ป้องกันการเสียชีวิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422" นพ.อัษฎางค์กล่าว

 pageview  1204974    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved