Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 06/02/2563 ]
บินกลับ-ถึงอู่ตะเภาแล้ว 138ชีวิต! ไทย จากเมืองจีน

 คัดกรองดูอาการ อาคารรับรองทร. 3วันญาติเยี่ยมได้ แต่ผ่านวิดีโอคอล จนแน่ใจใน14วัน จึงให้กลับบ้านได้
          เที่ยวบิน “มนุษยธรรม” ของสายการบินแอร์เอเชีย นำคนไทยจากอู่ฮั่น กลับถึงแผ่นดินไทยแล้ว และถูกนำเข้าพักภายในกองทัพเรือสัตหีบ อ่าวดงตาล เพื่อสังเกตอาการรวม 14 วัน นายกฯชมกองทัพเรือเสียสละพื้นที่รองรับคนไทยจากอู่ฮั่น ขณะที่พบผู้ติดเชื้อในไทยเพิ่มขึ้นเป็น 25 ราย ในจำนวนนี้มีโชเฟอร์รถรับจ้างที่รับทัวร์จีนติดเชื้อ 1 ราย ด้านหญิงชาวจีนวัย 73 ปี ชาวนครปฐมที่ไปเที่ยวอู่ฮั่นแล้วได้รับกลับไทยมาแล้วป่วย แพทย์รักษาหายแล้วนำตัวมาแถลงข่าว เผยเครียดมากหลังรู้ว่าติดเชื้อไวรัสร้าย ฮ่องกงตายรายแรก “ไวรัสอู่ฮั่น” จีนเร่งเพิ่มโรงพยาบาลชั่วคราว พร้อมคุมอีก 2 เมืองไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ส่วนสาวเกาหลีที่มาเที่ยวไทยแล้วกลับไปป่วย ทางการเกาหลีระบุอย่าเพิ่งสรุปว่าติดเชื้อจากไทย
          สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่มีศูนย์กลางการแพร่ระบาดอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ยังคงน่าวิตก หลังจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ขณะที่สายการบินแอร์เอเซีย นำทีมแพทย์เดินทางไปรับคนไทยที่ตกค้างอยู่ที่เมืองอู่ฮั่นกลับไทยแล้ว
          ฮ่องกงป่วยตายรายแรก
          เมื่อวันที่ 4 ก.พ. สำนักข่าวอาร์ทีเอชเคของฮ่องกง รายงานพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสอู่ฮั่น นอกประเทศจีนรายที่ 2 เป็นชายวัย 39 ปี ที่เดินทางจากฮ่องกงไปยังเมืองอู่ฮั่น ต้นตอการแพร่ระบาดในจีน ด้วยรถไฟความเร็วสูงเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ก่อนกลับมาฮ่องกงในวันที่ 23 ม.ค. ประวัติเคยมีอาการป่วยเรื้อรังและเป็นโรคหัวใจ แต่ระหว่างเดินทางไปจีน ชายดังกล่าวเปิดเผยว่า ไม่ได้ไปตลาดสด โรงพยาบาล หรือเข้าใกล้สัตว์ป่าแต่อย่างใด ขณะที่ผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีนอีกรายเกิดขึ้นที่ฟิลิปปินส์ เมื่อ 2 ก.พ. เป็นชาวจีนวัย 44 ปี สามีของหญิง ชาวจีนที่ถูกตรวจพบเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกในฟิลิปปินส์
          ตายพุ่งมากที่สุดในวันเดียว
          ด้านคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน รายงานความคืบหน้ายอดเหยื่อเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มเป็น 425 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตในพื้นที่แพร่ระบาดมณฑลหูเป่ยถึง 414 คน ถือเป็นการปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงที่สุด นับตั้งแต่ทางการจีนเริ่มอัปเดตสถานการณ์แบบวันต่อวันในเดือน ม.ค. โดยเพิ่มจากยอดวันที่ 3 ก.พ. ถึง 64 ศพ ขณะที่ยอดการพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับยืนยันในจีนอยู่ที่ 20,438 คน เพิ่มจากวันก่อนถึง 2,345 คน
          บีบีซีแฉแพทย์จีนถูกปิดปาก
          สำนักข่าวบีบีซี อังกฤษรายงานด้วยว่า ที่ประชุมคณะกรมการเมืองถาวรแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้พิจารณาเรื่องการพัฒนาระบบบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของประเทศ เพิ่มการตรวจสอบตลาด และออกมาตรการปราบปรามการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย สืบเนื่องจากรัฐบาลจีนมองสถานการณ์ครั้งนี้ไม่ขาด และพบว่าการตอบสนองยังมีข้อบกพร่อง นอกจากนี้ บีบีซีอังกฤษยังรายงานเรื่องราวของนายแพทย์ หลี่ เหวินเหลียง เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมโรคระบาดในเมืองอู่ฮั่น ที่เปิดเผยว่า พบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเดือน ธ.ค. แต่หลังแจ้งข่าวไปยังเพื่อนร่วมงานผ่านห้องสนทนาออนไลน์ กลับมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงนำเอกสารมาให้ลงนาม เพื่อยืนยันว่าตนจะไม่แพร่กระจายข่าวที่รบกวนความมีระเบียบเรียบร้อยของสังคมอีก
          เพิ่ม รพ.ชั่วคราว-คุมอีก 2 เมือง
          ขณะที่สื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่า ทางการเมืองอู่ฮั่น ได้มีคำสั่งแปลงสนามกีฬาในร่ม ศูนย์จัดนิทรรศการ และศูนย์วัฒนธรรมภายในเมือง รวม 3 แห่ง ให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยเบาบาง เบื้องต้นคาดว่าจะมีความจุผู้ป่วยได้ 3,400 เตียง ส่วนที่เมืองไท่โจว และหางโจว ในมณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ทางการได้มีคำสั่งใช้มาตรการกักบริเวณพลเมืองให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย และอนุญาตให้ออกจากบ้านไปซื้ออาหารได้ทุกๆ 2 วัน ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกับหลายเมืองในมณฑลหูเป่ย รวมถึงเมืองเหวินโจวในมณฑลเจ้อเจียงก่อนหน้านี้ พร้อมสั่งให้อาคารพักอาศัยในเมืองไท่โจวลงทะเบียนผู้เข้าออก และห้ามให้ผู้เดินทางจากมณฑลหูเป่ยเข้าเช่าพักอาศัย
          ชาวจีน-เอเชียถูกคุกคาม
          สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานด้วยว่า จากกระแส ความวิตกกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้ส่งผลกระทบต่อชาวจีนและชาวเอเชียในต่างแดนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่อิตาลีมีรายงานนักท่องเที่ยวจีนถูกถ่มน้ำลายใส่ ถูกตะโกนด่าว่าตัวแพร่เชื้อ รวมถึงมีการเรียกร้องผ่านโซเชียลมีเดีย ให้แยกนักเรียนจากเพื่อนร่วมชั้นชาวจีน เช่นเดียวกับที่แคนาดา มีหญิงชาวจีนถูกวิจารณ์ว่านำไวรัสอู่ฮั่นมาปล่อย ขณะที่มาเลเซียมีการล่ารายชื่อเรียกร้องรัฐบาล ให้ระงับชาวจีนเข้าประเทศ และที่ออสเตรเลีย มีรายงานนักศึกษาชาวจีนถูกคุกคาม
          ติดเชื้อต่างแดนพุ่งไม่หยุด
          วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในต่างแดน โดยระบุว่าพบที่ประเทศไทย 25 ราย สิงคโปร์ 24 ราย ญี่ปุ่น 20 ราย ฮ่องกง 17 ราย (เสียชีวิต 1 ราย) เกาหลีใต้ 16 ราย ออสเตรเลีย 12 ราย เยอรมนี 12 ราย สหรัฐอเมริกา 11 ราย มาเลเซีย 10 ราย ไต้หวัน 10 ราย มาเก๊า 10 ราย เวียดนาม 9 ราย ฝรั่งเศส 6 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5 ราย แคนาดา 4 ราย อินเดีย 3 ราย ฟิลิปปินส์ 2 ราย (เสียชีวิต 1 ราย) อังกฤษ 2 ราย รัสเซีย 2 ราย อิตาลี 2 ราย ส่วนสวีเดน ฟินแลนด์ กัมพูชา เนปาล ศรีลังกา เบลเยียม สเปน อย่างละ 1 ราย ในทั้งหมดนี้เป็นการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มที่ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย มาเก๊า เวียดนาม ขณะที่เบลเยียมถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศ
          คนมาเลเซียติดครั้งแรก
          ด้านรัฐบาลมาเลเซียเปิดเผยด้วยว่า ถือเป็นครั้งแรกที่พลเมืองชาวมาเลเซียติดเชื้อ โดยจากการตรวจสอบพบว่าเป็นชายวัย 41 ปี ที่เดินทางไปสิงคโปร์และพบกับเพื่อนร่วมงานชาวจีน ก่อนแสดงอาการป่วยในวันที่ 29 ม.ค. หรือประมาณ 7 วันหลังกลับมาจากสิงคโปร์ ขณะที่ทางการมาเก๊าประกาศเตรียมระงับการให้บริการคาสิโนทุกแห่งเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังพบผู้ติดเชื้อในมาเก๊าเพิ่ม
          หวัดหมูระบาดไต้หวันดับอื้อ
          ขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของไต้หวัน เปิดเผยด้วยว่า แม้ว่ายังไม่พบผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเติมในไต้หวัน แต่ได้พบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมู สายพันธุ์ H1N1 ในหลายพื้นที่ โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 56 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 13 คน อายุตั้งแต่ 47-97 ปี จากอาการทางปอด
          สิงคโปร์พบติดคนสู่คน
          ต่อมากระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์รายงาน ยืนยันพบการติดเชื้อจากคนสู่คนเป็นครั้งแรกในสิงคโปร์ หลังตรวจพบว่าผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบเพิ่ม 6 คนนั้น มีอยู่ 4 คนที่ได้รับเชื้อในสิงคโปร์ แต่ยังไม่พบหลักฐานของการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในสิงคโปร์ ส่วนรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งกัก บริเวณนักท่องเที่ยวและลูกเรือรวม 3,711 คนบนเรือสำราญ “ไดมอนต์ ปรินเซสส์” ของบริษัทคาร์นิวัล เจแปน อยู่ระหว่างจอดแวะที่ท่าเรือโยโกฮามะ ให้อยู่แต่ในห้องพักบนเรือสำราญจนกว่าจะแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม หลังได้รับแจ้งจากทางการฮ่องกงว่า ผู้โดยสารชายวัย 80 ปี ที่ลงจากเรือที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ
          WHO เชื่อยังไม่หนัก
          ช่วงค่ำวันเดียวกัน นางซิลวี บริแอนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายรับมือภัยการติดเชื้อระดับโลกขององค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ออกแถลงการณ์ว่า ถึงการแพร่ระบาดจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในมณฑลหูเป่ยของจีน แต่ในภูมิภาคอื่นๆยังเป็นเพียงการแพร่ระบาดวงย่อย ที่เปรียบเสมือนกับน้ำกระเซ็นออกจากแก้ว ด้วยเหตุนี้จึงมองว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงระดับการระบาดกระจายทั่ว แต่อยู่ในระดับการระบาดเฉพาะถิ่น ที่เกิดขึ้นแบบกระจัดกระจายเป็นกลุ่มๆ
          แอร์เอเชียนำแพทย์ไปรับคนไทยจากอู่ฮั่น
          ทางด้านความเคลื่อนไหวของไทย วันเดียวกันนี้สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 51 พร้อมทีมแพทย์ เดินทางไปรับคนไทย 138 คนที่ติดค้างอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เดินทางกลับสู่มาตุภูมิ โดยเครื่องบินถึงสนามบินเมืองอู่ฮั่นในเวลา 11.35 น.แล้วบินกลับไทยมาลงที่สนามบินอู่ตะเภา มีกำหนด ถึงในเวลา 19.30 น.
          ทัพเรือจัดสถานที่เฝ้าสังเกตอาการ
          ก่อนที่เครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียนำคนไทยจากอู่ฮั่นเดินทางกลับถึงไทย ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์ที่โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ใช้เป็นที่ตั้งกองอำนวยการร่วมเฝ้าระวังสถานการณ์โรคติดต่อ มีการจัดเตรียมที่พักในอาคารรับรอง กองทัพเรือ ที่อ่าวดงตาล อ.สัตหีบ ไว้รองรับคนไทยที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่นเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ โดยตั้งแต่เช้าเจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือและจากกระทรวงสาธารณสุขได้มาจัดเตรียมสถานที่
          ล้อมรั้วสังกะสีเพื่อความปลอดภัย
          สำหรับบริเวณอาคารรับรอง มีการนำแผ่นสังกะสีมาทำเป็นรั้วสูง 2 เมตร ล้อมรอบอาคารในระยะห่างจากตัวอาคารประมาณ 100 เมตร โดยปิดทึบถึง 3 ชั้น มีเจ้าหน้าที่ทหารเรือยืนเฝ้าทุกจุดรอบบริเวณ ป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าออกอย่างเด็ดขาด ส่วนที่สโมสรสัญญาบัตรของโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ที่อยู่ห่างจากอาคารรับรองไปประมาณ 1 กม. ถูกจัดตั้งเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การนำคนไทยกลับสู่มาตุภูมิ ระหว่างวันที่ 4-28 ก.พ. ภายในจะเป็นสถานที่เยี่ยมญาติ โดยญาติที่มาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตพบตัว แต่ให้พูดคุยผ่านวิดีโอคอลกับผู้ถูกสังเกตอาการ และจะมีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนวันละ 2 เวลา คือ 10.00 น. และ 19.00 น.ของทุกวัน
          จัดรถบัสรับจากอู่ตะเภาสู่ที่พัก
          ส่วนที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา มีการเตรียมความพร้อมด้านยานพาหนะในการลำเลียงคนไทยที่เดินทางจากเมืองอู่ฮั่น โดยใช้รถบัสของกองทัพเรือ 2 คัน รถตู้ 3 คันในการนำคนไทยทั้ง 138 คน พร้อมกัปตันเครื่องบิน เจ้าหน้าที่สายการบินและทีมแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ร่วมเดินทางไปกับสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบินนี้ไปอาคารรับรอง กองทัพเรือ อ่าวดงตาล และนำคนไทยที่ผ่านการคัดกรองเรียบร้อย ตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ไปส่งที่อาคารรับรองดังกล่าว
          ยันพร้อมดูแลคนไทยจากอู่ฮั่น
          พล .ร.อ. สิทธิพร มาศเกษม เสนาธิการทหารเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือมีความพร้อมเต็มที่ สามารถให้ความมั่นใจกับผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นและญาติพี่น้อง ตลอดจนประชาชนในพื้นที่สัตหีบว่า กองทัพเรือมีมาตรการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข มีการควบคุมการแพร่กระจาย และการดูแลคนไทยที่เดินทางกลับจากอู่ฮั่นกลุ่มนี้ มีการวางแผนทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ซักซ้อมทุกอย่าง การคัดกรอง เราได้ทำมาตั้งแต่ต้นทางแล้ว แล้วมาคัดกรองอีกครั้งในไทย หากพบมีไข้ก็จะนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ใครไม่มีไข้ก็จะนำมาที่อาคารรับรองที่อ่าวดงตาล บุคลากรและยานพาหนะที่ใช้ในการขนย้าย ต้องทำความสะอาดและตรวจทั้งหมด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และต้องรอ 3 วันถึงจะอนุญาตให้ญาติติดต่อกับผู้ถูกเฝ้าสังเกตอาการได้
          ทำความสะอาดขั้นสูงสุดทันทีหลังถึงไทย
          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับเครื่องบินของสายการบิน เที่ยวบินแอร์เอเชีย FD571 ที่เดินทางไปรับคนไทยจากอู่ฮั่น และได้รับการชื่นชมว่า เป็นไฟลท์ “มนุษยธรรม” ภายหลังลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาแล้ว สายการบินแอร์เอเชียจะมีมาตรการและขั้นตอนการทำความสะอาดเครื่องบินลำดังกล่าวทันที เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจสูงสุด ตามมาตรฐานสากล โดยพนักงานทุกคน ที่มีหน้าที่ทำความสะอาดเครื่องจะสวมชุดป้องกันเต็มรูปแบบ ทำความสะอาดเครื่องบิน เริ่มตั้งแต่พ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อภายในห้องโดยสารและพื้นที่ต่างๆในเครื่องบินโดยละเอียด แล้วปิดเครื่องเพื่ออบฆ่าเชื้ออีก 30 นาที หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีคุณภาพสูงสุด รองรับการฆ่าเชื้อไวรัสอู่ฮั่น เช็ดทำความสะอาดในพื้นที่ต่างๆ ทุกซอกทุกมุมในห้องโดยสาร ทั้งเบาะที่นั่ง พนักวางแขน ห้องน้ำ จุดสัมผัสต่างๆ รวมถึงทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในรถบัสรับส่งผู้โดยสารด้วย
          เปลี่ยนเครื่องกรองอากาศทั้งลำ
          ทั้งนี้ เครื่องบินลำที่รับคนไทยจากอู่ฮั่นกลับบ้านครั้งนี้ สายการบินแอร์เอเชียได้เพิ่มมาตรการเกี่ยวกับระบบกรองอากาศในเครื่อง โดยจะเปลี่ยน HEPA FILTER ใหม่ทันที โดย HEPA FILTER ถือเป็นระบบกรองอากาศที่มีอยู่ในเครื่องบินแอร์เอเชียทุกลำและมีมาตรฐานกรองอากาศ ฝุ่นและเชื้อโรคที่มีอนุภาคเล็กกว่า 0.1-0.3 ไมครอน ได้มากกว่าร้อยละ 99.99 เพื่อให้มั่นใจสูงสุดในมาตรการป้องกันไวรัสอู่ฮั่น ทั้งนี้ มาตรการทำความสะอาดและป้องกันเชื้อโรคต่างๆ สายการบินแอร์เอเชียยังดำเนินการทุกลำและทุกเที่ยวบินที่เข้าออกประเทศจีนขอให้ผู้โดยสารทุกคนมั่นใจ
          นักบิน-ลูกเรือ อาสาไฟลท์ “มนุษยธรรม”
          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับนักบินและลูกเรือที่ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องบินในไฟลท์ “มนุษยธรรม” ไฟลท์นี้ เมื่อพนักงานทราบว่าจะมีเที่ยวบินไปรับคนไทยจากอู่ฮั่น หลายคนอาสาเข้ามาทำหน้าที่จำนวนมาก เพราะลูกเรือแอร์เอเชียมองว่าเป็นหน้าที่คนไทยที่ต้องช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ส่วนเรื่องที่ว่านักบินและลูกเรือเดินทางไปจีนครั้งนี้จะได้รับการตอบแทนอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ฝ่ายบริหารระดับสูงเผยว่า ยังไม่มีนโยบายอะไรออกมา เพราะการทำเพื่อคนส่วนรวมเป็นเรื่องที่พนักงานแอร์เอเชียทุกคนต้องร่วมกันช่วยและปฏิบัติร่วมกัน ส่วนรายชื่อนักบินและลูกเรือสายการบินไม่สามารถเปิดเผยได้
          อนุทินแถลงกลับมาแค่ 138 คน
          ที่ รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ เมื่อเวลา 20.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. สาธารณสุขและทีมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง แถลงถึงการเตรียมรับคนไทยที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่นกับเที่ยวบินของสายการบินแอร์เอเชีย จำนวน 138 คน ที่ลงจอดยังสนามบินอู่ตะเภาในเวลาประมาณ 20.40 น.
          นายอนุทินกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งให้ไปรับคนไทยกลับมาตุภูมิให้เร็วที่สุดทั้ง 138 คน ที่กลับมาไม่ใช่ผู้ป่วย แต่เป็นผู้ที่ร่างกายปกติ แข็งแรง เดิมจะมีคนไทยกลับมารวม 141 คน แต่เนื่องจากมีคนไทย 2 ราย ที่มีไข้สูงเกินเกณฑ์ 37.3 องศาเซลเซียส ที่กำหนดไว้ คือ 37.4 กับ 37.5 องศา จึงต้องอยู่ที่จีนอีก 14 วัน เพราะในสถานการณ์แบบนี้จีนตั้งเกณฑ์ไว้ให้ไม่เกิน 37.3 องศา จึงจำเป็นต้องทำตามระเบียบของเขา แต่ไม่ต้องกังวล เพราะคนไทยที่อยู่ที่จีนมีเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยดูแลอยู่ ส่วนอีกคนวีซ่าขาด 7 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องไปช่วยให้กลับมาได้เร็วที่สุด
          ในที่สุดเครื่องบินแอร์เอเชียที่นำ138คนไทยก็กลับมาถึงสนามบินอู่ตะเภาเมื่อเวลาใกล้3ทุ่มเป็นที่เรียบร้อย
          อจ.โล่ง 8 นศ.เทคนิคปลอดภัย
          ที่แผนกโลจิสติกส์ วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี เที่ยงวันเดียวกัน น.ส.สุภาภรณ์ ราชจินดา อาจารย์ที่ปรึกษานักศึกษาชั้น ปวส.1 แผนกวิชาโลจิสติกส์ เปิดเผยว่าขณะนี้อาจารย์และผู้ปกครองของนักศึกษา 8 คน ที่เดินทางไปเรียนในสถาบันเทคโนโลยีการต่อเรืออู่ฮั่น เมืองอู่ฮั่น จะได้พบหน้านักศึกษาทั้งหมด ช่วงเช้าได้พูดคุยกับเด็กทุกคนมีความกังวลอยู่บ้าง เพราะต้องผ่านด่านคัดกรองของทางการจีน แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงดี เมื่อกลับมาถึงไทย เด็กต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดเป็นเวลา 14 วัน เมื่อครบกำหนดวิทยาลัยจะไปรับตัวเด็กทันที รู้สึกดีใจที่ทุกคนปลอดภัยสำหรับนักศึกษาทั้ง 8 คน เป็นรุ่นแรกที่ไปเรียนในอู่ฮั่นตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.62 มีกำหนดกลับในวันที่ 20 ก.ค.
          พ่อดีใจคุยกับลูกก่อนขึ้นเครื่อง
          ด้านบิดา 1 ในนักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ก่อนออกเดินทางได้คุยกับลูกชายนิดหน่อย เนื่องจากความไม่สะดวก ก็รู้สึกดีใจมากที่สุด และขอขอบคุณรัฐบาลไทย รัฐบาลจีน สถานฑูตไทยในประเทศจีน และวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี รวมถึงอาจารย์ที่ปรึกษา สายการบินแอร์เอเชีย และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกันนำลูกชายเพื่อนนักศึกษาและคนไทยกลับประเทศ ตอนนี้รู้สึกหายกังวลทุกอย่าง และรอวันเดินทางไปรับกลับบ้านต่อไป
          คุมเข้มคัดกรองด่านช่องเม็ก
          วันเดียวกัน นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผวจ.อุบลราชธานี ลงพื้นที่ติดตามการคัดกรองหาเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ที่ด่านชายแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้บริการคัดกรองตรวจหาเชื้อ ตรวจห้องคัดแยกผู้ป่วยตลอดทั้งวัน พบว่าช่วงนี้มีชาวต่างชาติผ่านชายแดนไทยลาว 500 คนต่อวันในจำนวนนี้เป็นชาวจีน 5-8 คนต่อวัน ยังไม่พบผู้ต้องสงสัยที่มีเชื้อไวรัส นายสฤษดิ์ เผยว่า จังหวัดได้คุมเข้มการตรวจเชื้อไวรัสอู่ฮั่นตามจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าชายแดนไทยลาวและไทย-กัมพูชาอย่างเข้มงวดทุกจุด มอบให้นายอำเภอตรวจติดตามและรายงานผลอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันยังสั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน และ อสม.เตือนประชาชนผ่านหอกระจายข่าวหมู่บ้านในการดูแลตนเองห่างไกลเชื้อไวรัสอู่ฮั่นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ในจังหวัดไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น
          สั่งประกบจีนเกือบ 2 หมื่น
          ที่ท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยาน เชียงใหม่ จากนั้นร่วมกับนายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงถึงการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสอู่ฮั่นว่า ช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาถึงเดือน ม.ค. มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะจากพื้นที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอู่ฮั่นทั้งหมด 40,000 กว่าคน ขณะนี้ออกนอกประเทศไปแล้ว 36,000 กว่าคนคงเหลืออยู่ในประเทศอีก 12,000 คนเศษ นักท่องเที่ยวจากเมืองกวางโจวเดินทางเข้ามา 170,000 คน ออกนอกประเทศไปแล้ว 150,000 คน คงเหลือทั้งสองเมืองคืออู่ฮั่นและกวางโจวทั้งหมด 18,441 คน สตม.ไม่ได้นิ่งนอนใจกำชับให้ตำรวจเฝ้าดูแลกลุ่มคนจีนเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
          นศ.จีนติดเชื้อ-อาการดีขึ้น
          ด้าน นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีนักศึกษาชาวจีนที่ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นได้มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 1 รายว่า ขณะนี้อาการดีขึ้นเป็นลำดับแล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ยังคงเหลือพำนักอยู่ประเทศไทยหากพวกเขาอยู่เกินกำหนด 14 วันแล้วถือว่าเขาไม่ได้รับเชื้อไวรัสแล้วก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนปกติได้
          แหลมฉบังตรวจเรือทุกลำ
          ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คมนาคม นายบัณฑิต สาครวิศวะ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ติดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอู่ฮั่น นายบัณฑิตเผยว่า ได้ขอกำลังคนจากกองควบคุมโรค เพื่อตรวจเรือให้ครบทุกลำทุกสัญชาติ จากเดิมที่เน้นเฉพาะท่าเรือที่มีคนจีนเดินทางมา และเรือที่จะเข้าเทียบท่าจะต้องรายงานประวัติการเดินทาง หากพบว่ามีประวัติเดินทางเข้าประเทศจีนก็จะทำการตรวจเป็นพิเศษ ส่วนขั้นตอนการคัดกรองจะใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบยิงหน้าผากเป็นหลัก หากพบผู้ป่วยที่มีไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ร่วมกับมีประวัติในช่วง 14 วันก่อนป่วย คือเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดก็จะทำการคัดกรอง เพื่อนำไปไว้ในสถานกักกันโรคต่อไป
          เผยไทยพยายามควบคุมเชื้อไม่ให้แพร่
          ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 ก.พ. นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึง กรณีศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นรายที่ 16 ของเกาหลีใต้เป็นหญิง วัย 42 ปี กลับจากไทย เมื่อวันที่ 19 ม.ค. แล้วเริ่มมีอาการหนาวสั่นในวันที่ 25 ม.ค. จากนั้นไปรับการตรวจสอบวันที่ 3 ก.พ. ผลยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ขณะนี้กำลังประสานกับเกาหลีใต้ขอข้อมูลมาตรวจสอบว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากพื้นที่ใด ประเทศไทยอยู่ในระยะที่มีการแพร่เชื้อในระดับวงจำกัด คนจีนที่อยู่ในไทยสามารถป่วยได้ ยังสามารถแพร่เชื้อให้กับคนไทยได้ ทำให้โอกาสที่นักท่องเที่ยวด้วยกันจะติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวด้วยกันเป็นไปได้ ขณะนี้ไทยพยายามควบคุม ค้นหาผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด เพื่อนำมาตรวจร่างกายป้องกันการแพร่เชื้อต่อไป
          ให้ อสม.ผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า
          ด้าน นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมคอนเฟอเรนซ์กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ว่า อยากให้ทำความสะอาด 7 พื้นที่ดูแลพิเศษ ได้แก่ สถานที่ราชการ รถขนส่งสาธารณะทั้งรถแท็กซี่ รถเมล์ ขสมก. รถตู้ประจำทาง รถไฟ รถไฟฟ้า ร้านอาหาร โรงแรม และปั๊มน้ำมัน เน้นทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม จัดจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือและหน้ากากอนามัย ให้ความรู้การทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี ให้ทุกพื้นที่ช่วยระดม อสม. ผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าแจกจ่ายเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อช่วยลดปริมาณขยะพิษ ลดการใช้หน้ากากอนามัยกระดาษได้กว่า 200,000 ชิ้น/วัน ทั้งนี้หน้ากากอนามัยแบบผ้า อสม. จะมีกำลังผลิตได้กว่าล้านชิ้นต่อวัน
          ไทยติดเชื้อรวม 25 รายแล้ว
          ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่กรมควบคุมโรค นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะแพทย์ แถลงว่าล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นเพิ่มอีก 6 ราย เป็นชาวไทย 4 ราย ในจำนวนนี้ 2 ราย เป็นสามีภรรยาที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาแล้วป่วย อีก 2 รายเป็นคนขับรถรับจ้างไม่ประจำทางรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ป่วย และอีก 2 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ในจำนวนผู้ป่วย 6 รายมี 5 ราย อาการดีขึ้น ส่วนโชเฟอร์รถรับจ้างได้รับตัวผู้ป่วยมาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มายังสถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันที่ 3 ก.พ. สาเหตุจากขับรถรับกรุ๊ปทัวร์ชาวจีน วันแรกผู้ป่วยรายนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อตรวจร่างกายพบเป็นโรควัณโรคด้วย สรุปไทยมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 25 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 17 ราย กลับบ้านแล้ว 8 ราย
          อย่าด่วนสรุปติดเชื้อจากไทย
          ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหล

 pageview  1205014    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved