Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 03/12/2562 ]
สิงห์บุรี ตัดต้นทางฟันผุวัยเยาว์ ดันโครงการโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม

สิงห์บุรี นับเป็นจังหวัดแนวหน้าและมีความเข้มข้นมากในเรื่องของการเป็นโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม  โดยคุณครูในแต่ละโรงเรียนจะมีนวัตกรรมมาช่วยทำให้เด็ก เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านการบริโภค จึงเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับมอบป้ายโครงการโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม และการได้รับป้ายนี้เป็นเหมือนการประกาศตัวว่า ปลอดน้ำอัดลมแล้ว จะมีน้ำอัดลมในโรงเรียนอีกไม่ได้ ซึ่งที่ จ.สิงห์บุรีได้ทำต่อเนื่องมาแล้วกว่า 10 ปี และทราบว่า นอกจากน้ำอัดลมในโรงเรียนแล้วได้ขยายไปสู่ร้านเบเกอรี่ และ ร้านกาแฟอ่อนหวานอีกด้วย
          ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผอ.การสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กล่าวว่าโครงการโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2551 โดยเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน ได้เก็บข้อมูลพบว่า เด็กไทยได้รับความหวานจากการดื่มน้ำอัดลม เฉลี่ย 10 ช้อนชาต่อวัน พบว่า เด็กไทยดื่มน้ำอัดลมเฉลี่ย 1 ส่วนต่อวัน หรือ 1 แก้วต่อวัน หรือ ประมาณ 250 ซีซี จากปริมาณดังกล่าวเมื่อคำนวณออกมาแล้วมีปริมาณน้ำตาลคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 10 ช้อนชา ขณะที่ควรบริโภคน้ำตาลอยู่ที่ปริมาณ 6 ช้อนชาต่อวัน โดยเป็นการบริโภคที่ได้น้ำตาลจากทุกแหล่ง
          ผลสำรวจที่ได้ ทำให้ทราบว่าแค่ดื่มน้ำอัดลมแก้วเดียว ก็ได้ปริมาณน้ำตาลมากเกินกว่าที่กำหนด และยังไม่นับรวมการได้น้ำตาลหรือความหวานจากการบริโภคอาหารส่วนอื่น ๆ อีกต่อวัน ซึ่งเป็นการได้รับน้ำตาลเกินกว่าพิกัดมากขึ้นไปอีก
          จากข้อมูลดังกล่าว จึงได้เกิดแนวคิด ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล โดยเริ่มต้นที่น้ำอัดลมก่อน เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มยอดนิยม ถ้าสามารถกำหนดให้เข้าถึงได้น้อย จะช่วยควบคุมการเข้าถึงปริมาณน้ำตาลที่เด็กบริโภคได้
          "ภาวะกรดจากน้ำตาลจากสารคาร์บอ เนตในน้ำอัดลมทำให้เด็กฟันผุ และเมื่อสำรวจจากโรงเรียนในขณะนั้น  พบว่า โรงเรียนขนาดเล็กในสังกัดของ สพฐ. ประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ขายน้ำอัดลมในโรงเรียนแล้ว จึงได้รณรงค์และผลักดันเพื่อให้เกิดเป็นนโยบาย จนในที่สุด สพฐ.ได้ประกาศให้ ทุกโรงเรียนทั่วประเทศห้ามขายน้ำอัดลม ในโรงเรียน พร้อมกับสั่งให้มีการควบคุม พวกขนมกรุบกรอบ ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพด้วย" ทพญ.ปิยะดา กล่าว
          ด้าน นายกิตติชัย ศรีประเสริฐผอ.โรงเรียนวัดสังฆราชาวาส ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี หนึ่งในโรงเรียนที่เข้า ร่วมโครงการโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม และ โรงอาหารอ่อนหวาน กล่าวว่า เมื่อปี 2556 โรงเรียนได้รับการชักชวนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ให้เข้าร่วมโครงการ ดังกล่าว ตนได้ตอบรับทันที เพราะเห็นว่ามีประโยชน์ต่อเด็กอย่างมาก จากนั้นทางโรงเรียนจึงไม่ให้ขายน้ำอัดลมในโรงเรียนอีกเลย พร้อมกับประสานความร่วมมือไปยังภาคส่วนของประชาชน พ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของรายรอบโรงเรียนด้วย เพราะเกรงว่า ถ้าเด็กไม่ซื้อในโรงเรียนก็จะไปซื้อนอกโรงเรียน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงกล้าพูดได้ว่า โรงเรียนวัดสังฆราชาวาสแห่งนี้ เป็นโรงเรียนปลอดน้ำอัดลมทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน
          "หากมีผู้ปกครองท่านไหน เอาน้ำอัดลมใส่กระบอกให้เด็กมาดื่มด้วย ผมจะให้เด็กเอากลับคืนไปไม่ให้ดื่มเลย หากเป็นไปได้ขอให้ผู้ปกครองงดให้เด็กดื่มน้ำอัดลมที่บ้านด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือในระดับหนึ่งด้วย" ผอ.กิตติชัย กล่าว.

 pageview  1204974    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved