Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 23/08/2562 ]
ตาแดง โรคมาแรงหน้าฝน

  จากรายงานกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงนี้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย จะมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนัก ทำให้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แสดงความห่วงใยถึงโรค และภัยสุขภาพที่ประชาชนต้องระมัดระวังในช่วงน้ำมากใน 3 กลุ่มโรค อันได้แก่ 1. กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ คือ โรคไข้หวัด ใหญ่และโรคปอดบวม 2. กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ คือ โรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง และ 3. กลุ่มโรคที่มักเกิด ตามมากับน้ำท่วม คือ โรคไข้ฉี่หนู โรคตาแดง และโรคไข้เลือดออก ส่วนภัยสุขภาพที่ต้องระวัง คือ สัตว์แมลงมีพิษกัด/ต่อย เช่น งู แมงป่อง ตะขาบ เป็นต้น  รวมถึงต้องระวังการจมน้ำด้วย
          หนึ่งในกลุ่มโรคที่ต้องระมัดระวังซึ่งมาพร้อมกับหน้าฝน ที่ละเลยไม่ได้ก็คือ "โรคเยื่อบุตาอักเสบ" หรือ "โรคตาแดง" (Conjunctivitis) หลายคนมองว่าเป็นอาการเล็กๆ น้อยๆ และปล่อยให้หายเองโดยไม่ได้ดูแลป้องกันอย่างถูกวิธี ทำให้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงเป็นผู้แพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่นได้ ดังนั้น จึงควรมาทำความรู้จักโรคตาแดงกันให้มากขึ้น อย่างน้อยก็เพื่อทราบวิธีการปฏิบัติตัว กรณีที่มีความจำเป็นอาจเป็นผู้ป่วย อาการจะได้ทุเลาเร็วขึ้น หรือหากยังไม่มีอาการ ก็จะได้ทราบวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง
          "โรคตาแดง" เป็นการอักเสบของชั้นเนื้อเยื่อใสที่คลุมอยู่บนตาขาว ซึ่งจะมีการเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนหรือแดงจัด จากการอักเสบและเส้นเลือดฝอยขยายตัว ซึ่งการอักเสบดังกล่าวเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ติดเชื้อ ภูมิแพ้ ถูกสารเคมี เป็นต้น ชนิดที่พบได้บ่อยและติดต่อกันได้ง่ายมาก คือ โรคเยื่อบุตาอักเสบจาก เชื้อไวรัส อดีโนไวรัส (Adenovirus) ส่วนรองลงมาคือ เฮอร์ปีสไวรัส (Herpes virus) เอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) และคอกแซกกี (Coxsackie) ติดต่อทางน้ำตา ผ่านทางการสัมผัส การใช้ของส่วนตัวร่วมกันกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา เครื่องสำอาง, หรือจากการที่พาหะโรค เช่น แมลงหวี่ แมลงวัน นำมาสู่ตาเรา สาเหตุของโรคตาแดง ไม่ติดต่อทางการมองหรือทางอากาศ หรือรับประทานอาหารร่วมกัน
          นอกจากนี้ การเล่นน้ำในที่ท่วมขังและสกปรก อาจป่วยจากการถูกน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตาซึ่งจะเกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูฝน ทำให้มีผู้ป่วยโดยไม่รู้ตัวและมักเกิดการระบาดในชุมชน เช่น โรงเรียน, สถานรับเลี้ยงเด็ก, สถานที่ทำงาน, สระว่ายน้ำ เป็นต้น
          วิธีสังเกตอาการของโรคตาแดง ทำได้ง่ายเริ่มจากมีเยื่อตาสีแดง น้ำตาไหล ปวดตา แสบตา แพ้แสง เคืองตา คันตา มีขี้ตา สีของขี้ตาจะแตกต่างกันไปตามสาหตุ เช่น ขี้ตาใส สีขาว หรือขุ่น มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือโรคภูมิแพ้ ในขณะที่ขี้ตาสีเขียวหรือเหลือง มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย บางรายอาจพบมีเยื่อตาบวมหรือจุดเลือดออกที่ใต้เยื่อตา อาจเป็นข้างเดียว หรือมีอาการพร้อมกันทั้งสองข้าง หรือเป็นข้างใดข้างหนึ่งนำมาก่อน
          อาการเยื่อบุตาอักเสบจะแสดงอาการประมาณ 1-2 วัน หลังจากมีเชื้อโรคมาสัมผัสตา จะเริ่มมีอาการเยื่อบุตาขาว น้ำตาไหลเจ็บตา มักจะมีขี้ตามากร่วมด้วย อาจเป็นเมือกใสหรือมีสีเหลืองอ่อน ผู้ที่เป็นตาแดงมักเป็นกับตาข้างหนึ่งก่อน ต่อมาอีก 2-3 วัน อาจลุกลามเป็นกับตาอีกข้างหนึ่งได้ จะเป็นมากในช่วง 4-7 วันแรก
          โดยทั่วไปอาการของโรคตาแดงสามารถหายได้เองภายใน 7-14 วัน และไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แต่แพทย์จะใช้วิธีการรักษาตามอาการ แนะนำให้หยอดตาเพื่อลดอาการระคายเคือง โรคตาแดงมักเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายรุนแรง ไม่ทำให้การมองเห็นลดลง แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มป่วย อาจมีการลุกลาม หากรู้สึกมีอาการเคืองตา มีขี้ตามากกว่าปกติ หรือมีอาการปวดตา หรือตามัวลงมากผิดปกติ อาจต้องคิดถึงโรคตาชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น โรคต้อหิน โรคม่านตาอักเสบ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว
          สำหรับผู้ป่วยโรคตาแดงสิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรพบแพทย์ หยุดเรียน หรือหยุดงานรักษาตัวอยู่ที่บ้านอย่างน้อย 3 วัน เพื่อไม่ให้โรคตาแดงลุกลามหรือติดต่อสู่ผู้อื่น หากใช้กระดาษทิชชู่ หรือสำลีเช็ดขี้ตา เช็ดหน้าแล้ว ควรทิ้งในถังขยะที่มิดชิด ควรใส่แว่นกันแดดเพื่อ ลดการระคายเคืองจากแสง งดใส่คอนแทคเลนส์จนกว่าตาจะหายอักเสบ พักผ่อนให้เต็มที่ พักการใช้สายตา และล้างมือให้สะอาดหลังจับบริเวณใบหน้าและตาทุกครั้ง
          เมื่อเราไม่รู้ว่าเชื้อโรคจะแพร่มาเมื่อใด การป้องกันตัวเองจากโรคตาแดงก็ทำให้เลี่ยงภาวะเสี่ยง ได้แก่ 1. หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดก่อนนำมือสัมผัสหรือขยี้ตา 2. ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกับคนที่เป็นตาแดง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ล้างมือหลังสัมผัส ผู้ป่วย 3. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ เครื่องสำอาง แว่นตา 4. ไม่ใช้มือแคะ แกะ เกาใบหน้าและไม่ควรใช้มือขยี้ตา 5. หากฝุ่นละออง หรือน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที รีบทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งทันที  6. อย่าปล่อยให้แมลงหวี่ หรือแมลงวันตอมตา 7. ควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าเช็ดหน้า ให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ใช้สิ่งของเหล่านี้ร่วมกับผู้อื่น รวมถึงหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในช่วงที่มีโรคตาแดงระบาด
          สำหรับผู้ที่มีอาการโรคตาแดง ควรงดการใช้ของสาธารณะหรือไปในที่สาธารณะจนกว่าอาการจะหาย เช่น การเดินห้างสรรพสินค้า การใช้รถโดยสารประจำทาง การลงสระว่ายน้ำ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ และไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่น ควรล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการหยอดยาเสมอ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกลุ่มโรคที่มาพร้อมหน้าฝน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
          ผู้ป่วยโรคตาแดง สิ่งสำคัญที่สุดควรพบแพทย์ หยุดเรียนหรือหยุดงานรักษาตัวอยู่ที่บ้านอย่างน้อย 3 วัน เพื่อไม่ให้โรคตาแดงลุกลามหรือติดต่อสู่ผู้อื่น

 pageview  1204269    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved