กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียรายงานเมื่อวันอาทิตย์ ว่าสถิติผู้ป่วยจากโรคไข้เลือดออกเดงกีในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. จนถึงวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมาอยู่ที่เกือบ 80,000 คน และจากจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว 113 คน  มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อเทียบกับสถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงครั้งก่อนหน้าเมื่อปี 2558 พบว่าตลอดทั้งปีนั้นมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการอยู่ที่ 120,836 คน และเสียชีวิต 336 คน
          ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียประกาศ "พื้นที่สีแดง" ที่หมายถึงมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง 251 แห่ง ใน 9 รัฐ และพื้นที่เสี่ยงส่วนใหญ่เป็นอพาร์ตเมนต์และชุมชนแออัด ได้แก่ รัฐสลังงอร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ รัฐยะโฮร์ รัฐกลันตัน รัฐซาบาห์ รัฐปีนัง รัฐซาราวัก รัฐเนกรีเซมบีลัน และรัฐปะหัง ขณะเดียวกันมีการประเมินด้วยว่า หากหน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชนยังขาดการจัดการและความร่วมมือกันอย่างจริงจังในการควบคุมสถานการณ์ จำนวนผู้ป่วยจากโรคไข้เลือดออกเดงกีในประเทศอาจเพิ่มเป็นถึง 150,000 คนภายในสิ้นปีนี้
          สำหรับการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้เลือดออกเดงกีในมาเลเซีย ซึ่งเป็นโรคระบาดเขตร้อนที่มียุงลายเป็นพาหะ เกิดขึ้น 1 สัปดาห์ หลังกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสเดงกี หรือไข้เลือดออกเดงกี เป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับประเทศ" โดยสถิติอย่างเป็นทางการของรัฐบาลมะนิลาระบุจำนวนผู้ป่วยระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 ก.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 146,062 คน เพิ่มขึ้นมากถึง 98% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และจากจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว 662 คน และกรุงมะนิลาเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงด้วย.