Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 02/04/2562 ]
มะเร็งลำไส้

ปัจจุบันมะเร็งลำไส้ใหญ่พบมากเป็นอันดับ 3 ของโลก และจากสถิติล่าสุดพบว่า ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศไทยพบมากขึ้นทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ละเลย การตรวจคัดกรองโรคนี้
          ศ.พิเศษ นพ.ธีรวุฒิคูหะเปรมะ ผู้อำนวยการ รพ.วัฒโนสถ ให้ข้อมูลว่า สาเหตุของมะเร็งลำไส้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นมะเร็งลำไส้ ได้แก่ กินเนื้อสัตว์ติดมันและเนื้อแดงในปริมาณมาก กินเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง (ไส้กรอก เบคอน แฮม เป็นต้น) ในปริมาณมาก กินผักผลไม้น้อยหรือไม่กินเลย ขาดการออกกำลังกาย โรคอ้วน สูบบุหรี่จัด ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ พันธุกรรม หากเป็นผู้ที่มีประวัติครอบครัวมีมะเร็งลำไส้ใหญ่ ติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่ รวมทั้งมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมบางชนิด จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้
          อาการของโรค ในระยะแรกอาจจะไม่มีอาการแสดงที่จำเพาะ แต่มีอาการบ่งบอกว่าอาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ ได้แก่ 1.ขับถ่ายผิดปกติ ท้องผูกสลับท้องเสีย มีเลือดออกทางทวาร อุจจาระปนเลือด หรืออุจจาระมีลักษณะเปลี่ยนไปเป็นเส้นเล็กลง 2.ปวดท้อง โดยลักษณะการปวดขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนและตำแหน่งที่พบ เช่น ถ้าก้อนโตด้านหน้าจะปวดเจ็บคล้ายคนเป็นไส้ติ่ง ถ้ามีก้อนบริเวณลำไส้ใหญ่ด้านซ้ายจะมีอาการลำไส้อุดตัน ปวดท้องคล้ายลำไส้ถูกบิด เป็นต้น
          การตรวจวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถทำได้โดยส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทวารหนัก เอกซเรย์คอมพิวเตอร์โดยการสวนแป้งแบเรียม ตรวจเลือดเพื่อค้นหามะเร็งลำไส้ใหญ่ และต้องตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น เอกซเรย์ทรวงอก เป็นต้น ส่วนการรักษาโรคนี้ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค
          ทั้งนี้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่คือ คนที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ฉะนั้น แนะนำให้ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทวารหนักเป็นประจำทุก 5-10 ปี ตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป จะช่วยให้สามารถรับมือได้ทันท่วงที หากมีคนในครอบครัวเคยป่วยด้วยโรคนี้ แนะนำให้ตรวจตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป
          อีกวิธีที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ คือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินอาหาร พยายามหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารที่ผ่านกรรมวิธีแปรรูป ลดหรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินผักและผลไม้ และพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวันร่วมกับการทำจิตใจให้บริสุทธิ์

 pageview  1205149    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved