Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 06/02/2562 ]
สาเหตุของ PM2.5 เรียนรู้ เข้าใจ ป้องกัน ไม่ตื่นตระหนก

  ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ที่สูงเกิดมาตรฐาน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และในบางพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ เอง ได้เผชิญปัญหานี้เป็นเวลากว่า 1 เดือน และคาดว่าจะยาวนานจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ แล้วสาเหตุของ PM2.5 นั้นมาจากไหน? เราจะแก้ไขหรือรับมือกับปัญหานี้ ได้อย่างไร?
          รศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมัน (กปน.) ให้ความรู้ว่าปัญหา PM2.5 ที่กำลังเผชิญกันอยู่นี้ เกิดจาก 4 สาเหตุ คือ 1.แหล่งกำเนิด 2.สภาพอากาศ 3.สภาพพื้นที่ และ 4.พื้นที่สีเขียว 
          (1) แหล่งกำเนิด  4 แหล่ง ที่ก่อให้เกิด PM2.5 
          การจราจรมีสัดส่วน 40% ของแหล่งกำเนิดทั้งหมด โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ถือเป็นปัจจัยหลักเพราะรถติด รถที่ หยุดนิ่งอยู่กับที่หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ จะทำให้เกิด PM2.5 เป็นจำนวนมาก 
          การเผาไหม้ในที่โล่ง อาทิ เผาไร่ เผากระดาษ หรือแม้แต่การ เผาไหม้ทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อให้มลพิษข้ามแดน จากปัจจัยนี้ทำให้เกิด PM2.5 ไม่น้อยกว่า 30-40%
          ภาคประชาชน กิจกรรมในชีวิตประจำวันบางประเภทที่เกิด เผาไหม้ ไม่ว่าจะเป็น สูบบุหรี่ ปิ้งย่าง สำหรับในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่มีประชากรกว่า 15 ล้านคน กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ก็มีส่วนทำให้เกิด PM2.5 เช่นกัน 
          ภาคอุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อม โรงงานต่างๆ จะต้องมีระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ ก่อนจะปล่อยออกสู่ภายนอก องค์ประกอบที่จะทำให้เกิด PM2.5 อย่างซัลเฟอร์ออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน ที่เผาไม่สมบูรณ์ และความร้อน จึงเกิดขึ้นได้น้อย 
          (2) สภาพอากาศ "สภาวการณ์ผันกลับของอุณหภูมิ (Temperature Inversion)" ในฤดูหนาว ที่ชั้นความเย็นถูกกักอยู่ภายใต้ชั้นความร้อน แปลงสภาพเป็นฝาชี กักกั้นให้ฝุ่นไม่สามารถลอยสูงได้ 
          (3)สภาพพื้นที่ ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นแอ่งของกรุงเทพฯ ไม่เอื้อต่อการเจือจางมลพิษ ร่วมด้วยผังเมือง การวางตัว การก่อสร้างที่ทำให้การระบายอากาศไม่ดี
          (4)พื้นที่สีเขียว ตามองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุให้สัดส่วนพื้นที่สีเขียวต่อประชากร 1 คน คือ 9 ตร.ม. แต่สำหรับกรุงเทพฯ แล้ว กลับมีสัดส่วนพื้นที่สีเขียวไม่ถึง 3 ตร.ม. ต่อประชากร 1 คน น้อยกว่ามาตรฐานของ WHO ถึง 3 เท่า 
          รศ.ดร.พิสุทธิ์ กล่าวว่า การแก้ที่ต้นเหตุ แหล่งกำเนิด PM2.5 โดยเฉพาะการจราจร เป็นปัจจัยหลักของการเกิด PM2.5 ปัญหา รถติดที่สะสมเรื้อรังมานานของกรุงเทพฯ รวมถึงชนิดเชื้อเพลิงที่ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำมันดีเซลของไทยที่ยังต่ำกว่ามาตรฐานและ ก่อให้เกิดมลพิษ รวมถึงปัญหาทางสภาพพื้นที่ของกรุงเทพฯ ที่ต้องศึกษาความสามารถในการกระจายอากาศของเมือง เพิ่มเติม
          ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก แต่ต้องเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองให้ถูกต้อง อาทิ สวมหน้ากาก N95 ให้ถูกต้อง ดูแลความสะอาดของพัดลม เครื่องปรับอากาศ ปิดหน้าต่างให้มิดชิด งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือปลูกพืชที่ช่วยดูดซับฝุ่น อย่างพลูด่าง วาสนา หรือลิ้นมังกร ในบ้าน เป็นต้น รวมถึงทำความเข้าใจระหว่าง PM2.5 กับดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) นั้น ไม่ใช่ค่าเดียวกัน PM2.5 คือ ค่าความเข้มข้นของฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าเกณฑ์ความเข้มข้นของ PM2.5 เมื่อเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วน AQI นั้น เป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศที่ไม่มีหน่วยกำกับ ซึ่งวัดคุณภาพอากาศในช่วงเวลานั้นๆ และแสดงผลออกมาเป็นตัวเลขและสี 
          แนวทางในการแก้ไขทั้งหมดนี้ไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง แต่ประชาชนผู้อยู่ร่วมสังคม ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน เรียนรู้ เข้าใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่ออากาศดี สูดลมหายใจได้อย่างมั่นใจ ของทุกๆ คน

 pageview  1204514    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved