เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ผศ.นพ.ณวพล กาญจนารัณย์ อาจารย์ประจำภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงโรคทางเพศสัมพันธ์ที่มีผลต่อดวงตา ว่า การมีเพศสัมพันธ์ขอให้มีการป้องกันทุกครั้ง ด้วยการสวมถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเชื้อหลายตัวมีผลกระทบถึงดวงตาได้ โดยพบหลักๆ มี 4 ตัว คือ 1.เริม มีอยู่ 2 ชนิด คือ เริมที่ปากและเริมที่อวัยวะเพศ ซึ่งเชื้อเริมทั้ง 2 ชนิด เมื่อเกิดการติดต่อแล้วมีโอกาสขึ้นตาได้ทั้งสิ้น ซึ่งเชื้อจะไปตามกระแสเลือดส่งผลให้เกิดกระจกตาเป็นแผลได้ เกิดการอักเสบที่ม่านตา และจอประสาทตาอักเสบได้
          ผศ.นพ.ณวพลกล่าวว่า 2.เชื้อซิฟิลิส สามารถขึ้นสู่ดวงตาผ่านทางกระแสเลือดเช่นกัน โดยสามารถส่งผลให้เกิดตาอักเสบได้ทุกรูปแบบ ทั้งเยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ จอประสาทตาอักเสบ ขั้วประสาทตาอักเสบ เรียกว่าสามารถเกิดการอักเสบได้ทุกส่วนของดวงตา 3.โรคหนองในหรือเชื้อโกโนเรีย หากขึ้นตาแล้วจะทำให้เยื่อบุตาหรือตาขาวอักเสบ ซึ่งสมัยอดีตจะพบได้บ่อย หากแม่เป็นหนองใน เมื่อคลอดลูกจะพบทารกแรกเกิดมีอาการตาแดง ต้องให้การดูแลรักษาหยอดตาเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่เยื่อบุตา แต่ปัจจุบันการติดเชื้อทางนี้พบเห็นได้น้อยมาก
          ผศ.นพ.ณวพลกล่าวว่า 4.การติดเชื้อเอชไอวี เชื้อตัวนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบที่ดวงตาโดยตรง แต่หากไม่กินยาต้านไวรัสเอชไอวี จนภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอจะติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ ก็ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่ดวงตาได้ เช่น การติดเชื้อไซโตเมกาโลไวรัส (Cytomegalovirus) หรือโรคติดเชื้อ CMV ซึ่งส่งผลที่จอประสาทตาได้เช่นกัน แต่ปัจจุบันผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถกินยาต้านไวรัสได้ทันที ทำให้อุบัติการณ์การติดเชื้อ CMV น้อยลงเช่นกัน