"ประกายดิน" ได้รับข้อมูลนี้มาคราแรกยังไม่รู้ว่าจะนำเสนอหรือเปล่าต่อเมื่ออ่านเนื้อหาสาระจึงสรุปว่าต้องเผยแพร่
          เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดงานพัฒนาเด็กไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
          ใครมีลูกต้องพาไปดู เพื่อจะได้รู้ว่าจะเลี้ยงลูกอย่างไรให้แข่งขันได้ในเวทีอาเซียน
          เป็นเรื่องน่าตกใจมาก เมื่อกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลการสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญาของเด็กนักเรียนไทยพ.ศ.2554 พบว่าระดับสติปัญญาเฉลี่ยหรือ IQ ของเด็กนักเรียนอายุ6-15ปีทั่วประเทศเฉลี่ยเท่ากับ 98.59 (ค่าเฉลี่ย IQ ในเกณฑ์ปกติ 90-109)
          ซึ่งแม้จะอยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ก็ค่อนไปทางต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสถานการณ์ระดับสติปัญญาของเด็กในประเทศเอเชียหลายๆ ประเทศ เช่น ฮ่องกงสิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น
          อีกทั้งหากเปรียบเทียบกับประเทศที่มีฐานะเศรษฐกิจด้อยกว่าไทยแต่กลับให้ความสำคัญด้านการศึกษามากอย่างภูฏานก็ยังถือว่าสูงกว่าระดับสติปัญญาของเด็กไทย
          จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าสถานการณ์ไอคิวของเด็กไทยค่อนข้างน่าเป็นห่วงอย่างมากทีเดียวเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหลายๆ ประเทศ
          ทั้งนี้ อาจจะน่าเป็นกังวลเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อลองนับถอยหลังแล้วพบว่าจากนี้ไปจะเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งปีครึ่งเท่านั้นที่จะมีการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน เพื่อให้ประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ มีผลประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจร่วมกัน
          ดังนั้น เด็กและเยาวชนไทยซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศในภายภาคหน้า จึงต้องปรับตัวในทุกด้าน เพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการพัฒนาด้านสติปัญญาเท่านั้นที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากเด็กเหล่านี้โตขึ้นและพร้อมก้าวสู่การทำงาน ก็ต้องมีปัจจัยอื่นเพิ่มเข้ามาอย่างเลี่ยงไม่ได้
          เช่นเดียวกับที่การศึกษาวิจัยของนักจิตวิทยาต่างประเทศพบว่า ความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) เพียงอย่างเดียวไม่ใช่หลักประกันความสำเร็จและความสุขในชีวิต แต่สิ่งที่จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์ประสบความสำเร็จและอยู่ได้อย่างยั่งยืนนั้นต้องมีหลายองค์ประกอบเป็นตัวผลักดัน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องให้ครบทุกด้าน
          ซึ่งในวันที่ 2-4 สิงหาคม 2556 จะมีการจัดงานๆ หนึ่งชื่อว่า มหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น 2556 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี"ประกายดิน" อ่านข้อมูลแล้วคิดว่างานนี้น่าจะตอบโจทย์เด็กไทยได้เป็นอย่างดี
          โดยการจัดงานในปีนี้มุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ในการดำเนินชีวิตผ่านความฉลาด 8 ด้าน ควบคู่กับการเรียนรู้จากตำราเรียน ให้เด็กไทยพร้อมรับและสามารถขจัดปัญหาจนประสบความสำเร็จ สามารถก้าวไกลไปสู่สังคมประชาคมอาเซียน รวมไปถึงเป็นประชากรคุณภาพในส่วนอื่นๆ ในโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
          วิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด นนทบุรี ได้พูดถึงแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ว่า ต้องการเสริมศักยภาพในการเรียนของเด็ก เพื่อยกระดับไอคิวให้แก่เด็กนักเรียนในโรงเรียนซึ่งท้องถิ่นดูแลอยู่ โดยเริ่มตั้งแต่เด็กก่อนวัยเรียนเป็นอันดับแรก เพื่อให้สอดคล้องกับงานวิจัยหลายชิ้นที่ว่า สมองของเด็กจะพัฒนาถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในช่วงก่อนอายุ8 ขวบ ดังนั้นการเรียนรู้จะสามารถทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลานี้
          และไม่เพียงการยกระดับในเรื่องของไอคิวเท่านั้นที่ควรให้ความสำคัญเพราะสิ่งที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จและก้าวสู่ความเป็นเลิศในอาเซียนนั้นยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย กลายเป็นแนวคิด "Q-plus เลิศล้ำนำอาเซียน" โดยเปิดโอกาสการเรียนรู้ให้เด็กและเยาวชนไทยได้ปรับตัว เตรียมความพร้อมรองรับต่อสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และพัฒนาศักยภาพความฉลาดเฉลียว ก่อนประเทศก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึง
          "คอนเซปต์ Q-plus พัฒนามาจาก8-Quotient หรือเชาวน์ปัญญา ความฉลาดความเก่ง 8 ด้าน นอกเหนือจาก IQ หรือIntelligent Quotient คือความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา และ EQ หรือ  Emotion Quotient Zone หมายถึงความฉลาดทางอารมณ์  ซึ่งจุดเด่นนี้จะบ่งชี้ว่าเด็กแต่ละคนมีความสามารถต่างกันอย่างไร ซึ่งหากพ่อแม่และครูค้นพบก็จะช่วยส่งเสริมให้เด็กแต่ละคนสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้อย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่ง 6Q ที่เหลือประกอบไปด้วย
          AQ หรือ Adversity Quotient เป็นศักยภาพที่บุคคลสามารถเผชิญกับปัญหา CQ หรือ Creative Quotient ความฉลาดในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์HQ หรือ Health Quotient เป็นเชาวน์สุขภาพ คือความสามารถทางการจัดการและการบริหารสุขภาพ  MQ หรือMoral Quotient  คือ ระดับจริยธรรมศีลธรรมบุคคล  PQ หรือ Play Quotient หมายถึง ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น  และ SQ หรือ Social Quotient คือ ความสามารถในการเข้าสังคมมีมนุษยสัมพันธ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส การวางตัว บุคลิกภาพในการเข้าสังคมรวมถึงภาษากายขณะพูดกับผู้อื่น การตรงต่อเวลาและมารยาททางสังคม
          ดังนั้นการจัดการศึกษาท้องถิ่นในครั้งนี้จึงมีการจัดบูธกิจกรรมหลักที่เน้นเรื่องกระบวนการพัฒนาเด็กไทยสู่ความเป็นเลิศ โดยยึดหลักพื้นฐาน 8-Quotient ประกอบกับการเตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมอาเซียน ปี2558 อย่างเต็มรูปแบบ และบูธของสถานศึกษาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งเน้นเรื่องการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนด้านการจัดการศึกษา มีกิจกรรมต่างๆให้เด็กและเยาวชนไทยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรียนรู้ซึ่งและกัน จนกระทั่งนำไปสู่การพัฒนาตัวเองครอบครัว สังคมและประเทศชาติ รวมถึงในระดับภูมิภาคอาเซียนต่อไป