HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
[ วันที่ 02/07/2556 ]
ปัญหาสุขภาพเพศชายแก้ไขได้ถ้ารู้ทัน

ไลฟ์สไตล์ของผู้ชายไทยในปัจจุบันนั้นเมื่อเริ่มย่างเข้าสู่วัยทำงาน บทบาทความรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่การงานก็มักจะมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะในสังคมที่เร่งรีบและมีการแข่งขันสูงนั้น มักทำให้เกิดความเครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก รับประทานอาหารแบบไม่ถูกสุขอนามัย ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพแบบสะสม จนเมื่อย่างเข้าสู่วัยสี่สิบปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมนในร่างกายที่อาจเริ่มลดระดับลงไป เรียกว่า แอนโดรพอส คล้ายกับเพศหญิงในวัยที่จะหมดประจำเดือน     โดย  น.พ.ดำรงพันธ์ วัฒนะโชติ ผู้อำนวยการศูนย์โรคทางเดินปัสสาวะกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้บอกว่า จากปัจจัยข้างต้นแม้ว่าจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสมรรถภาพทางเพศซึ่งมักจะเป็นความรู้สึกที่บกพร่องในคุณภาพชีวิตไปหากไม่มีทัศนคติอื่นใด หรือพลังชีวิตใดที่ดีกว่าเข้ามาทดแทนได้ทัน แนวโน้มของความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้ามนั้นมีได้ตั้งแต่ที่พบบ่อยขึ้น คือ เรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งเป็นโรคฮิตติดอันดับหนึ่งของชาวอเมริกันและกลุ่มชาวยุโรป สแกนดิเนเวีย แต่ผู้ชายในแถบเอเชีย และในประเทศไทย ยังมีตัวเลขที่เป็นต่ำกว่าในต่างประเทศ
          ทั้งนี้ ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งในระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย โดยโรคที่มักพบในต่อมลูกหมากที่สำคัญมี 3 โรค ได้แก่
          1.โรคต่อมลูกหมากโต ซึ่งพบได้ในเพศชายอายุตั้งแต่ 40 ปีโดยเฉพาะเข้าอายุ 50-60 ปี ต่อมลูกหมากที่โตขึ้นนี้ จะกดเบียดท่อปัสสาวะให้แคบลง ทำให้มีอาการปัสสาวะผิดปกติ เช่นปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืนหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะขัดใช้เวลาปัสสาวะนาน ไม่พุ่ง หรือออกเป็นหยดๆ
          2.มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นโรคซึ่งพบในเพศชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ในระยะแรกๆ มักไม่แสดงอาการหรืออาจจะมีอาการคล้ายโรคต่อมลูกหมากโต รวมทั้งปัสสาวะหรือน้ำอสุจิมีเลือดปน มะเร็งในระยะต้นสามารถตรวจพบได้เมื่อแพทย์ตรวจร่างกาย โดยสวมถุงมือคลำต่อมลูกหมากผ่านทางช่องทวารหนักเมื่อมีการตรวจเช็กสุขภาพประจำปีและหรือตรวจเลือดร่วมด้วยเพื่อหาระดับของค่าพีเอสเอ (: PSA เอนไซม์ต่อมลูกหมาก)  และ
          3.ต่อมลูกหมากอักเสบ เป็นภาวะที่มีการอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียของเนื้อต่อมลูกหมากรวมทั้งจากเชื้อหนองในเทียม การอักเสบมักจะผ่านเข้าไปทางท่อปัสสาวะ ส่วนน้อย ผ่านทางกระแสเลือด บ่อยครั้งที่ตรวจไม่พบเชื้อใดๆ พบในกลุ่มอายุระหว่าง 30-40 ปีเป็นส่วนใหญ่
          ด้าน  ศ.นพ.สมบุญ เหลืองวัฒนากิจ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ คลินิกสุขภาพเพศชาย กล่าวเสริมว่า อีกหนึ่งอาการที่คุณผู้ชายทั้งหลายควรระวังนั่นคืออาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือที่เรานิยมเรียกสั้นๆ ว่า โรคอีดี หมายถึง การที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัว หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จจนเป็นที่พึงพอใจอยู่เป็นประจำหรืออย่างต่อเนื่อง มีสาเหตุหลักๆ มาจากเส้นเลือดตีบ เส้นประสาทเสื่อม ซึ่งเกิดจากเบาหวานความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ยาบางชนิด ภาวะฮอร์โมนเพศชายบกพร่อง อายุที่มากขึ้นหรือหลายๆ สาเหตุร่วมกัน และปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีกมากมายปัจจุบันนี้เข้าใจว่าอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศและอาการต่อมลูกหมากโตอาจจะมีสาเหตุร่วมกันเนื่องจากพบร่วมกันได้มากและจากการศึกษายังพบอีกว่า คนที่มีอาการต่อมลูกหมากโตยิ่งรุนแรงก็จะยิ่งพบภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้มากยิ่งขึ้นด้วย เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีอาการในช่วงอายุเดียวกันซึ่งอาจจะเกิดจากภาวะการทำงานมากเกินไปของระบบประสาทซิมพาเธติก ทำให้มีการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบในต่อมลูกหมากรวมทั้งเส้นเลือดในองคชาติ บางคนเชื่อว่าเกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงอวัยวะในอุ้งเชิงกรานได้น้อยลง มีผลทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การโตของต่อมลูกหมาก การบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะลดลง การยืดขยายของกระเพาะปัสสาวะได้น้อยลงและเกิดความเสื่อมของเส้นประสาทในองคชาติที่กระตุ้นให้องคชาติแข็งตัวได้
          "การรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จะรักษาเป็นขั้นตอน คือ ตรวจร่างกายในห้องปฏิบัติการ เช่น เบาหวานไขมัน การทำงานของตับ ไต ในรายที่ความต้องการทางเพศลดลงหรือตรวจร่างกายพบลูกอัณฑะขนาดเล็ก จำเป็นต้องได้รับการตรวจฮอร์โมนเพศชายร่วมด้วย การรักษาจะเริ่มจากวิธีง่ายๆ เช่น ยารับประทาน การใช้ปั๊มสุญญากาศ ถ้าไม่ได้ผลหรือไม่พึงพอใจ จะใช้ยาฉีดหรือการผ่าตัดใส่แกนองคชาติเทียมหรือใช้หลายๆ วิธีร่วมกัน ตามแพทย์จะวินิจฉัย"
          ปิดท้ายที่  น.พ.จรัสพงศ์ ดิศรานันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบปัสสาวะ บอกเพิ่มเติมว่า ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินก็ถือเป็นโรคที่ชายสูงวัยต้องระวัง ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้ป่วยต้องรีบไปห้องน้ำทันทีที่ปวดปัสสาวะ ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะหรือรอนานได้อาจมีอาการปัสสาวะบ่อย หรือบางรายอาจมีปัสสาวะเล็ดราดก่อนถึงห้องน้ำ ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของภาวะนี้แน่ชัด เชื่อว่าเกิดจากกล้ามเนื้อที่ผนังกระเพาะบีบตัวบ่อยกว่าปกติ โดยที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะหรือระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติ ซึ่งการตรวจวินิจฉัยภาวะนี้ไม่ได้มีความยุ่งยาก และสามารถรักษาในการควบคุมการปัสสาวะเป็นปกติได้ และต้องทำควบคู่กันไปทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และการใช้ยาเพื่อให้ได้ผลในการรักษาสูงสุด
 


pageview  1205871    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved