HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ผู้จัดการ 360 รายสัปดาห์ [ วันที่ 01/07/2556 ]
กว่าจะมาซึ่งงานวิจัยยา ไม่ธรรมดา ศาสตร์เบื้องหลังความสำเร็จคืออะไร มาดูกัน

   ความสำเร็จในการทำงานแต่ละอย่างนั้นถือว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่ทุกอย่างล้วนมาจากกระบวนการทางความคิดที่เป็นระบบ  ประกอบกับความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ที่สั่งสมจามประสบการณ์หลอมรวมกันกลายเป็นที่มาของความสำเร็จ เฉกเช่น บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GSK ผู้นำด้านการค้นคว้าวิจัยเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ระดับโลก เห็นความสำคัญของการเรียนรู้มุมมองใหม่จากภายนอก ได้ร่วมมือกับแมคลาเรนกรุ๊ป (McLaren group) ซึ่งมีทีมแข่งรถฟอร์มูลาวัน (F1) โดยมีการแบ่งปันความรู้ ความเชี่ยวชาญร่วมกัน แล้วนำแนวทางการทำงานไปปรับใช้ในองค์กร
          เป็นเวลา 50 ปี ที่ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด อยู่คู่คนไทยมายาวนาน โดดเด่นในฐานะบริษัทวิจัยและพัฒนายานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ด้านสุขภาพ ภายใต้แนวคิดว่า "ยาดีเข้าถึงได้" มีการดำเนินงานเพื่อสร้างการรับรู้และตระหนักถึงสุขภาพดีเพื่อคนไทยมาตลอด ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้น คือ "The Science behind Success" หวังแบ่งปันความรู้ระดับโลกแก่คนไทยด้านการขับเคลื่อนการเรียนรู้และสนับสนุนคนไทยในงานวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายยาดีเข้าถึงได้
          GSK ได้นำเบื้องหลังความสำเร็จของการทำงานแม็คลาเรน กรุ๊ป (McLaren Group) ซึ่งหนึ่งในธุรกิจ คือทีมแข่งรถชื่อดังของการแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน (F1) มีแนวทางการทำงานที่ประกอบด้วย ส่งเสริม่วัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูง การทำงานแบบทีมเวิร์คและมีวัฒนธรรมองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง มาเผยแพร่เพื่อให้นำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน GSK นำเสนอการสาธิต Pit Stop challenge (การเปลี่ยนยางและล้อของรถ F1) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัณต่อประสิทธิภาพของรถแข่ง และนับเป็นครั้งแรกที่ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก McLaren ทีมแข่งรถชื่อดังจากประเทศอังกฤษมาสาธิตและแสดงนวัตกรรมนี้ไนประเทศไทย โดยรถที่นำมาจัดแสดงและสาธิตการเปลี่ยนล้อและยาง คือ รถแข่ง Vodafone McLaren Mercedes รุ่น MP4-26 ปี 2011
          นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการ ของ GSK เปิดเผยว่า ตลอดเวลา 50 ปีที่ GSK ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ได้เพิ่มโอกาสการเข้าถึงยา และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ด้วยนโยบายหลักคือ "ยาดี เข้าถึงได้ หรือ Access to Medicines" ซึ่งส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ คือ การร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการทำกิจกรรม่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนการขับเคลื่อนอย่างบูรณาการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทย โดยได้ให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เช่นกระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสุขภาพ และการวิจัย พัฒนาอย่างเต็มที่
          กิจกรรมพิเศษ "The Science behind Success" เพื่อเรียนรู้ถึงเบื้องหลังศาสตร์แห่งความสำเร็จที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนา ถ่ายทอดความร่วมมือของทุกภาคส่วนผ่านการฝึกปฏิบัติในการเปลี่ยนล้อและยาง (Pit Stop Challenge) ของรถแข่ง รวมถึงมีการสาธิตเพื่อเสริมสร้างทักษะสำคัญของการพัฒนาบุคลากรตลอดจนองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง ซึ่งการพัฒนาความรู้ทางการวิจัยจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มศักยภาพและขยายขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาด้านสุขภาพให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป
          "กิจกรรมนี้นับเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมอีกกิจกรรมหนึ่งที่ GSK ร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐฯ และเอกชนในการร่วมสร้างองค์กรที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการเรียนรู้ค้นคว้า วิจัย และพัฒนา ซึ่งเป็นการเผยแพร่แนวความคิดและการดำเนินงานเชิงวิทยาศาสตร์ให้พนักงาน GSK และผู้ร่วมกิจกรรมได้นำไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน อันจะเป็นแรงผลักดันและแรงบันดาลใจให้กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมนอกจากพนักงาน GSK แล้วยังได้เชิญองค์กร หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจเข้าร่วมงานด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านวิทยาศาสตร์การวิจัย และพัฒนา ทั้งสิ้น เช่น ผู้บริหารองค์กร นักวิจัยนักวิทยาศาสตร์ นิสิต นักศึกษา" นายวิริยะ กรรมการผู้จัดการ GSK กล่าว
          ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ภาครัฐฯมีนโยบายส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อผลักดันให้เป็นกลไกการพัฒนาประเทศ เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่งขันสูง ดังนั้นหากประเทศไทยไม่ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนา จะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ โดยเฉพาะเมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ที่เป็นทั้งวิกฤตและโอกาส แต่หากไทยมีความพร้อมและใช้โอกาสนี้ในการเปิดตลาดใหม่จะถือเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง ซึ่งกิจกรรม"The Science behind Success" ก็นับเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยถ่ายทอดแนวคิดและการดำเนินงานเชิงวิทยาศาสตร์และการวิจัยนำไปสู่ผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
          "การแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน เป็นการแข่งขันด้วยความเร็ว แม้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็มีค่า หมายถึงผลแพ้ชนะได้เลย โดยเฉพาะในช่วงเวบาที่รถจะเข้ามาใ Pit stop จะทำให้อย่างให้ให้รถแข่งใช้เวลาน้อยที่สุด นั่นคือการใช้ระยะเวลาการบริการที่สั้นที่สุดนั่นเอง หากดูเผินๆเหมือนไม่มีอะไรแต่ถ้าดูลึกลงไปจะเห็นว่ามีการวิจัยและพัฒนา มีเทคโนโลยี มีการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่คนไทยจะได้มีโอกาสเรียนรู้จากกิจกรรมนี้"นายพงศ์เทพ กล่าว
          แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจการ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า งานวิจัยเป็นกระบวนการคิดที่เป็นระบบ คิดอย่างวิทยาศาสตร์ที่ทำให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้และพัฒนาเชิงคุณภาพ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทั้งต่อตัวบุคคบ องค์กร และประเทศชาติ ซึ่งกระบวนการที่จะเรียนรู้และพัฒนาเชิงคุณภาพหนีไม่พ้นเรื่องงานวิจัย ซึ่งงานวิจัยไม่ใช่แค่เกิดในห้องแล็ป แต่มนุษย์ต้องมีความใฝ่รู้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้
          นับเป็นความสำเร็จที่ดูเหมือนจะไปกันไม่ได้ แต่หากมองให้ลึกถึงประโยชน์ ถือว่า"น่าทึ่ง"เพราะสามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมและทุกธุรกิจ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำมาปรับใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์และตรงตามวัตถุประสงค์ขององค์กรที่สุด


pageview  1205868    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved